Tuesday, 22 April 2025
ชาดา_ไทยเศรษฐ์

'ชาดา' บุกหา 'ณัฐวุฒิ' หลังถูกกล่าวว่าแซงคิวอภิปรายฯ ด้าน 'อนุทิน' แจงไม่มีเหตุอะไร แค่เรื่องขี้ปะติ๋ว

ควันหลงเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.65 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 4 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่งเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ วาระแรกในชั้นรับหลักการต่อเป็นวันที่ 3 นั้น บรรยากาศการประชุมตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงค่ำการอภิปรายเป็นไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งเวลา 21.15 น. ภายหลังจากที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายแล้วเสร็จ นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ใช้สิทธิลุกขึ้นประท้วง นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม 

โดย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า “ประธานกำลังทำผิดข้อบังคับการประชุมข้อที่ 67 เพราะการอภิปรายต้องสลับกัน และผู้อภิปรายสักครู่ (นายชาดา) ไม่มีชื่อมาก่อน ท่านไม่ชอบประชาชนชั้น 2 แต่ท่านมาแซงคิวอย่างนี้ ท่านเป็นประชาชนชั้น 1 เหรอ ท่านประธานถ้าไม่เคารพข้อบังคับและไม่เคารพกติกา มันจะวุ่นวายในสภาแห่งนี้ ท่านประธานในฐานะที่กำกับดูแลข้อบังคับ ท่านต้องสลับให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย”

ทำให้ นายชาดา ลุกขึ้นขอให้สิทธิชี้แจง แต่ นายสุชาติ ระบุว่า นายณัฐวุฒิ ประท้วงตน จากนั้นนายสุชาติได้ชี้แจง นายณัฐวุฒิ ว่า “ท่านลองดูข้อบังคับข้อที่ 68 เพราะก็มีการสลับอยู่แล้วข้างละสองท่าน เป็นอำนาจประธานอยู่แล้ว ไม่ได้ให้ข้างเดียวตลอด ส่วนชื่อ นายชาดา นายณัฐวุฒิ สามารถขึ้นมาดูกับตนได้ว่ามีชื่อนายชาดาหรือไม่ ยืนยันว่า เรียกตามรายชื่อ”

ขณะที่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนมีรายชื่อคนที่เข้าลิสต์อยู่ว่าเป็นใคร ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล แล้วอยู่ดีๆ ชื่อนี้โผล่มาเรียกทันที คนที่รอคิวเขาจะนึกอย่างไร ตนเข้าใจว่า ประธานอาจจะไม่ทราบ แต่ประธานต้องเตือนอย่าให้มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นในสภาแห่งนี้ ทำให้นายชาดา พูดสวนขึ้นมาทันที ว่า ตนไปเกี่ยวอะไร นายณัฐวุฒิ มาว่าตนในการอภิปราย ท่านมีปัญหาอะไร จากนั้นนายสุชาติเตือนให้นายชาดาและนายณัฐวุฒินั่งลง เพราะถ้าไม่นั่งลงนายสุชาติจะยืนขึ้น

ต่อมา นายสุชาติ ได้แจงนายณัฐวุฒิ ว่า ขอเคลียร์อีกทีหนึ่งว่า ตนขึ้นมาทำหน้าที่พร้อมกับรายชื่อผู้อภิปราย เพราะฉะนั้นตนทำหน้าที่ตามข้อบังคับพรรคอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่เป็นอะไร ท่านติงมาก็ดี เรามีอะไรค่อยๆ คุยกัน แก้ไขกัน จากนั้นนายสุชาติได้แก้สถานการณ์โดยพยายามนำเข้าสู่วาระการพิจารณา โดยให้ นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไท ดำเนินการอภิปรายต่อ

ซึ่งระหว่างนั้น นายชาดา พร้อมกลุ่ม ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จำนวนมาก ได้เดินจากหน้าห้องประชุมไปหลังห้องประชุม เพื่อเดินไปต่อว่ากับนายณัฐวุฒิ ทำให้ ส.ส.คนอื่นที่อยู่ในห้องประชุมตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น

จากนั้น นายชาดา ได้ตบหน้านายณัฐวุฒิ แต่นายณัฐวุฒิ ยกมือขึ้นมาป้องกัน ท่ามกลางความตกตะลึงของ ส.ส.ที่อยู่ในเหตุการณ์ ขณะที่ นายณัฐวุฒิ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาให้นายชาดา ดูว่าไม่มีชื่ออยู่ในลำดับที่จะอภิปราย แต่นายชาดาได้แย่งโทรศัพท์จากมือนายณัฐวุฒิแล้วโยนทิ้ง ก่อนที่ นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯ และ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา จะเข้าห้ามปรามและนำตัวนายชาดาออกนอกห้องประชุมไปทันที

ต่อมาเวลา 22:15 น. นายณัฐวุฒิ ลุกขึ้นอภิปรายตามลำดับรายชื่อผู้อภิปรายโดยเริ่มกล่าวก่อนว่า “อภัยทานํอามิสฺทานํชินาติ” การให้อภัยย่อมเป็นคุณแก่ผู้ให้อย่างยิ่ง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี, รมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวถึงกรณีการกระทบกระทั่งกันระหว่างนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ส.ส.อุทัยธานี และนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ในสภาว่า ตนได้ถามนายชาดาแล้วว่าไม่ได้มีเรื่องกระทบกระทั่ง ข่าวเมื่อช่วงค่ำๆ บอกว่า มีการผลักอก จึงได้เชิญนายชาดามานั่งรับประทานข้าวต้มร่วมกัน โดยนายชาดายืนยันว่า ไม่มีการผลักอก แต่นายณัฐวุฒิไม่ทราบว่านายชาดาได้รับการโอนคิวมาจากสมาชิกคนหนึ่ง แต่เอกสารในมือของรองประธานสภา นายสุชาติ ตันเจริญ มีชื่อของนายชาดาอยู่แล้ว ปัญหาดังกล่าวคือไม่มีอะไร

'ชาดา' ยินดีช่วย 'ศุภมาส' แก้ปัญหา 'รับน้องโหด-เด็กช่างตีกัน' ลั่น!! พร้อมลุย เปลี่ยนทัศนคติ วัยรุ่นอยากหล่อในทางที่ผิด

(20 ก.ย.66) ที่รัฐสภา นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เตรียมประสานขอให้ช่วยแก้ปัญหารับน้องโหดในมหาวิทยาลัย และปัญหานักเรียนอาชีวะตีกัน ว่า...

ต้องรอทาง รมว.อุดมศึกษาฯ ประสานมา ตนยินดีที่จะไปช่วยเต็มที่ เรื่องไปหาวัยรุ่นตนชอบอยู่แล้ว เพราะคุยภาษาเดียวกัน สมัยยุค 14 ตุลา 16 ตนก็เป็นเด็กขึ้นมาเรียนกรุงเทพฯ ก็เคยตีกับเขาเหมือนกัน เราก็รู้ก็เข้าใจเด็ก บางทีเด็กอยากหล่อ แต่หล่อในทางที่ผิด ก็ต้องไปพูดคุยทำความเข้าใจว่ามันมีวิธีการหล่อๆ ที่ดีๆ อีกมากมาย 

"เราก็เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน ไม่ใช่ว่าตอนที่เราเป็นวัยรุ่นเราทำ พออายุมากไม่ใช่มาห้ามเขา เหมือนไปห้ามตัวเองตอนเป็นวัยรุ่น" นายชาดา กล่าว

‘ชาดา’ ชูโมเดล ‘สยบอัลคาโปน’ ปราบมาเฟียในไทย เน้นเชือดนิ่มๆ ‘ตรวจเส้นทางการเงิน-เก็บภาษีย้อนหลัง’

(9 ต.ค. 66) ที่รัฐสภา นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ตอบกระทู้ถามสดในที่ประชุมวุฒิสภา ต่อประเด็นการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ซึ่งตั้งถามโดยนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตอนหนึ่งระบุว่า การปราบปรามผู้มีอิทธิพล จะใช้มาตรการทางภาษี เหมือนอย่างกรณีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ปราบปรามกลุ่มของอัล คาโปน และทำให้กลุ่มอิทธิพลในส่วนอัล คาโปนหายไปจากประเทศสหรัฐอเมริกา 

อย่างไรก็ดีในมาตรการของตนที่จะดำเนินการคือ บูรณาการทุกหน่วยงาน ตรวจสอบภาษีผู้มีอิทธิพล และ คนข้างเคียง โดยนำกรรมการป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสรรพากรไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน เส้นทางของเงิน ทั้งอาณาจักร ทั้งนี้ตนไม่อยากให้งานปราบผู้มีอิทธิพลเป็นงานหวือหวา หรือไฟไหม้ฟาง แต่ต้องการวางระบบให้ดี เพื่อบีบให้คนที่ไม่ดีออกไป และป้องกันไม่ให้คนไม่ดีเกิดขึ้น และถือเป็นการปราบปรามผู้มีอิทธิพลรูปแบบใหม่ ที่ตรวจสอบทั้งกระบวนการ รวมถึงมือไม้ที่ทำงานให้

นายชาดา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อผู้มีอิทธิพล ตามที่ประชาชนร้องเรียน ทั้งนี้มีส่วนที่ดำเนินการไปแล้ว คือในพื้นที่ขอนแก่น และ กทม. ซึ่งเป็นความผิดปกติ เช่น กรณีมีการลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย เป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ แต่ในกรณีเครือข่ายในอาณาจักรเข้าไปทุกระบบ

“ผมจะตั้งใจทำงาน เพื่อให้เป็นพิสูจน์ เป็นเวลาที่ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ถือว่าการมอบหมายงานนั้นถูกที่ถูกทาง ดังนั้นงานของผมถือเป็นความหวังของคนไทยจำนวนมาก แม้จะไปแบบนิ่ม ๆ แต่จะไม่ทำเพื่อตัวเอง อยากทำให้เห็นว่าทำแล้ว หลังจากนี้ไม่มีผู้อิทธิพลเกิดขึ้นง่าย ๆ เหมือนในอดีต” นายชาดา ชี้แจง

'ชาดา' สั่ง 'ลูกเขย' ลาออก 'นายกเทศมนตรี' ไม่ใช่อยู่ต่อ ‘ตั้งรักษาการ’ และอ้างคดียังไม่สิ้นสุด

(25 ต.ค. 66) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังชี้แจงต่อ กมธ.การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ว่า "ตนพูดไว้ว่าต้องเก็บกวาดบ้านตัวเองไว้ก่อน เรื่องนี้ในฐานะ รมช.มหาดไทย ได้โทร. หาผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีว่า ให้สั่งพักปฎิบัติหน้าที่ นายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จ.อุทัยธานี ได้หรือไม่ ขอให้ฟังดี ๆ และใช้สมองคิด"

นายชาดา กล่าวว่า เมื่อวานลูกเขยตนได้รับการประกันตัว ได้มีการพูดคุย ซึ่งเขาได้ขอโทษแล้ว ตนบอกว่าไม่ต้องพูดอะไร แต่สิ่งที่คุณต้องทำคือการลาออกจากการเป็นนายกเทศมนตรี เพื่อให้จังหวัดจัดการเลือกตั้ง การรอการพักปฎิบัติหน้าที่ ถือว่าเป็นการเอาเปรียบ ปล่อยทิ้งพี่น้องประชาชนในตำบล ดังนั้นหากลาออกกระบวนการจะต้องมีการจัดเลือกตั้งใหม่ ใครจะลงก็ว่าไปตามระบบ ถือเป็นว่ามาตรฐานของสังคมไทยในทางการเมืองท้องถิ่น โดยนายวีระชาติ ลาออก เมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่มของวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา

"คุณ (ลูกเขย) ต้องลาออก เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีคนใหม่ ไม่ใช่อยู่ต่อ (ตั้งรักษาการ) และอ้างคดียังไม่สิ้นสุด" รมช.มหาดไทย เสริม

นายชาดา กล่าวอีกว่า "ผมในฐานะพ่อต้องกอดลูกทุกคนด้วยความรักความอบอุ่น และเดินไปด้วยกัน แม้ทางเดินจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่ครอบครัวของผม ผมรัก และผมทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขอร้องว่า อย่าเอาลูกหลานของผมมาโจมตี แอ็กเคาต์อวตาร ขออย่าเอาลูกหลานของผมมาโจมตี เพราะมันจะเกิดสงครามโซเชียล วันนี้คนไทยต้องรักกัน รักสามัคคีกัน สำนึกในกะลาหัวว่าตอนนี้จะเกิดสงครามโลกอยู่แล้ว ออกข่าวทุกวัน ไม่ใช่มาด่ากันในประเทศนี้ อย่าทำอะไรที่มันไม่สร้างสรรค์" นายชาดา กล่าว

‘ชาดา’ ทิ้งงานตักบาตรเทโว สวมบทฮีโร่บุกช่วยหญิงสูงวัย หลังติดอยู่ในอาคารระหว่างเกิดเหตุไฟไหม้กลางเมืองอุทัยธานี

(30 ต.ค. 66) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองอุทัยธานีพร้อมด้วย ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุไหม้อาคารซึ่งเป็นตึก 3 ชั้น ใจกลางเมืองอุทัยธานี บ้านตั้งอยู่ที่ถนนวงศาโรจน์ เขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี โดยทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลเมืองอุทัยธานี ระดมกำลังกว่า 100 นาย และรถดับเพลิงกว่า 10 คัน เข้าเร่งฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไหม้อาคารข้างเคียง

จากการตรวจสอบพบว่า ภายในบ้านหลังเกิดเหตุนั้น มีผู้ติดอยู่ภายใน 2 ราย เป็นคู่สามีภรรยา ทราบชื่อคือ นายณัฐนัย (สงวนนามสกุล) อายุ 76 ปี และนางสายใจ (สงวนนามสกุล) ติดอยู่ภายในห้องนอนชั้น 3 โดยระหว่างนั้นได้มี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี เขต 1 ซึ่งกำลังต้อนรับนักท่องเที่ยวในงานประเพณีตักบาตรเทโว อยู่ที่บริเวณห้าแยกวิทยุ ซึ่งมีการแสดงโต๊ะหมู่บูชาประดับงาช้าง ได้รีบบุกเข้าไปภายในอาคารหลังดังกล่าวเพื่อเข้าไปช่วยเหลือนำตัวนางสายใจ ที่ยังคงติดอยู่ในห้องนอนชั้น 3 ส่วนนายณัฐนัย ผู้เป็นสามี ได้วิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ จึงทำให้ทั้งคู่ปลอดภัยจากเหตุการณ์นี้

ท่ามกลางบรรยากาศที่ผู้เป็นสามี พร้อมด้วยครอบครัว ญาติ พี่น้อง ของผู้ประสบเหตุการณ์เข้ามาโผกอดกันด้วยความโล่งใจ พร้อมกับขอบคุณนายชาดา และ ส.ส.เจเศรษฐ์ ที่เข้ามาให้การช่วยเหลือโดยไม่กลัวอันตราย

ส่วนเพลิงที่ลุกไหม้นั้น ขณะนี้สงบลงแล้ว และไม่พบการลุกลามไปยังอาคารข้างเคียงแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุ คาดว่าน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้น 1 ของอาคาร โดยสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริง ต้องขอทางเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการตรวจสอบที่แน่ชัดอีกครั้ง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top