‘ชาวบาร์เซโลนา’ เดือด!! ฉีดน้ำใส่ นทท. ประท้วงต่อต้านการท่องเที่ยวมวลชน หลังสร้างผลกระทบ ‘ค่าครองชีพพุ่ง-คุณภาพชีวิตคนท้องถิ่นถดถอย'
(9 ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ ได้เกิดเหตุประท้วงครั้งใหญ่ที่เมืองบาร์เซโลนาของสเปน หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
โดยชาวเมืองจำนวนมากได้ออกมาเดินขบวนผ่านพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวชอบมา และฉีดปืนฉีดน้ำใส่พวกเขา พร้อมตะโกนว่า “นักท่องเที่ยวกลับไป” ขณะที่ผู้ประท้วงบางส่วนถือป้ายที่มีข้อความเขียนว่า ‘บาร์เซโลนาไม่ได้มีไว้ขาย’ หรือ ‘การท่องเที่ยวมวลชนกำลังฆ่าเมืองของเรา’
การประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อต่อต้านการท่องเที่ยวมวลชน (Mass Tourism) ในสเปน ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพและคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่น
การประท้วงครั้งนี้เกิดจากกลุ่มองค์กรท้องถิ่นมากกว่า 100 องค์กร นำโดย Assemblea de Barris pel Decreixement Turístic (การชุมนุมของท้องถิ่นเพื่อความเสื่อมโทรมของการท่องเที่ยว)
ตามตัวเลขอย่างเป็นทางการ เฉพาะปี 2023 มีนักท่องเที่ยวแบบพักค้างคืนเดินทางมาภูมิภาคบาร์เซโลนาเกือบ 26 ล้านคน เกิดการใช้จ่ายเงิน 1.27 หมื่นล้านยูโร (ราว 5 แสนล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม Assemblea de Barris pel Decreixement Turístic กล่าวว่า นักท่องเที่ยวเหล่านี้ทำให้สินค้าขึ้นราคาและสร้างแรงกดดันต่อบริการสาธารณะ ในขณะที่ผลกำไรจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ถูกกระจายอย่างไม่ยุติธรรมและเพิ่มความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม
กลุ่มผู้ประท้วงได้เผยแพร่ข้อเสนอ 13 ฉบับเพื่อลดจำนวนนักท่องเที่ยวและเปลี่ยนเมืองสู่รูปแบบใหม่ของการท่องเที่ยว ซึ่งรวมถึงการปิดท่าเรือสำราญ กฎระเบียบที่พักนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม และการยุติการใช้จ่ายสาธารณะเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
ด้าน เจาเม คอลโบนี นายกเทศมนตรีเมืองบาร์เซโลนา เน้นย้ำมาตรการต่าง ๆ ที่เขาได้ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อลดผลกระทบของการท่องเที่ยวมวลชน รวมถึงการเพิ่มภาษีนักท่องเที่ยวต่อคืนเป็น 4 ยูโร (เกือบ 160 บาท) และการจำกัดจำนวนผู้โดยสารบนเรือสำราญ
เมื่อปลายเดือน มิ.ย. คอลโบนียังได้ประกาศว่า จะยุติการเช่าอะพาร์ตเมนต์สำหรับนักท่องเที่ยวภายในปี 2028 ด้วยการยกเลิกใบอนุญาตการเช่าระยะสั้นสำหรับอะพาร์ตเมนต์มากกว่า 10,000 แห่ง
มาตรการนี้จะช่วยทำให้ที่อยู่อาศัยมีราคาไม่แพงมากสำหรับผู้อยู่อาศัยระยะยาว หลังช่วง 10 ปีที่ผ่านมาค่าเช่าเพิ่มขึ้น 68% ทำให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านเพิ่มขึ้น 38%
อย่างไรก็ตาม คอลโบนีถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า อนุญาตให้จัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การแสดงแฟชั่นโชว์ของ หลุยส์ วิตตอง เมื่อเดือน พ.ค. รวมถึงการแข่งขันเรือใบ America's Cup ที่กำลังจะมีขึ้น
การประท้วงลักษณะนี้เป็นเรื่องปกติในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวจากช่วงโควิด-19
แม้การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของนักท่องเที่ยวอาจส่งผลดีต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นและผลกำไรของธุรกิจการบริการ แต่ก็มีข้อเสียที่น่าสังเกตเช่นกัน ได้แก่ เสียงรบกวนที่เพิ่มขึ้น มลพิษ การจราจร และความเครียดต่อทรัพยากร คุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่นลดลง และอื่น ๆ อีกมากมาย
นั่นทำให้ไม่น่าแปลกใจที่สถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น, เวนิส ฯลฯ เริ่มมีความคิดริเริ่มและข้อจำกัดที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อต่อสู้กับการท่องเที่ยวที่มากจนเกินไป รวมถึงการขึ้นภาษีหรือค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยว มาตรการกีดกันนักท่องเที่ยวที่มีปัญหา และการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
