Saturday, 7 June 2025
กองทัพอากาศ

‘กองทัพอากาศ’ ยกระดับความพร้อมเต็มขีดความสามารถ ดูแลถวายความปลอดภัย ‘ในหลวง-พระราชินี’ เตรียมเสด็จฯ เยือนภูฏาน

(24 เม.ย. 68) กองทัพอากาศดำเนินการเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย เพื่อสนับสนุนและถวายความปลอดภัยในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25 – 28 เมษายน พ.ศ. 2568 โดยมีการจัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์อย่างรอบด้าน เพื่อให้การเสด็จฯ เป็นไปอย่างเรียบร้อยและสมพระเกียรติ

เมื่อวันที่ 22 – 23 เมษายน พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังสนามบินนานาชาติพาโร ประเทศภูฏาน เพื่อสำรวจพื้นที่จริง ตรวจสอบความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นด้านความปลอดภัยและการบิน

การเยือนในครั้งนี้นับเป็นหมุดหมายสำคัญในสายสัมพันธ์ระหว่างไทยและภูฏาน กองทัพอากาศจึงให้ความสำคัญสูงสุดในการดำเนินภารกิจ ทั้งในด้านการสนับสนุนทางเทคนิคและการถวายความปลอดภัย เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีและความพร้อมของกองทัพในการรับใช้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทอย่างเต็มกำลัง

กองทัพอากาศส่ง F-16 สกัดเครื่องบินเมียนมา หลังพบบินเข้าใกล้ชายแดนกาญจนบุรี ยันไม่มีการล้ำอธิปไตย

(6 พ.ค. 68) พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า หน่วยควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศตรวจพบเครื่องบินลักษณะคล้าย K-8 จากเมียนมา บินเข้าใกล้เขตแดนไทยบริเวณตรงข้ามอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เวลาประมาณ 12.45 น. กองทัพอากาศจึงสั่งการให้ F-16 จำนวน 2 ลำ จากกองบิน 4 จังหวัดนครสวรรค์ ขึ้นบินพิสูจน์ฝ่ายและแสดงท่าทีทางอากาศ

F-16 ทั้งสองลำได้ทำการบินลาดตระเวนรบในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งไม่พบการล้ำอธิปไตยหรือท่าทีคุกคามเพิ่มเติมจากเครื่องบินดังกล่าว

ทั้งนี้ กองทัพอากาศยืนยันความพร้อมในการสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย โดยจะดำเนินการตามมาตรการอย่างมืออาชีพ เพื่อปกป้องน่านฟ้าไทยและอธิปไตยของประเทศตามกฎหมายและพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด

กองทัพอากาศส่ง F-16 สกัด K-8 เมียนมา บิดเฉียดเขตไทย!!..ก่อนเปลี่ยนทิศออกจากชายแดน

(16 พ.ค.68) เวลา 12.31 น. หน่วยควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศของไทยตรวจพบอากาศยานทหารเมียนมาแบบ K-8 จำนวน 1 ลำ บินเข้าใกล้แนวชายแดนบริเวณ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี กองทัพอากาศจึงดำเนินการตามระเบียบโดยการส่งสัญญาณแจ้งเตือนผ่านคลื่นฉุกเฉิน (On Guard) พร้อมสั่งการให้ F-16 จำนวน 2 ลำจากกองบิน 4 ตาคลี ขึ้นบินสกัดและแสดงศักยภาพเชิงป้องปรามทันที

ต่อมาเวลา 12.48 น. เครื่องบิน K-8 ดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศออกจากเขตแดนไทย โดยไม่มีพฤติกรรมล้ำอธิปไตยหรือคุกคามความมั่นคงแต่อย่างใด พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยเพิ่มเติมเมื่อเวลา 13.30 น. ว่าการปฏิบัติครั้งนี้เป็นไปตามแผนการเฝ้าระวังน่านฟ้าอย่างเข้มงวด ซึ่งกองทัพอากาศย้ำว่าความมั่นคงทางอากาศเป็นภารกิจหลักที่ดำเนินการต่อเนื่อง

ทั้งนี้ K-8 หรือ 'คาราโครัม-8' เป็นเครื่องบินฝึกไอพ่นขั้นสูงและโจมตีเบา ผลิตร่วมโดยจีนและปากีสถาน ซึ่งกองทัพอากาศไทยยังคงจับตาพฤติกรรมของอากาศยานทุกประเภทที่เข้าใกล้ชายแดน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่ประชาชน

กองทัพอากาศ ร่วมยินดีกับ ‘วศิน อิ่มสมัย’ อย่างภาคภูมิใจ เกียรตินิยมอันดับ 1 จาก โรงเรียนนายเรืออากาศสหรัฐอเมริกา

(3 มิ.ย. 68) ชูธงชาติไทย อย่างสมเกียรติ กองทัพอากาศ ขอร่วมแสดงความยินดีกับนักเรียนนายเรืออากาศ วศิน อิ่มสมัย ที่สำเร็จการศึกษาได้รับ "เกียรตินิยมอันดับ 1" จาก โรงเรียนนายเรืออากาศสหรัฐอเมริกา (United States Air Force Academy) สาขาวิชาเอก วิศวกรรมอากาศยาน

นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของกองทัพอากาศที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และเป็นตัวอย่างของบุคคลที่มีความมานะพยายามจนประสบความสำเร็จในด้านการศึกษาของกองทัพอากาศ

กองทัพอากาศ เล็งซื้อฝูงบิน Gripen รุ่นใหม่ ล็อตแรก 4 ลำ มูลค่ารวม 19,500 ล้านบาท

กองทัพอากาศ เปิดแผนจัดซื้อ 'Gripen E/F' ระยะที่ 1 ทดแทน F-16 ล็อตแรก 4 ลำ มูลค่ารวม 19,500 ล้านบาท ย้ำโปร่งใส คุ้มค่า รอบคอบ และมีประสิทธิภาพสูงสุด

พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ เปิดเผยว่า กองทัพอากาศ มีแผนการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีรุ่นใหม่ 'Gripen E/F' ระยะที่ 1 เพื่อทดแทนฝูงบิน F-16 ที่ประจำการมายาวนานกว่า 37 ปี โดย มีเป้าหมายเพื่อยกระดับสมรรถนะด้านการป้องกันประเทศ ด้วยคุณลักษณะที่เหนือกว่ารุ่นที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ทั้งในด้านเทคโนโลยี ความเหมาะสมในการบูรณาการระบบ (Commonality & Continuity) และความสามารถในการตอบสนองภัยคุกคามยุคใหม่

สำหรับเครื่องบินขับไล่แบบ Gripen E/F ที่ถูกคัดเลือกเป็นแบบที่ตรงตามเกณฑ์ความต้องการของกองทัพอากาศมากที่สุด พร้อมติดตั้งขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยไกล “METEOR” และการปรับปรุงระบบเรดาร์แจ้งเตือนล่วงหน้า SAAB AEW&C โดยจัดอยู่ในแนวทางสำคัญของโครงการภายใต้ชื่อ MIDSR ประกอบด้วย Main Package: เครื่องบิน Gripen E/F จำนวน 12 ลำ โดยล็อตแรกจะมีจำนวน 4 ลำ มูลค่า 19,500 ล้านบาท พร้อมอาวุธและระบบสนับสนุน // Indirect Offset: โครงการชดเชยทางอ้อม 7 รายการ //Direct Offset: โครงการชดเชยทางตรง 7 รายการ // Synchronization: ความสอดคล้องประสานกันของโครงการในทั้ง 3 ระยะ // Risk: การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบด้าน

นอกจากนี้ โครงการยังสอดคล้องกับนโยบาย Defence Offset ของรัฐบาล ที่มุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศภายในประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ กองทัพอากาศยืนยันว่าการจัดซื้อ Gripen E/F จะดำเนินการด้วยความโปร่งใส รอบคอบ และมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้การใช้งบประมาณจากภาษีของประชาชนเกิดความคุ้มค่าสูงสุด โดยมีเป้าหมายในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางอากาศ ปกป้องอธิปไตย และรักษาความสงบสุขของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top