Thursday, 16 May 2024
จปร

‘บิ๊กป้อม’ ปลื้ม!! เพื่อนเตรียมทหาร-จปร. ร่วมจัดงานวันเกิดในวัย 78 ปี ด้านเจ้าตัวขอบคุณ พร้อมขอให้ทุกคนรักใคร่กันไว้เป็นของขวัญวันเกิด

(6 ส.ค. 66) เฟซบุ๊ก ‘fc ลุงป้อม’ ได้เผยแพร่คลิปและภาพบรรยากาศงานฉลองวันเกิดครบรอบ 78 ปี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยงานดังกล่าวได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ซึ่ง พล.อ.ประวิตรได้นัดพบปะสังสรรค์นักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 6 (ปี 2508) และนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 17 ‘รุ่นฝนแรก’ (มีที่มาจากการที่ถูกลงโทษช่วงหน้าฝน)

โดยภายในงาน มีการเลี้ยงอาหารและตัดเค้กวันเกิด มี พล.อ.ประวิตรเป็นประธานตัดเค้กที่มีข้อความว่า “สุขสันต์วันเกิดรุ่นฝนแรก เดือนสิงหาคม 66” โดยเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 6 และคนใกล้ชิดของ พล.อ.ประวิตร เดินทางมาร่วมงานอย่างคับคั่ง พร้อมรับมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจและคำอวยพรวันเกิดล่วงหน้าให้ พล.อ.ประวิตรอย่างอบอุ่น (พล.อ.ประวิตร เกิดวันที่ 11 สิงหาคม อายุครบ 78 ปี)

โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ปีนี้อายุ 78 ปีเต็ม ย่าง 79 ปีแล้ว ฉะนั้น กิจกรรมบางอย่างของผู้สูงอายุ นอนอาจจะไม่ตื่นก็ได้ในวันพรุ่งนี้ ใครจะไปรู้ ฉะนั้นขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ และรักใคร่กันไว้อย่างนี้ ขอบคุณเพื่อนๆและหลานๆ ทุกคนที่มาอวยพรวันเกิด ขอให้ทุกคนมีความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป และขอขอบคุณครับ”

จากนั้น พล.อ.ประวิตรก็ได้เดินไปตัดเค้ก ขณะเดียวกันก็มีการเปิดเพลงบ้านเกิดเมืองนอน หรือที่รู้จักกันดี คือ ‘รักกันไว้เถิด’

ทั้งนี้ ระหว่างการตัดเค้กมีการเปิดเพลงรักกันไว้เถิด ซึ่ง พล.อ.ประวิตรได้ร่วมร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี

‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ ทรงพระราชทานเงินเดือน 26 ล้านบาท ตลอดการเป็นทูลกระหม่อมอาจารย์ 35 ปี แก่ ‘รร.นายร้อย จปร.’

ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงพระราชทานเงินเดือน 26 ล้านบาทของพระองค์ ตลอดเวลา 35 ปีที่เป็นทูลกระหม่อมอาจารย์ พร้อมดอกเบี้ย ให้กับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) เหล่าศิษย์ จปร.ต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

 

โดย ผู้พันเบิร์ด พันเอกวันชนะ สวัสดี ได้เปิดเผยกับ วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ว่า ได้รับทราบจาก พลโทสิทธิพล ชินสำราญ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2560 นักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 5 ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมบ้านสวนปทุม หลายท่านอาจสงสัยว่าเป็นสถานที่อะไร สถานที่นี้ คือ ‘พระตำหนักของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ’ ซึ่งใช้เป็นที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ ของที่ระลึกที่ได้รับมาจากสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งของที่ทรงซื้อมาโดยพระองค์เอง

 

ซึ่งในวันนั้น พระองค์จะเป็นผู้บรรยายเรื่องราว ประสบการณ์ในที่ต่างๆ ผ่านข้าวของแต่ละชิ้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความรู้ที่น่าสนใจ และน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก

 

หลังเสร็จสิ้นการบรรยายและเดินชมของในทุกห้องแล้ว พลโท สิทธิพล จึงได้มีโอกาสสอบถามข้าราชบริพารว่า ปกติแล้วมีคณะอื่นเข้ามาที่บ้านสวนปทุมแห่งนี้หรือไม่ ข้าราชบริพารตอบว่า มีกลุ่มนักเรียนนายร้อย ซึ่งนับเป็นโชคดีมากเพราะไม่มีคณะอื่นเข้ามาเลย นอกจากนักเรียนนายร้อยเท่านั้น

 

แต่ยังมีเรื่องที่ผู้บัญชาการเล่าให้ฟังอีกเรื่องหนึ่ง มีความสำคัญและซาบซึ้งกินใจเช่นกัน นั่นก็คือในวันนั้นพระองค์ได้พระราชทานเช็คเป็นจำนวน 19,201,788.48 บาท เงินจำนวนนี้ แท้จริงแล้วคือ เงินเดือนของพระองค์เอง

 

พลโทสิทธิพล เล่าให้ฟังต่อว่า ในปี 2558 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้พระราชทานเงินเดือนทั้งหมดของพระองค์ ที่รับราชการมาตลอด 35 ปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 26 ล้านบาท โดยในปีนั้นได้พระราชทานมาแล้ว 7 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย ส่วนที่เหลือพระองค์บอกว่ายังอยู่ในธนาคารอีก 19,000,000 บาท และจะครบกำหนดเบิกได้ในปี 2560

 

กระทั่งเมื่อปี 2560 มาถึง พระองค์ได้ทรงพระราชทานส่วนที่เหลือพร้อมดอกเบี้ยทั้งหมด ให้กับ ‘กองทุนพัฒนาโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า’ รวมทั้งหมด 26,894,502.19 บาท

 

โดยทรงพระราชทานเช็คให้ ‘กองทุนพัฒนาโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า’ มาแล้ว 7,431,194.22 บาท เมื่อ 29 กย. 2558

 

จากนั้น เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2560 ทรงพระราชทานเช็คเงินจำนวน 19,201,788.48  บาท ลงวันที่ 26 มิ.ย. 2560 และให้ดอกเบี้ย ตั้งแต่ 13 ต.ค. 2558–13 ก.ค. 2560 อีกจำนวน 271,519.49 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 26,894,502.19 บาท

 

ซึ่งเอาไว้สำหรับพัฒนาการศึกษาของนักเรียนนายร้อย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อเหล่านักเรียนนายร้อย ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันอย่างหาที่สุดมิได้

 

แต่อันที่จริงแล้ว คุณประโยชน์ทั้งหมดนี้ ก็ไม่ได้ก่อเกิดกับเฉพาะนักเรียนนายร้อยเท่านั้น เพราะในท้ายที่สุดแล้วนักเรียนนายร้อยเหล่านี้ ก็จะออกมารับใช้ประเทศชาติในงานด้านความมั่นคง นำมาซึ่งความผาสุกของประชาชนคนไทยทั้งชาติ

 

ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า พระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ จึงมีต่อปวงชนชาวไทยทุกคน และประเทศชาติไทยอย่างแท้จริง

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top