Tuesday, 22 April 2025
ชาติไทยพัฒนา

‘กัญจนา’ ไม่เห็นด้วย!! นำ ‘หมีแพนด้า’ เข้าไทย แนะ!! ควรเอาเงินไปดูแล ‘ช้าง’ บ้านเราดีกว่า

เมื่อวันที่ 30 ม.ค.67 น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ปรึกษา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โพสต์เฟซบุ๊กกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง หารือกับนายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และ รมว.การต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายหวัง อี้ยินดีสนับสนุนให้ส่งหมีแพนด้ามายังประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งนั้น ระบุว่า "เคยแสดงความไม่เห็นด้วยไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปีก่อน ตอนมีข่าวใหม่ๆ ทั้งที่ดิฉันเป็นคนที่รักแพนด้ามาก

ขอกล่าวเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยอีกครั้ง

1. แพนด้าอยู่จีนดีแล้ว เขาเลี้ยงแต่ละตัวในพื้นที่กว้าง มีสนามส่วนตัว อากาศเหมาะสม

2. ส่วนจัดแสดงแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่เล็ก พื้นที่จำกัด เป็นห้องแอร์ ไม่เป็นธรรมชาติเลย แพนด้าจะมีโอกาสออกสวนเล็กๆ ยามอากาศหนาวเพียงไม่เกินปีละ 1 สัปดาห์ ที่เขาจะได้เจออากาศธรรมชาติ

3. ค่าเช่าแพนด้าแพงมาก ปีละหลายสิบล้าน

4. กระแสแพนด้าในไทยหมดไปแล้ว

5. กระแสช้างไทยมาแรง ควรใช้เงินดูแลช้างและสัตว์ในบ้านเรา รวมทั้งทำแหล่งอาหารสัตว์ป่า แก้ปัญหาระหว่างคนกับช้าง

สรุป... แพนด้าอยู่จีนดีกว่า ควรใช้เงินเพื่อสัตว์ในบ้านเรา และไม่ควรใช้สัตว์เป็นทูตแล้ว"

'วราวุธ' ปลื้ม!! มดชนิดใหม่ของโลกชื่อ 'มดท็อป' เปรียบเหมือนชาติไทยพัฒนา ขยัน-ทำงานเป็นทีม

(9 ก.พ. 67) ที่กระทรวงพม. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้ามอบป้ายข้อมูลอนุกรมวิธาน ‘มดท็อป’ โดยนายวราวุธ เปิดเผยว่า เมื่อต้นปี 2567 วารสาร Far Eastern Entomologist ค.ศ. 2024 ตีพิมพ์การค้นพบมดชนิดใหม่ของโลก ซึ่งต้องขอบคุณทางกรมอุทยานและผู้เชี่ยวชาญทุกคน เพราะมดชนิดใหม่ที่เจอนี้เขาเรียกกันว่า ‘มดท็อป’ หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ‘Plagiolepis silpaarchai sp. n.’ ซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่และทีมงานทุกๆ คนที่ให้เกียรติกับครอบครัวศิลปอาชา ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของตระกูล และทุ่มเทการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาภายใต้กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องขอขอบคุณกรมอุทยานฯ เพราะมดชนิดใหม่นี้ได้มีการค้นพบในช่วงตอนปลายที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่พอดี

“และที่สำคัญผมดีใจมากที่มีมด ชื่อมดท็อป เพราะมดเป็นตัวแทนของความเป็นทีมเวิร์ก พวกเราคงไม่มีใครเคยเห็นมดอยู่ตัวเดียว เวลามดทำงาน จะทำงานกันเป็นทีม และมดเป็นงานก็จะขยันทำงาน มีการสร้างโครงข่าย สร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์มากภายในป่า ดังนั้น การได้มีชื่อมดท็อปนั้น จะสะท้อนให้เห็นว่าการทำงานของผมเอง และทีมงานเราทำงานคนเดียวไม่ได้ เราทำงานกันเป็นทีม เป็นท็อปทีม แล้วสะท้อนถึงการทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนาที่เราเป็นมดงาน เพราะหัวหน้าพรรคในตอนนี้เป็นมดท็อปแล้ว” นายวราวุธ กล่าว

'ชทพ.' หนุน 100% ยื่นญัตติด่วนถวายอารักขาขบวนเสด็จฯ  ชี้!! ถ้าอยากเรียกร้องรักษาสิทธิ ก็ต้องไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น 

(12 ก.พ.67) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเตรียมเสนอญัติด่วนเกี่ยวกับเรื่องการถวายอารักขาขบวนเสด็จ ว่า…

ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่าว่าแต่ในประเทศไทยเลย เพราะในทุก ๆ ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ขบวนของประธานาธิบดีจะมีการอารักขา มีการปิดถนนอย่างแน่นหนามาก หากมีผู้ใดแทรกแซงเข้ามา ซึ่งตนเองเคยเห็นกับตา บวกกับในสารคดีก็จะเห็นว่าบุคคลผู้นั้น หรือยานพาหนะนั้น จะถูกปาดจนตกถนน หรือโดนล็อกตัวออกไป ดังนั้นประเทศไทยก็เช่นกัน การถวายอารักขาให้กับพระบรมวงศานุวงศ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเรานั้น ตนถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

“พรรคชาติไทยพัฒนาทำงานไม่ได้หลับหูหลับตา เราเห็น เราสัมผัสด้วยตัวเอง โดยเฉพาะการทำงานถวายพระบรมวงศานุวงศ์ ในสถาบันนั้น ได้ก่อให้เกิดการพัฒนาต่อประเทศไทยมากน้อยแค่ไหนเพียงใด ดังนั้นบางครั้ง การที่เราจะเรียกร้องให้มีการรักษาสิทธิของบุคคลต่าง ๆ นั้น แต่ละคนก็ต้องเข้าใจในการที่จะไม่ละเมิดสิทธิคนอื่นเช่นกัน ดังนั้น พรรคชาติไทยพัฒนาเราสนับสนุนญัตตินี้ร้อยเปอร์เซ็นต์” นายวราวุธ ระบุ

'วราวุธ' ยัน!! 'ชาติไทยพัฒนา' เห็นพ้องพรรคร่วมรัฐบาล  ทำประชามติ 3 รอบ แก้รธน. ขอแค่ต้องไม่แตะหมวด 1-2

(22 เม.ย.67) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 7 พรรคร่วมรัฐบาลหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำประชามติ 3 รอบ ว่า จากการหารือร่วมกันในพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเห็นตรงกันว่า รัฐธรรมนูญจะมีการแก้ไขโดยที่พวกเราจะไม่แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2 เพราะถือเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล และเป็นนโยบายที่สำคัญของทุกพรรคการเมืองด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคชาติไทยพัฒนาเราให้ความสำคัญกับการเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ 

ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะอย่างไรก็แล้วแต่หมวด 1 และหมวด 2 จะต้องไม่มีการไปกระทบ หรือมีการแก้ไขใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อทุกพรรคการเมืองเห็นตรงกันแล้วเราก็จะเดินหน้าไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำประชามติ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ซึ่งแนวทางนี้ทราบว่าในวันพรุ่งนี้ (23 เม.ย.) รองนายกฯ ภูมิธรรม จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งก็เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนเห็นพ้องกันไปในทิศทางเดียวกัน เพราะได้มีการพูดคุยกันแล้ว

'เพื่อไทย' ซื้อเวลาให้ 'อุ๊งอิ๊ง' ส่วน 'ภท.' เมากัญชารอบ 2 กองทัพอนุรักษ์นิยม ยอม 'พท.-ทักษิณ' ไว้ยันอำนาจสีส้ม

"...ผลเสี่ยงทาย ของกิน 7 สิ่ง ของ พระโคพอ พระโคเพียง ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 2567 ปีนี้ พระโคกินน้ำ หญ้า เหล้า ขณะที่พระยาแรกนาเสี่ยงทายผ้านุ่ง ได้ผ้า 5 คืบ ทำนายว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี..."

'เล็ก เลียบด่วน' นำผลเสี่ยงทายในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญมาบันทึกไว้ เพื่อเป็นกำลังใจให้พี่น้องเกษตรไทย...มิได้มีเจตนาแขวะประเด็นพระโคไม่กินข้าว ไม่กินข้าวโพด แต่ประการใดไม่...ขอบอก!!

สุดสัปดาห์นี้ ขอจับชีพจรพรรคการเมือง พรรคร่วมรัฐบาลและขอวิเคราะห์ทำนายเสี่ยงทาย ไฮไลต์ที่น่าสนใจ...พอเป็นสังเขป จากพรรคเล็กไปถึงพรรคใหญ่

- พรรคประชาชาติ: ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรค, นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรค และร่มเงาใหญ่อย่างท่านวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ จะยังเดินหน้าเป็น 'เพื่อไทย' สาขาด้ามขวานได้เป็นอย่างดี ภายใต้เงื่อนไขคนชื่อ 'ทักษิณ' อย่าโผล่ไปสะกิดแผลกรือเซะ, ตากใบ เป็นอันขาด...

- พรรคชาติไทยพัฒนา: วราวุธ ศิลปะอาชา 'ลูกท็อป' ยังโชว์ฟอร์ม รมต.พม. ได้ดีพอประมาณ แต่การพัฒนาขยายพรรคยังไม่เข้มแข็งพอ ทราบมาว่าตอนนี้ 'เดอะท็อป' กำลังจะเปลี่ยนม้าศึกในศึกเลือกตั้งนายกฯ อบจ. เดือน ก.พ. 2568 เป็นคนใหม่ ว่ากันว่านี่น่าจะเป็นรอยปริรอยร้าว ณ ดินแดนบรรหารบุรี ที่ไม่ควรมองข้ามความปลอดภัย...

- พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.): เมื่อกฤษฎา จีนะวิจารณะ ลาออกจาก รมช.คลัง ด้วยเหตุ 'ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้' ก็ต้องเปลี่ยนตัว รมต.เป็นคนใหม่ แต่น่าจะตำแหน่งใหม่ไม่ใช่ รมช.คลัง และไม่ใช่ รมช.อุตสาหกรรม อย่างที่สื่อบางค่ายพยายามพูดชี้นำ ส่วนความเป็นเอกภาพปึกแผ่นของพรรค 'เลขาขิง' รับประกันว่ายังปึ้ก...อยากรู้ละเอียดเพิ่มรีบไปฟังบทสัมภาษณ์เลขาขิงโดยสื่ออาวุโส 'สำราญ รอดเพชร' ในเพจของพรรคได้เลย...

- พรรคพลังประชารัฐ: สั้น ๆ ได้ใจความยามนี้...ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ถือดุลอำนาจเหนือพี่น้อง สองป. คือ ป.ป้อม ป.ป๊อด แต่ก็อยู่กันไปแบบให้เกียรติกัน...มือปั่นข่าวว่า ป.ป้อมจะเป็นนายกฯ ก็ยังปั่นต่อไปดีกว่าอยู่เปล่า ๆ...555

- พรรคภูมิใจไทย: เป็นพรรคที่นับว่าน่าสงสารที่สุดในยามนี้ เพราะต้อง 'กลืนเลือด' อึก ๆ กรณีกัญชา...ที่พรรคเพื่อไทยจะเอาไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม เพราะแรงกดดันจากสังคมและพี่น้องชาวอีสานที่คับแค้นเรื่องยาเสพติดอย่างกัญชา รวมทั้งนโยบายยาบ้า 5 เม็ด...จากนี้ไปเรื่องกัญชาจะกลายเป็นแผลเป็นสำหรับภูมิใจไทย ยกธงขาวก็เสียฟอร์มเสียหาย ไปต่อก็เรือหาย...เลือกตั้งรอบหน้าจะขายอะไร...จะขายนโยบาย อสม. เพื่อไทยก็เอาไปหมดแล้ว...อ้าว!! รอดู 14 พ.ค. เลขาพรรค ไชยชนก ชิดชอบ จะมาปล่อยของ!!

- พรรคเพื่อไทย: จะว่าไปพรรคนี้น่าจะเละตุ้มเป๊ะที่สุด ตั้งแต่ปรับ ครม. / แบ่งงานรัฐมนตรี วงแตกแยกวงกันวุ่นวาย วันก่อนจัดงาน '10 เดือนไม่ต้องรอทำต่อให้เต็ม 10' อุ๊งอิ๊งลูกสาวนายห้างก็ทำระเบิดใส่พรรคขณะโชว์วิสัยทัศน์ ว่า "ความเป็นอิสระของแบงก์ชาติเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ..." และที่วุ่นวายไม่จบหักลบกลบหนี้แล้วมีแนวโน้มจะขาดทุนป่นปี้ก็คือ กรณีข้าว 10 ปีที่ 'สหายใหญ่' ภูมิธรรม เวชยชัย พาใครต่อใครไปกินข้าวโชว์เมื่อวันก่อน...

นั่นยังไม่นับ...บทบาทของนักโทษชายที่อยู่ระหว่างการพักโทษอย่าง 'ทักษิณ ชินวัตร' ที่เคลื่อนไหวรัว ๆ ในหลายเรื่อง ส่งแรงกระเพื่อมเชิงลบไม่จบสิ้น ซึ่งขออนุญาตไม่พูด ณ ที่นี้..

อย่างก็ตามพรรคเพื่อไทยและทักษิณคงประเมินแล้วว่า ตราบใดดุลอำนาจ-สมการการเมือง ยังเป็นอย่างนี้ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยังต้องใช้บริการเพื่อไทยเพื่อยันกับอำนาจสีส้ม หนักนิดเบาหน่อย ก็คงจะปล่อยให้เพื่อไทย-ทักษิณ ตอนนี้กำลังเร่งบ่มแก๊สอุ๊งอิ๊ง ให้สุกงอม เป็นนายกฯ ได้ทันปี 2570

จบข่าว

‘นิกร จำนง’ เข้าพบทูตญี่ปุ่น กล่าวขอโทษจากใจแทนคนไทย พร้อมฝากเงินส่วนตัวคืนนทท.ญี่ปุ่น เหตุตุ๊กตุ๊กเรียกเงิน 6 พัน

(29 พ.ค. 67) นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า…

“วันนี้ (เมื่อค่ำวันที่ 28 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา) เป็นวันที่ผมรู้สึกดีมาก ๆ ที่ได้มีโอกาสทำหน้าที่ในฐานะเป็นคนไทยคนหนึ่งได้กล่าวคำขอโทษแทนพี่น้องร่วมชาติที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เรียกรับเงินค่ารถตุ๊ก ๆ มากเกินไปอย่างไม่เป็นธรรมจากแขกของประเทศไทยที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น โดยผมได้ขอโทษต่อท่านเอกอัครราชทูต นาย OTAKA Masato ในงานเลี้ยงต้อนรับ เนื่องในโอกาสเข้ารับหน้าที่เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยท่านใหม่ในวันอังคารที่ 28 พฤษภาคม ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ 

และได้เรียนท่านว่าผมขอฝากมอบเงินส่วนตัวเท่าจำนวนที่ประชาชนของท่านจำเป็นต้องจ่ายไปฝากไว้กับเจ้าหน้าที่สถานทูตญึ่ปุ่นของท่าน โดยผมได้ประสานงานขอให้สืบหาตัวผู้เสียหายชาวญี่ปุ่นมาสัปดาห์กว่าแล้วตอนที่ผมได้ Post กรณีนี้ลงมาเมื่อวันที่ 13 พ.ค. นี้แต่ยังไม่พบต้ว ไม่เป็นไร ยังรอต่อไปได้ 

ซึ่งผมได้แจ้งท่านว่า ได้แจ้งให้กรมขนส่งทางบกที่ผมเคยกำกับดูแลช่วงดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีให้ลงโทษผู้กระทำไปตามสมควรแก่ความผิดเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ขอโทษชาวญี่ปุ่นไปให้ประจักษ์ เมื่อได้กระทำไปแล้วจึงรู้สึกสบายใจในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบต่อประเทศไทยอันเป็นแผ่นดินเกิดของพวกเราเองครับ”

‘วราวุธ’ ย้ำ!! จุดยืน 'ชทพ.' ถึงร่าง 'พ.ร.บ. นิรโทษกรรม' ต้องไม่มีเรื่อง 'ม.112-อาญาร้ายแรง-คอร์รัปชัน'

(4 มิ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึง การศึกษาแนวทาง ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า พรรคชาติไทยพัฒนาได้ส่งนายนิกร จำนงค์ เป็นตัวแทน และตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติม ซึ่งตามนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา ในร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมจะต้องไม่มี 3 เรื่อง คือ...

1.ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอาญามาตรา 112 
2. ไม่เกี่ยวข้องกับอาญาที่ร้ายแรง
และ 3. ไม่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชัน

ส่วนกรณี ที่มีความเห็นจากหลายพรรคการเมืองต้องการให้บรรจุ คดีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมอยู่ด้วยนั้น นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุปและเป็นเรื่องปกติ ที่หลายฝ่ายจะมีความคิดและข้อเสนอที่หลากหลาย แต่ยังไม่มีการลงมติหรือบทสรุปใด

'จันทร์ส่องหล้า' เอฟเฟกต์!! คลังสมองชาติไทยพัฒนา ยื่นใบลาออก หวั่นถูกยุบ-ตัดสิทธิ์การเมือง หลังพรรครับเทียบเชิญหารือนายกฯ ใหม่

(21 ส.ค. 67) รายงานข่าวจากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แจ้งว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายรัฐชทรัพย์ นิชิด้า กรรมการยุทธศาสตร์และประชาสัมพันธ์ อดีตที่ปรึกษานายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา และตำแหน่งต่าง ๆ ในพรรคทั้งหมด โดยมีการยื่นใบลาออกต่อนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมให้เหตุผลเพียงสั้น ๆ ว่า ต้องการไปทำงานในธุรกิจส่วนตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามคนใกล้ชิดของนายรัฐชทรัพย์ กล่าวว่า สาเหตุการลาออกในครั้งนี้ เนื่องจากผู้บริหารและสมาชิกพรรคหลายคน มีการหารือกันอย่างไม่เป็นทางการ หลังจากที่พรรคชาติไทยพัฒนาส่งตัวแทนไปหารือการจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในช่วงเย็นวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทางกลุ่มผู้บริหารเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้ผ่านคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค และมีความสุ่มเสี่ยงถูกยุบพรรคได้ ซึ่งอาจส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองได้

ทั้งนี้ เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้เชิญแกนนำพรรคการเมืองมาหารือ เพื่อเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ๆ เพราะขาดคุณสมบัติตามมาตรา 24 แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ประกอบรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 98 เพราะเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีทุจริต 

ดังนั้นการที่นายทักษิณ เทียบเชิญพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล มาร่วมหารือเพื่อตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และจัดตั้งรัฐบาล จึงเข้าข่ายกระทำความผิดตามมาตรา 29 แห่ง พรป.พรรคการเมือง ซึ่งกำหนดห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งไม่ใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม โดยมาตรา 108 กำหนดให้ผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ห้าถึงสิบปี

นอกจากนี้แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ปล่อยให้นายทักษิณ ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้ามากระทำการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคตัวเอง ก็มีความผิดตามมาตรา 28 ของกฎหมายฉบับเดียวกัน ซึ่งมาตรา 92 กำหนดให้พรรคการเมืองที่ฝ่าฝืนต้องถูกยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคด้วย

จากสาเหตุดังกล่าวสมาชิกพรรคหลายคนจึงเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะมีการลาออกจากสมาชิกพรรคก่อนถูกร้องในเรื่องดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผศ.ดร.สันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ประกาศในกลุ่มไลน์ของคณะกรรมการบริหารพรรค ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคมาแล้ว และมีสมาชิกพรรคอีกหลายคน กำลังเดินทางไปยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคด้วย

“หลังจากหัวหน้าพรรค และเลขาพรรค ไปพบคุณทักษิณ ทางสมาชิกพรรคหลายคน ก็ไม่ค่อยสบายใจ เพราะการเข้าไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ทางพรรคการเมืองที่เข้าไป มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกร้อง และอาจนำไปสู่การยุบพรรคได้ หากยุบพรรคคนที่โดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง คือ กรรมการบริหารพรรค ไม่ใช่ สส.พรรคที่ไปยกมือสนับสนุนเขา เราพัง ยอมรับว่าไม่สบายใจ นายรัฐชทรัพย์ จึงมาคุยกับผม หลังจากอาจารย์สันติ ลาออก เขาคิดว่าอยู่ก็ไม่น่าจะมีประโยชน์ต่อพรรคต่อไป เขาเลยบอกว่าจะไปยื่นใบลาออก ตอนนี้ ก็มีหลายคนจะไปยื่นใบลาออก” แหล่งข่าวจากพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรัฐชทรัพย์ ถือเป็นคนหนึ่งที่เป็นคลังสมองของพรรคชาติไทยพัฒนา โดยนายรัฐชทรัพย์ เป็นประธานที่ปรึกษานายประภัตร โพธสุธน สมัยเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ตรวจสอบ จัดสรรงบ เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ โดยมีการยับยั้งโครงการที่ส่อทุจริต และผิดปกติมาแล้วหลายโครงการ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top