Tuesday, 20 May 2025
ชิปขาดตลาด

'ไบเดน' เคาะ 1.86 ล้านลบ. หนุนหนักผู้ผลิตชิปในประเทศ หวังสกัดผู้เล่นต่างชาติ คาดสะเทือนอุตฯ ชิปทั่วโลก

ไบเดน ลงนามร่างกฎหมายมูลค่า 52,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.86 ล้านล้านบาท เพื่อส่งเสริมการผลิตและพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ หรือ 'ชิป' ในประเทศ หวังให้ได้เปรียบด้านเทคโนโลยีในช่วงที่เผชิญการแข่งขันจากจีนมากขึ้น 

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวในพิธีลงนามว่า กฎหมายชิปและวิทยาศาสตร์ (CHIPS and Science Act) เป็นการลงทุนในประเทศครั้งเดียวในชีวิตที่จะทำให้สหรัฐฯ ขึ้นเป็นผู้นำโลกอีกครั้งตลอดหลายทศวรรษหน้า 

กฎหมายฉบับนี้ ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือนก่อน มีมาตรการจูงใจด้านการผลิตชิปมูลค่า 39,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.38 ล้านล้านบาท งบสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาชิปรวมทั้งพัฒนากำลังคน 13,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 467,700 ล้านบาท งบส่งเสริมกิจกรรมห่วงโซ่อุปทานและอื่น ๆ อีก 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 17,715 ล้านบาท และมาตรการลดหย่อนภาษีการลงทุน 25% ให้แก่การผลิตชิปและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง

ทำเนียบขาว ระบุว่า การผ่านร่างกฎหมายนี้ช่วยกระตุ้นให้มีการลงทุนใหม่ ๆ ด้านชิป เช่น ไมครอนประกาศลงทุนผลิตชิปความจำมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯ มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 10% 

ร่างกฎหมายนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาวะขาดแคลนชิปเรื้อรังที่กระทบต่อการผลิตสินค้าหลากหลายอย่างตั้งแต่ยวดยาน อาวุธ เครื่องซักผ้า ไปจนถึงวิดีโอเกม จะลดหย่อนภาษีการลงทุน 25% ให้แก่โรงงานผลิตชิป และจะให้ทุนวิจัย 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 7 ล้านล้านบาท เป็นเวลา 10 ปี เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับจีน 

สมาชิกสภาสหรัฐฯ หลายคน เผยว่า ปกติแล้วจะไม่ผ่านร่างกฎหมายที่ให้เงินอุดหนุนมหาศาลแก่ภาคธุรกิจเช่นนี้ สาเหตุที่ให้ผ่านเพราะเห็นว่า จีนและสหภาพยุโรป หรือ EU ได้ให้มาตรการจูงใจจำนวนมากแก่บริษัทชิปของตนเอง นอกจากนี้ ยังเป็นเรื่องความเสี่ยงด้านความมั่นคงของประเทศและปัญหาเรื่องห่วงโซ่อุปทานโลก 

ส่วนสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและหอการค้าระหว่างประเทศจีน แถลงว่า กฎหมายสหรัฐฯ จะกระทบต่อเสถียรภาพห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมชิปทั่วโลก เพราะส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมกับจีนและประเทศอื่นๆ ที่มีอุตสาหกรรมชิป ขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการเติบโตด้านนวัตกรรม 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top