Saturday, 10 May 2025
กะเหรี่ยง

'เพจวงในพม่า' ถามนักข่าวดัง 'ฐปณีย์ เอียดศรีไชย' ข้ามแดนไปทำข่าวให้ KNU แบบนี้ ถูกต้องหรือไม่?

ไม่นานมานี้ เพจ 'LOOK Myanmar' ซึ่งนำเสนอมุมมอง แนวคิดและชีวิตความเป็นอยู่วัฒนธรรมของคนพม่า ได้โพสต์ภาพและข้อความ ระบุว่า...

"ขอสอบถามไปทางคุณแยม ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและกระทรวงการต่างประเทศหน่อย

ข้อแรกคุณแยมเข้าไปทำข่าวในแผ่นดินกะเหรี่ยงไปทางไหน ข้ามแดนถูกต้องตามกฎหมายไทยหรือเปล่า แล้วถ้าไม่ได้ผ่านแดนแบบถูกต้องตามกฎหมายไทย คุณแยมทำผิดกฎหมายไทยหรือไม่ ประเด็นนี้ฝากคุณแยมช่วยชี้แจง และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองช่วยตรวจสอบด้วย

#เพราะคนไทยย่อมอยู่ภายใต้กฎหมายไทยไม่มียกเว้น

ข้อ 2 ในฐานะสื่อมวลชน การนำเสนอข่าวแบบนี้จะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไหม ฝากกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายปกครองและท่านนายกรัฐมนตรีพิจารณาที"

ทั้งนี้ คอมเมนต์ของชาวโซเชียลได้แสดงความห่วงใยการรายงานข่าวดังกล่าวเช่นกัน อาทิ...

- สื่อควรเป็นกลางนะ เรื่องระหว่างประเทศด้วย
- หาเรื่องให้คนพม่าเข้าใจว่าประเทศไทยเข้าข้างกะเหรี่ยง ทำเป็นโชว์เหนือ เข้าคลุกวงใน 
- ด่านที่เมียวดี น่าจะยังเปิดนะครับ
- ผมเคยยุให้คุณนักข่าวไปทำสกู๊ป ไอ้เดวิด กับ FBS ว่ามันทำอะไรในไทยบ้าง ไม่เห็นจะตอบ น่าสนใจกว่าเยอะ 
- ระวังลูกหลงบ้างนะแยม เขาต่อสู้กันคงไม่มีเวลามาป้องกัน 
- ฝากถามด้วย เอาเงินซื้ออาวุธมาจากไหน? 
- ขอเตือนสักคำนะคะน้อง ในฐานะคนไทยด้วยกัน แค่พรี่เป็นประชาชน ข้าแผ่นดินธรรมดา ที่ถือเอาชาติและแผ่นดินไทย เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตค่ะ... ปัญหาในดินแดนเพื่อนบ้าน เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ประเทศไทย คนไทย โดยเฉพาะสื่อ ต้องระมัดระวังในการทำข่าว หาข่าว เสนอข่าวนะคะ...ใช่ค่ะ สื่อมีสิทธิเสรีภาพในการหาเสนอข่าว #แต่ให้ระมัดระวังการแสดงออกและข่าวที่นำเสนอ 

'มหารัฐกอทูเล' ความฝันอันสูงสุดของชาวกะเหรี่ยง หรือจุดเริ่มต้นความวินาศจากหมากกลรัฐบาลพม่า

ตั้งแต่เริ่มสงครามระหว่างกะเหรี่ยง คราวนี้ถือเป็นกะเหรี่ยงที่เป็นฝ่ายมีชัย จนเกิดคำว่า 'มหารัฐกอทูเล' ขึ้น  

คำนี้ไม่ได้เป็นคำใหม่ แต่หากเป็นคำปลุกใจถึงแผ่นดินทองของกะเหรี่ยงมาตลอด 70 กว่าปีที่จับปืนรบกับทหารเมียนมา

จนวันนี้ที่ฝ่ายกองทัพเมียนมาขนทัพมา 3 กองพลเข้ายึดเมียวดีคืน ถือเป็นปฏิบัติการที่รุนแรงที่สุดเท่าที่มีการสู้รบกับฝ่ายต่อต้านกองทัพที่ผ่าน ๆ มา

แต่หากดูกำลังพลและยุทโธปกรณ์ที่ทางเมียนมาใช้แล้วจะเห็นว่าฝ่ายกองทัพเมียนมา ยังไม่ได้ขนอาวุธหนักในคลังแสงออกมาใช้เลย โดยเฉพาะอาวุธประเภทพื้นสู่พื้นพิสัยใกล้และพิสัยกลางที่สามารถทำลายเป้าหมายได้คราวละมาก ๆ

มีหลายฝ่ายวิเคราะห์ถึงการไม่เลือกใช้อาวุธดังกล่าวของฝ่ายกองทัพเมียนมาว่า น่าจะไม่อยากให้กระทบถึงสิ่งก่อสร้างของพลเรือนและที่สำคัญคือ ป้องกันความผิดพลาดที่อาวุธดังกล่าวตกข้ามมายังฝั่งไทย

อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ความตึงเครียด ณ วันนี้ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองตรงชายแดนเมียวดีตัดสินใจปิดด่าน เป็นผลให้ประชาชนตกค้างที่ด่านเป็นจำนวนมาก

>> Myanwaddy D-Day

Monday Impact คือ วันเผาจริงของชาวเมียวดี เมื่อทั้งเมืองถูก Lock down ด่านข้ามแดนปิด สินค้านำเข้าและส่งออกไม่ได้ ธนาคารปิด รวมถึงสาธารณูปโภคในเมียวดีอาจจะถูกตัดขาดเป็นผลจากการสู้รบ ในขณะที่กองทัพพม่าระดมประเคนลูกระเบิดนับ 200-300 ลูกต่อวันเข้าภายในเมือง จากนี้คงต้องดูว่าฝ่ายกะเหรี่ยงยังจะยืนกรานที่จะสู้อยู่หรือจะเข้าสู่โต๊ะเจรจา

'กอทูเล' อาจจะเป็นความฝันของชาวกะเหรี่ยง แต่ชาวกะเหรี่ยงคงลืมไปอย่างว่าที่ผ่านมา รัฐบาลเมียนมาก็ให้สิทธิ์ชาวกะเหรี่ยงปกครองกันเองและยกระดับกองกำลังของกะเหรี่ยงเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน ซึ่งมีอำนาจมากมายในรัฐกะเหรี่ยง รวมถึงพัวพันกับธุรกิจทั้ง สีขาว, สีเทา และสีดำในรัฐกะเหรี่ยง 

คำถาม คือ หากสุดท้ายหากฝ่ายกองทัพเมียนมาปราชัย แล้วทางกะเหรี่ยงจะปกครองอย่างไร?

เพราะ กะเหรี่ยง ไม่ใช่รัฐหรือประเทศ ที่ถูกยอมรับในระดับสากล หากตั้งสกุลเงินใหม่ขึ้นมาทางกะเหรี่ยงจะต้องมีทองคำมาค้ำประกันค่าเงินตนเองซึ่งทองคำนั้นต้องได้รับการยอมรับจากทางประเทศต่าง ๆ ด้วย มิฉะนั้นสกุลเงินของกะเหรี่ยงก็ไม่ต่างอะไรกับเศษกระดาษ

ที่ผ่านมาเราได้พบเห็นการขอแยกการปกครองของกลุ่มตนเองออกเป็นประเทศมาแล้ว อาทิเช่น ประเทศติมอร์ เลสเต ที่แยกออกจากอินโดนีเซีย จวบจนปัจจุบันก็ยังมีปัญหาด้านงบประมาณในการใช้พัฒนาประเทศ ฉะนั้นหากกะเหรี่ยงแยกตัวออกจากเมียนมาโดยสมบูรณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างในสาธารณรัฐกอทูเล ก็ต้องนำเข้าทั้งจากฝั่งไทยและเมียนมาทั้งสิ้นอยู่ดี

ก็คงต้องถามคนที่นี่แล้วว่า สุดท้ายจะยอมรับค่าสินค้าอุปโภคบริโภคที่แพงขึ้นจากการที่มีภาษีนำเข้าได้หรือไม่? ทั้งในส่วนของไฟฟ้าก็ดี เพราะหากแยกตัวจริงเชื่อได้ว่าทางเมียนมาน่าจะหยุดส่งก๊าซเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้ต้องนำเข้าไฟฟ้าเกือบ 100% จากไทย และไทยจะยอมขายให้ไหม? เพราะหากไทยยอมขายไฟฟ้าให้ ก็เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่ายอมรับการมีตัวตนของประเทศนี้ ซึ่งน่าจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยเมียนมาแน่นอน

ทั้งหมดที่ 'เอย่า' เล่ามานี้ เอย่ายังไม่เห็นแสงทองผ่องอำไพบนแผ่นดินกอทูเลเลย มีแต่ความวินาศของชาวกะเหรี่ยงที่เหมือนถูกซ่อนกลอีกชั้นหนึ่งในหมากที่ฝ่ายพม่าวางไว้ และสุดท้ายคือ คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เลยแต่ต้องมารับผลกระทบด้วย นั่นคือประเทศไทยนั่นเอง

สะพัด!! จนท.กะเหรี่ยง เมายิงกันเองบาดเจ็บดอดรักษาในไทย พบใช้ช่องทางธรรมชาติ แต่ทางฝั่งไทยยังไม่เข้าคุมตัวฐานข้ามแดนผิด กม.

(4 พ.ย. 67) มีรายงานเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เวลา 20.30 น. ว่าเจ้าหน้าที่เก็บภาษีใน อ.กอกาเร็ก จ.ดูปลายา สังกัดกลุ่ม KNU เกิดการทะเลาะวิวาทยิงกับ กำลังพลของกองพลน้อยที่ 3 กองกำลังโกลทูบอ สังกัด DKBA ในบริเวณพื้นที่ ด่านตรวจร่วมท่าทราย-บ้านวาเล่ย์ใหม่ หมู่บ้านวาเล่ย์ใหม่ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ บ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ 3 ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ในเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย คือ นายน่อวา เจ้าหน้าที่เก็บภาษีประจำ อำเภอกอกาเร็ก จังหวัดดูปลายา ได้รับบาดเจ็บถูกยิงบริเวณลำตัว 1 นัด และ แขน 1 นัด และร้อยโท เลโท ผู้บังคับหมวดกองพลน้อยที่ 3 สังกัดกองกำลังโกลทูบอของ DKBA ได้รับบาดเจ็บถูกยิงบริเวณศีรษะ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ต่อมาเวลา 21.00 น. นายน่อวา ได้ถูกส่งตัวผ่านช่องทางธรรมชาติท่าทราย มารักษาพยาบาลที่ โรงพยาบาลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก จนพ้นขีดอันตราย

ขณะนี้ ยังไม่มีรายงานการถูกควบคุมตัวจากทางการไทยในการข้ามแดนผิดกฎหมายแต่อย่างใด

เผยช่องโหว่ ‘พ.ร.บ.สัญชาติ’ ส่งเสริม ‘จนท.รัฐ’ ทำผิดกฎหมาย จะรู้ได้อย่างไร?? ว่าเขาจงรักภักดีต่อ ‘พระมหากษัตริย์ไทย’

(19 ม.ค. 68) หลังจากที่คุณเต้ อาชีวะ  ได้ทำการขุดรากทำให้คนไทยได้ทราบว่ามีกลุ่มมาเฟียต่างด้าวหลายกลุ่มในประเทศไทย โดยที่สำคัญคือกลุ่มที่มีอยู่เป็นจำนวนมากนั้นเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มาจากเมียนมาและนั่นก็เป็นการสะท้อนว่า คนเหล่านี้ได้แอบเข้ามาอาศัยในประเทศไทยนานแล้ว  และมีการช่วยเหลือจากทั้งกลุ่มคนที่มาก่อนและคนไทยที่ใจดี

มากล่าวเรื่องคนไทยที่ใจดี  เอย่าได้ยินมาหลายครั้งเรื่องคนไทยที่ใจดีกับคนต่างด้าวจนบางทีก็ลืมไปว่าการใจดีนั้นมันเปิดสิทธิพิเศษให้แก่ลูกหลานเขาอันจะนำผลประโยชน์มาสู่ตัวของคนต่างด้าวเองในอนาคตและสิ่งนั้นคือการรับรองบุตรคนต่างด้าวนั่นเองเพื่อให้บุตรของคนต่างด้าวเข้าถึงสิทธิต่างๆเยี่ยงคนไทย  คำถามคือ  คนไทยเราพร้อมที่จะใช้ภาษีเราโอบอุ้มคนที่ไม่ได้จ่ายภาษีให้ประเทศไทยแล้วอย่างนั้นหรือ

ประเด็นอีกเรื่องที่คุณเต้หยิบยกขึ้นมาคือลูกหลานคนต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทยมีสิทธิ์ในการขอสัญชาติไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4 ) พ.ศ. 2551  ยิ่งเอื้อให้เด็กต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทยได้สัญชาติไทยได้ง่ายขึ้นเพราะคุณสมบัตินั้นเอื้อต่อการให้สัญชาติมากอาทิ เช่น ในมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2559 กำหนดไว้ว่า

ข้อ 1. บุตรของคนที่เข้าอพยพเข้ามาในราชอาณาจักรและอาศัยอยู่เป็นเวลานาน ครอบคลุมชนกลุ่มน้อย และกลุ่มชาติพันธุ์ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติไว้เดิมรับรองสถานะให้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักร อาทิ กลุ่ม เวียดนามอพยพ อดีตทหารจีนคณะชาติ จีนฮ่ออพยพพลเรือน จีนฮ่ออิสระ ไทยลื้อ ลื้อ ผู้อพยพเชื้อสายไทยจากจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่าเชื้อสายไทย ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า เนปาลอพยพ ชาวเขา บุคคลบนพื้นที่สูง ลาวภูเขาอพยพ ม้งถ้ำกระบอก ผู้หลบหนีเข้าเมืองจากพม่า อดีตโจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา ผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวกัมพูชา ชาวมอร์แกน และคนอพยพเข้ามาในราชอาณาจักรและอาศัยอยู่เป็นเวลานาน ที่ได้รับการสำรวจจัดท าทะเบียนตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะ และสิทธิของบุคคลตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2548 ให้ได้สัญชาติไทยเป็นการทั่วไปภายใต้เงื่อนไข ดังนี้ (1) บิดาหรือมารดาที่อพยพเข้ามาในราชอาณาจักรและอาศัยอยู่เป็นเวลานานตามข้อ 1 ต้องมีหรือเคยมีชื่อและรายการบุคคลในทะเบียนประวัติ หรือเอกสารการทะเบียนราษฎร มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร และต้องเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าปี นับถึงวันที่บุตรยื่นคำร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือนายทะเบียนเพื่อขอมีสัญชาติไทย

(2) มีหลักฐานแสดงว่าเกิดในราชอาณาจักร ได้แก่ สูติบัตร ทะเบียนการเกิด หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.20/1) หรือหนังสือรับรองสถานที่เกิด และต้องมีรายการบุคคลในทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร แล้วแต่กรณี

(3) ไม่ปรากฏหลักฐานการมีและใช้สัญชาติอื่น

(4) พูดและฟังภาษาไทยเข้าใจได้ ยกเว้นเด็กที่มีอายุต่ำกว่าเจ็ดปี

(5) มีความจงรักภักดีและเลื่อมใสระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

(6) มีความประพฤติดี ไม่มีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคง และถ้าเคยรับโทษอาญา ต้องพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึงวันที่ยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทย เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือลหุโทษ

ที่เอย่ายกมาแค่ข้อ 1 ก็เห็นช่องโหว่ในกฎข้อนี้แล้ว อาทิเช่น ในข้อย่อยข้อ 1 เป็นการส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่รัฐทำผิดกฎหมายได้อย่างง่ายมากโดยการทำบัตร 13 หลักให้คนเหล่านี้ซึ่งก็ไม่แปลกใจว่าทำไมต่างด้าวทุกคนพยายามจะเสียเงินเพื่อให้ได้บัตรชมพูมา หรือในข้อย่อยข้อ 5 ที่ว่า มีความจงรักภักดีและเลื่อมใสระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข  เอาอะไรมาเป็นเครื่องพิสูจน์ความจงรักภักดี ในขณะที่มีคลิปทหารกะเหรี่ยงที่ตายในสนามรบในกะเหรี่ยงมีบัตรไทย หรือบางคนมีบัตรประชาชนไทย  นั่นแปลว่าอะไร  นี่เอย่ายังไม่อยากสาวความไปถึงกลาโหมทราบไหมว่าฝึกลูกหลานชาติพันธุ์ให้เป็นทหารเกณฑ์ในไทยเพื่อไปรบในสงครามกะเหรี่ยงที่บ้านเขา  ไม่ทราบว่าคุ้มภาษีที่จ่ายให้กองทัพไหมละ  หรือข้อย่อยสุดท้ายการไม่ต้องโทษอาญาแผ่นดินไทยอาจจะไม่เพียงพอหรือเปล่าเพราะอย่างที่รู้กันบางคนหนีคดีประเทศเขามาอาศัยในประเทศเรากลายเป็นคนใหม่ชีวิตใหม่  

ถามว่า ณ บริบทประเทศไทยทุกวันนี้อยากได้คนเหล่านี้มาเป็นคนไทยหรือ  คนเหล่านี้ได้จ่ายภาษีบำรุงประเทศไทยสักเท่าไร  บางทีเราอาจจะต้องเปลี่ยนการคัดเลือกต่างชาติเข้ามาเป็นสัญชาติไทยโดยการไม่รับคนต่างด้าวที่มีลักษณะหลบหนีเข้าเมืองมาเป็นพลเมืองได้แล้ว เพราะดูจากประเทศที่เจริญรอบข้างเราไม่มีใครอยากให้คนเหล่านั้นมาขยับสถานะในประเทศตนเองเลย  นี่คงเป็นโจทย์สำหรับคนไทยเพราะยากไปสำหรับรัฐบาลไหนๆที่จะผลักดันเพราะผลประโยชน์มันสูงและต่อมรักชาติและสำนึกในชาติมันไม่มีค่าเท่ากับต่อมเงินตรา  บางทีคนไทยก็ควรจะเลิกเป็นคนใจดีแล้วหันกลับมามองคนในชาติบ้างเราไม่ได้แอนตี้คนต่างด้าวแต่เราต้องการคนต่างด้าวที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณที่เข้ามาแล้วสามารถผลักดันให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองมากกว่าเป็นตัวถ่วงและสุดท้ายก็มาอ้างว่า ‘ต่างด้าวสร้างประเทศไทย’ ถามจากใจคนไทยด้วยกันว่าเวลาได้ยินคำนี้แล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top