Monday, 26 May 2025
ฐิติภัสร์โชติเดชาชัยนันต์

'ส.ส.ฐิติภัสร์' ประสาน พม.-ตร.ช่วยเด็ก 5 ขวบหนีออกจากบ้าน หลังถูกแม่ตี พบ แม่ติดสุราเรื้อรัง คุมตัวเองไม่ได้ เบื้องต้นทำข้อตกลงให้ป้าดูแล ก่อนนำตัวแม่ส่งบำบัด สัปดาห์หน้า 

จากกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยในกรุงเทพมหานคร เข้าช่วยเหลือหนูน้อย อายุเพียง 5 ขวบ ใส่ชุดโกโกวา หนีออกจากบ้านมาอยู่ภายในซอยรามคำแหง 39  สอบถามหนูน้อยบอกว่าน้อยใจแม่ที่ทุบตีเธอ หลังร้องหิวข้าว ขณะที่ญาติๆ พากันเอือมระอาผู้เป็นแม่ วอนเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดูแลนั้น

ล่าสุด น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง พรรคพลังประชารัฐ ประสานเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และตำรวจ สน.วังทองหลาง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่บ้านของเด็กวัย 5 ขวบ พบว่า แม่ของเด็ก ซึ่งข้อเท็จจริงคือยาย มีอาการติดสุราเรื้อรัง เวลาเมาจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และทำร้ายทุบตีน้อง เนื่องจากน้องงอแงและซนตามประสาเด็ก เด็กจึงหนีออกจากบ้านไปตามหาพ่อ ซึ่งคือตา แต่ตัวคุณตา ไปต่างจังหวัด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ไปพบตัวน้องจึงพาไปโรงพักและส่งกลับบ้านเมื่อช่วงเช้า

เบื้องต้นทาง พม.ต้องการให้น้องวัย 5 ขวบอยู่ในความดูแลของ พม.แต่ทางญาติ คือ ป้าศรี ป้าของน้อง ยืนยันจะดูแลน้องเอง จึงให้ทำข้อตกลงว่า ให้น้องวัย 5 ขวบ อยู่ในความดูแลของป้าศรีชั่วคราว ไม่ให้แม่ ซึ่งก็คือ ยาย เข้ามาดูแล แล้วหากมีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเด็กเกิดขึ้นอีก เจ้าหน้าที่ พม.จะมารับตัวเด็กไปดูแลทันที รวมทั้งให้ทางญาติประสานขอสูติบัตร ซึ่งทราบว่าอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด นำกลับมาที่ กทม.เพื่อให้เด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาและสิทธิต่างๆ ที่พึงได้รับ

‘กฤษฎา-รมช.คลัง’ คิกออฟ ‘โครงการ บสย. Business School’ ดึง ‘บสย.- ธปท.’ ให้ความรู้นักศึกษาเพื่อก้าวสู่ SMEs รุ่นใหม่

ไม่นานมานี้ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล และนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง สนับสนุนให้หน่วยงานจากภาคการเงิน ภาคการศึกษา และภาคการพัฒนาสังคม ร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะทางการเงินให้กับประชาชนถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของกระทรวงการคลังที่สำคัญด้านการสร้างโอกาส และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ล่าสุด ตนพร้อมด้วยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จัด ‘โครงการ บสย. Business School’ โดยเริ่ม Kick Off โครงการที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว บสย. และธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือร่วมกันเป็นวิทยากรให้ความรู้ในหลักสูตรทางด้านการเงิน เพื่อเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวไปสู่การตั้งธุรกิจ และผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ให้กับนักศึกษา โดยเป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประชาชนทุกกลุ่มมีความรู้พื้นฐานทางด้านการเงิน สำหรับนำไปใช้กับครอบครัว และนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจได้ต่อไปในอนาคต 

‘เอกนัฏ’ สั่ง!! ‘ทีมตรวจสุดซอย’ ลุยต่อเนื่องตรวจ 2 โรงงาน เชื่อมโยง!! ไฟไหม้โรงงานพลาสติกเถื่อน จ.สมุทรสาคร

(12 ก.พ. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ส่งทีมตรวจสุดซอยลุยตรวจต่อเนื่อง นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ขยายผลเหตุเพลิงไหม้โกดังทลายเครือข่ายที่เคยพบเศษพลาสติกกว่า 6,900 ตัน พร้อมตรวจค้น 2 โรงงานที่มีความเชื่อมโยงกับโรงงานพลาสติกเถื่อน จ.สมุทรสาคร ที่ถูกสั่งปิด เมื่อวันที่ 1 ก.พ.68 ที่ผ่านมา

น.ส.ฐิติภัสร์กล่าวว่า ในที่เกิดเหตุเพลิงไหม้พบป้ายชื่อบริษัทที่ติดอยู่ คือ บริษัทเถิงฟา พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด ตั้งอยู่ที่ 288/6 หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีนายฟู่ซิน หลัว เป็นหนึ่งในกรรมการจากการขยายผลพบอีก 2 บริษัทที่มีความเชื่อมโยงกัน คือ 1) บริษัท ยูนิโบร เมทัล (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่ที่ 288/6 หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีนายฟูควน ลัว และนายฟู่ซิน หลัว เป็นกรรมการ ประกอบกิจการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย 2) บริษัทเถิงต๋า พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด ตั้งอยู่ที่ 288/12 หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีนายฟูควน ลัว เป็นกรรมการ ประกอบกิจการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการตรวจค้นทั้ง 2 บริษัท พบเศษพลาสติกสายไฟนำเข้าจากต่างประเทศ บางส่วนมีลักษณะคล้ายกับเศษพลาสติกสายไฟในโกดังที่เกิดเหตุไฟไหม้ โดยนายฟูควน ลัว กรรมการบริษัท ยูนิโบร เมทัล (ไทยแลนด์) จำกัด รับสารภาพเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ ยังตรวจพบขยะอิเล็กทรอนิกส์และแผ่น PCB ถูกบดย่อยกองอยู่และในถุง big bags เป็นจำนวนมากในพื้นที่ ซึ่งมีบริษัท บี เค รีไซเคิล จำกัด เป็นเจ้าของ ส่วนการตรวจค้นบริษัท เถิงต๋า ที่ตั้งอยู่ติดกัน พบมีการลักลอบประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนกกฎหมายไม่ปฏิบัติตามประกาศเรื่องสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว

พนักงานเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมและส่งตัวนายฟูควน ลัว กรรมการบริษัท ยูนิโบร เมทัล (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทเถิงต๋า พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด และบริษัทเถิงฟา พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด ส่งตัวไปดำเนินคดีที่ บก.ปทส. พร้อมทั้งดำเนินคดีกับผู้มีส่วนกระทำความผิดทั้งหมดอย่างถึงที่สุด

“หากประชาชนพบเห็นปัญหาหรือเหตุต้องสงสัยเกี่ยวกับการประกอบการอุตสาหกรรมที่ไม่ถูกต้องหรือสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐาน มอก. สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่าน ‘แจ้งอุต’ หรือไลน์ไอดี ‘traffyfondue’ เพื่อกระทรวงฯ จะเร่งส่งทีมสุดซอยลงพื้นที่จัดการกับปัญหาให้ประชาชนในทันที” น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย

‘เอกนัฏ’ ส่ง!! ‘ทีมสุดซอย’ กำราบ โรงงานเหล็ก BNSS ในนิคมฯ เมืองชลฯ ลงดาบ 5 ข้อหาโทษหนัก จำคุก 10 ปี ตั้งสอบ จนท. ฐานปล่อยผีเหล็ก IF ระบาด

(10 พ.ค. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการตรวจสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ ‘ทีมสุดซอย’ พร้อมด้วย กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่ บริษัท บี เอ็น เอส เอส สตีลกรุ๊ป จำกัด จังหวัดชลบุรี เพื่อตรวจสอบกระบวนการผลิตและคุณภาพผลิตภัณฑ์เหล็กที่ผลิตจากโรงงานนี้ ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนจังหวัดภูเก็ตว่า ซื้อเหล็กเส้นจากโมเดิร์นเทรดแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต เพื่อนำไปสร้างอาคาร แต่เมื่อนำมาดัดโค้งงอปรากฎว่าเหล็กหัก จึงได้ประสานมายังทีมสุดซอยเพื่อตรวจสอบ 

“เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ตนำตัวอย่างเหล็กจากหน้างานบริเวณที่ก่อสร้าง ส่งมาตรวจวิเคราะห์ที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย พบเหล็กที่ส่งมาตรวจทั้ง 10 ท่อนไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ตกค่าโบรอนทั้งหมด“ นายเอกนัฏ กล่าว

นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวเสริมว่า จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์เหล็กข้ออ้อย มีอักษร BNS DB16 SD4oT IF กำกับ ซึ่งเป็นเหล็กที่ผลิตโดย บริษัท บี เอ็น เอส เอส สตีลกรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนประกอบกิจการผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ชนิดเหล็กเส้นกลม เหล็กข้ออ้อย และเหล็กรูปพรรณ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมชลบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ใช้เตาหลอมแบบ IF ทำให้ไม่สามารถควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐาน ตรวจพบการกระทำความผิดหลายเรื่อง อาทิ ไม่ขออนุญาตแจ้งเดินเครื่องจักร ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน EIA ติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มเติมที่เข้าข่ายขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เหล็กไม่เป็นไปตามมาตรฐานในส่วนของค่าโบรอน ซึ่งตรงกับผลการตรวจวิเคราะห์ล่าสุดโดยสถาบันเหล็กฯ ตามที่ประชาชนจังหวัดภูเก็ตร้องเรียนมา และยังมีกรณีลักลอบจำหน่ายกากอุตสาหกรรมด้วย

”โรงงานแห่งนี้มีพฤติกรรมทำผิดเป็นระบบ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ลักลอบประกอบกิจการ ฝ่าฝืน กฎหมายหลายฉบับ จึงต้องจัดการให้เด็ดขาด” นางสาวฐิติภัสร์ ระบุ

นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวต่อว่าจากการตรวจสอบเชิงลึกพบสัญญาว่าจ้างผลิตเหล็กของ บริษัท เวล เอสทาบลิช จำกัด ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และเมื่อตรวจสอบจากเอกสารภายในบริษัท ประกอบคำบอกเล่าของพนักงานพบว่า มีความเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย และมีการตั้งบริษัทเพื่อรับเป็นนายหน้าจัดหาวัตถุดิบและจำหน่ายเหล็ก ซึ่งในวันที่เข้าตรวจค้นยังพบพฤติกรรมต้องสงสัยของชาวจีนหลายคน ซึ่งในส่วนนี้ กขค. จะขยายผลและเร่งตรวจสอบโดยเร็วต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งดำเนินคดีกับบริษัทฯ 5 ข้อหา คือ 
1. ทำผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้าน หรือทั้งจำและปรับ 
2. ติดเครื่องหมาย มอก. บนผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้าน หรือทั้งจำและปรับ 
3. จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ 
4. ทำลายเครื่องหมายและป้ายคำเตือนที่เจ้าพนักงานยึดอายัดของกลาง โทษคดีอาญาจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ  
5. เคลื่อนย้ายทำลายของกลางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ พร้อมสั่งให้บริษัทฯ รีบดำเนินการเรียกคืนผลิตภัณฑ์เหล็กที่จำหน่ายออกสู่ท้องตลาดกลับมาทั้งหมด และให้แจ้งรายละเอียดการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กของบริษัทฯ ทั้งหมดภายใน 7 วัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ผู้รับไปจำหน่ายและประชาชนทราบโดยเร็ว

“นอกจากนี้จะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องด้วยว่า เหตุใดถึงปล่อยให้บริษัทฯ แห่งนี้มีการฝ่าฝืนทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมต้องขอบคุณประชาชนที่เป็นหูเป็นตาให้ความร่วมมือในการร่วมกำจัดปัญหาโรงงานเถื่อนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายให้สิ้นซากไป” นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top