Saturday, 19 April 2025
กรุงเทพฯ

‘พุทธิพงษ์’ เผย ‘ภท.’ แบ่งพื้นที่กทม. 4 กลุ่ม แก้ปัญหาตรงจุด มั่นใจ 8 ส.ส.แชมป์เก่า พร้อมดึง ‘เอกภพ สายไหมต้องรอด’ ร่วมทัพ

‘พุทธิพงษ์’ ชี้ นโยบาย กทม.พรรคภูมิใจไทย แบ่งกลุ่ม 4 พื้นที่แก้ปัญหาเฉพาะที่ ตรงจุด ถ้าคิดและทำแบบเดิม ก็ได้เหมือนเดิม มั่นใจ 8 ส.ส.แชมป์เก่าครองใจคนกรุงเทพฯ ได้ เพราะพูดแล้วทำทุกนโยบาย ดึง “เอก สายไหมต้องรอด” ร่วมทัพ
(19 มี.ค.66) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า พื้นที่กรุงเทพมหานครกว้างใหญ่ เป็นเมืองหลวงและเป็นหัวใจสำคัญของประเทศ ถ้าคิดแบบเดิม ทำแบบเดิม ก็ได้แบบเดิม หากจะพัฒนากรุงเทพฯ ไปข้างหน้า พรรคภูมิใจไทยจึงขอแบ่งพื้นที่กรุงเทพฯเป็น 4 กลุ่มพื้นที่ โดยมองจากสภาพแวดล้อมและปัญหา มีกรุงเทพฯชั้นใน, กรุงเทพฯเหนือ, กรุงเทพฯตะวันออก และกรุงเทพฯฝั่งธน เพื่อเอื้อต่อการแก้ปัญหาให้ตอบโจทย์และความต้องการของพี่น้องประชาชน

ซึ่งจากการลงไปติดตาม รวมรวบรับฟังปัญหาจากพื้นที่ ซึ่งแต่ละพื้นที่มีปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกัน โดยต้องมีวิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างกันด้วยนโยบาย ซึ่งพรรคเตรียมพร้อมไว้แล้ว พร้อมระบุด้วยว่า พรรคภูมิใจไทย คัดเลือกคนทำงานจริงมาจากในพื้นที่ ที่สำคัญมีอดีต ส.ส.กทม.ถึง 8 เขต พร้อมจะทำงานให้คนกรุงเทพฯอย่างจริงจังต่อเนื่อง และทั้ง 33 ว่าที่ผู้สมัครล้วนเป็นคนที่พร้อม คิด พูดและลงมือทำจริง ทุกนโยบาย

กรุงเทพฯ ครองแชมป์ เมืองที่นักท่องเที่ยว จองมาพักมากที่สุดในโลก จากข้อมูลของ Agoda

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องน่ายินดีของวงการท่องเที่ยวไทย เมื่อล่าสุดทาง Agoda แพลตฟอร์มจองที่พักยักษ์ใหญ่ของโลก ได้ออกมาเผยข้อมูลการจองที่พักของนักท่องเที่ยว โดยเมืองที่นักท่องเที่ยวจองมาพักมากที่สุดเป็นอันดับ 1

นั่นก็คือกรุงเทพมหานครนั่นเอง นอกจากเมืองกรุงเทพฯ แล้ว ประเทศไทยยังได้ถูกจัดอันดับเป็นที่ 2 รองจากประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นเป้าหมายในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอีกด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ แถลงผลความคืบหน้าการขยายผลคดีเว็บพนันออนไลน์ ดำเนินคดีนายตำรวจใหญ่เป็นนายทุนเบื้องหลัง

จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 66 กรณีนายเชิดเกียรติ ศักดิ์ศรี อายุ 24 ปี ผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กรณีถูกกลุ่มผู้ต้องหาจำนวน 7 คน อุ้มจากที่พักย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ ไปทำร้ายร่างกายและทวงเงิน และได้เอาทรัพย์สินของผู้เสียหายเป็นเงินสด โทรศัพท์มือถือและแทปเล็ต รวมมูลค่าประมาณ 100,000 บาท

โดยมูลหนี้มีความเกี่ยวข้องกับการลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ม.ค.66 ในพื้นที่ สน.โชคชัย ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ครบทั้ง 7 คน รวมทั้งยังดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้ความช่วยเหลือในการค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของผู้เสียหายส่งให้กลุ่มผู้ก่อเหตุอีก 1 ราย ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้วนั้น 

กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนเร่งดำเนินการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันดังกล่าวด้วย เนื่องจากผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า เว็บพนันดังกล่าวมีนายตำรวจเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังด้วย โดยให้ดำเนินการสืบสวนความเชื่อมโยงและไล่เส้นเงินจากผู้เกี่ยวข้อง และดำเนินคดีโดยเด็ดขาดทั้งหมด

เบื้องต้นในส่วนของคดีปล้นทรัพย์นั้น ได้สรุปสำนวนฟ้องเสนอพนักงานอัยการแล้ว คดีอยู่ในชั้นศาล และในส่วนของสำนวนคดี ป.ป.ช.ซึ่งดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์นั้น ป.ป.ช.ได้พิจารณาชี้มูลความผิดและส่งให้ ภ.จว.สระแก้ว ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว 

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวพบว่า เว็บไซต์การพนันที่เกี่ยวข้องมี 3 เว็บไซต์ ได้แก่ sexy789 red789 และ blue789 โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจนในการเป็นแอดมิน และการจัดหาบัญชีม้า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมจำนวน 9 ราย โดยได้จับกุมและแจ้งข้อกล่าวครบแล้วทั้งหมด

ประกอบด้วย
1. พล.ต.ต.เอกภพ อายุ 52 ปี (เจ้าของเว็บ)
2. พ.ต.อ.ปวริศ  อายุ 41 ปี (จัดหาบัญชีม้า)
3. น.ส.พัชวัญญ์ อายุ 39 ปี (ซุปเปอร์แอดมิน)
4. นายมนตรี   อายุ 39 ปี (ซุปเปอร์แอดมิน)
5. น.ส.อมรรัตน์   อายุ 26 ปี (จัดหาบัญชีม้า)
6. นายสนธิ์  อายุ 57 ปี (บัญชีม้า)
7. นางวันเพ็ญ   อายุ 59 ปี (บัญชีม้า)
8. นายคมเดช   อายุ 32 ปี (บัญชีม้า)
9. น.ส.กนกวรรณ อายุ 37 ปี (บัญชีม้า)

โดยจะดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน

และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันโดยการโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่ของทรัพย์สินนั้นหรือกระทำด้วยประการใดๆเพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ว่าในขณะได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และร่วมกันฟอกเงิน นอกจากนี้ยังได้ส่งเรื่องให้ทาง ป.ป.ง. ทราบและพิจารณาดำเนินการในการตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อยึดอายัดในขั้นต่อไปแล้ว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คนที่ได้ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ในการอุ้มผู้เสียหายเพื่อนำไปทวงเงินได้แล้วนั้น เจ้าหน้าที่สืบสวนได้มีการขยายผลดำเนินคดีกับเว็บไซต์การพนันออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวด้วย โดยได้ข้อมูลจากผู้เสียหายว่า มีนายตำรวจอยู่เบื้องหลังการดำเนินการดังกล่าว

จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่สืบสวนและพนักงานสอบสวน ให้มีการรวบรวมพยานหลักฐานโดยละเอียด และให้นำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีทุกราย แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศใดก็ตาม ทั้งนี้ขอยืนยันว่า จะมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาครบทุกคน ไม่มียกเว้นแน่นอน

‘เศรษฐา’ เปิดงานประชุมการค้าการลงทุน ‘ไทย-สหรัฐฯ’ เน้นสานสัมพันธ์ ย้ำ!! ไม่มีเวลาไหน ดีไปกว่านี้ ที่จะลงทุนในไทย เป็นหุ้นส่วนกันทางเศรษฐกิจ

เมื่อวานนี้ (31 พ.ค. 67) ที่ Mövenpick BDMS Wellness Resort กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุม Thailand-U.S. Trade and Investment Conference 2024: ‘Building on a Longstanding Partnership’ ซึ่งจัดโดยหอการค้าไทย หอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (The American Chamber of Commerce - AMCHAM) และหอการค้าสหรัฐอเมริกา (the U.S. Chamber of Commerce - USCC) ณ กรุงวอชิงตัน มีผู้เข้าร่วมรับฟังกว่า 300 คน

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณความเป็นหุ้นส่วนที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างกัน พร้อมขอบคุณคำแนะนำเชิงนโยบาย ซึ่งนายกฯ ได้นำแนวคิด ‘Five to Thrive’ ซึ่ง AMCHAM แนะนำมาพิจารณา และมีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนโยบายสนับสนุนการทำธุรกิจในไทย (ease-of-doing-business) ผ่านการทบทวนกฎหมาย เปลี่ยนสู่รัฐบาลดิจิทัล และกระบวนการที่ไร้รอยต่อ (streamlined processes) เช่น BOI ขยายเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (corporate income tax : CIT) ออกไปอีก 3- 5 ปี สำหรับ 5 อุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ ได้แก่ อุตสาหกรรมสีเขียว ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาค ในปี 2566 BOI ได้รับคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนมูลค่า 12.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีก่อนถึง 47% และแม้ว่าตัวเลขจะเป็นบวก แต่รัฐบาลยังต้องดำเนินการต่อเนื่องเพื่ออนาคตประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศวิสัยทัศน์ Ignite Thailand วางแผนงานประเทศในการเป็นศูนย์กลางใน 8 ภาคส่วนหลัก การท่องเที่ยว การแพทย์และสุขภาพเกษตรกรรมและอาหาร การบิน โลจิสติกส์ ยานยนต์แห่งอนาคต เศรษฐกิจดิจิทัล และการเงิน

นายเศรษฐา กล่าวว่า บทต่อไปของความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-สหรัฐฯ นายกฯ เห็นภาพความเชื่อมโยงกันมากขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมองไปสู่อนาคต โดยได้กล่าวถึง 5 วิสัยทัศน์ Ignite Thailand เพื่อเชื่อมโยงกันมากขึ้น ประกอบด้วย 

1. Logistics ตั้งทางยุทธศาสตร์ของไทย โครงการ Landbridge และระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ใหม่ จะเชื่อมโยงเส้นทางการค้าและโลจิสติกส์จากมหาสมุทรแปซิฟิกไปยังมหาสมุทรอินเดีย 

2. Aviation เป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางการบินทั้งผู้โดยสารและสินค้า รัฐบาลกำลังเร่งสร้างสนามบินใหม่ และพัฒนาสนามบินที่มีอยู่ทั่วประเทศ Upgrade สนามบินกรุงเทพฯ ให้เพิ่มความจุผู้โดยสารทั้งหมดจาก 60 ล้านคนเป็น 150 ล้านคน

3. Digital ด้วยอินเทอร์เน็ต 5G ที่ครอบคลุม โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง และประชากรที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เชิญชวนสหรัฐฯ สนับสนุน AI, Data Center ระบบนิเวศดิจิทัลอัจฉริยะ และโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจน พัฒนาทักษะแรงงาน 

4. Future Mobility ไทยมุ่งหวังที่จะเป็นศูนย์กลางยานยนต์แห่งอนาคต ทั้งระบบห่วงโซ่ของอุตสาหกรรม EV จึงเชิญชวนสหรัฐฯ ให้ลงทุน และสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศ EV ที่ครอบคลุมและเทคโนโลยีการขับเคลื่อนแห่งในอนาคต 

5. Tourism ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน รักษาความสัมพันธ์ในอนาคตให้แข็งแกร่ง เชื่อมั่นว่าวิสัยทัศน์ Ignite Tourism Thailand 2025 จะยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก

“ประเทศไทยเปิดและพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่เชื่อถือได้ของสหรัฐฯ บทใหม่ของความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-สหรัฐฯ ที่เชื่อมโยงถึงกัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มองไปสู่อนาคต เป็นสิ่งที่ท้าทายและน่าตื่นเต้น แต่ประเทศไทยพร้อม We count on all of your support in raising our economic partnership to the next level.” นายกรัฐมนตรี กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเส้นทางโครงการ ททท.ทัวร์อารยสถาปัตย์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล กรุงเทพฯ - พัทยา ที่ 'สวนนงนุชพัทยา'

ที่ห้องประชุมเฟื่องฟ้า สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี นาย เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเส้นทางโครงการ “ททท.ทัวร์อารยสถาปัตย์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล กรุงเทพฯ - พัทยา” พร้อมด้วย แขกผู้มีเกรียติ อาทิ นาย อำนาจ เจริญศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, ,นาย  สมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.),นาย ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา นายกฤษนะ ละไล ประธานมูลนิธิฯ และเครือข่ายมนุษย์ล้อทูตอารยสถาปัตย์ เข้าร่วมประชุม โดยมี นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา  ให้การต้อนรับ

สำหรับโครงการ “ททท.ทัวร์อารยสถาปัตย์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล กรุงเทพฯ - พัทยา" ที่ทางมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และเครือข่ายมนุษย์ล้อทูตอารยสถาปัตย์ กำหนดจัดขึ้น ณ เมืองพัทยา และสวนนงนุชพัทยา ระหว่างวันที่ 27-28 สิงหาคมนี้ เพื่อต่อยอด ขยายผล และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลอย่างต่อเนื่อง ทั่วถึง เท่าเทียมและยั่งยืน พร้อมพิธีประกาศปฏิญญา Pattaya for all 

จากนั้นรัฐมนตรีท่องที่ยวและกีฬาและคณะ ได้เยี่ยมชมความพร้อมของสวนนงนุชพัทยาในเรื่องอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ซึ่งประกอบไปด้วยห้องน้ำ,ทางลาด,ลิฟต์,สระวายน้ำ,ป้ายบอกทาง,รถชมวิวรวมถึงที่พักสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ ต่อจากนั้นได้ชมสวนสวยมากกว่า 60 สวนและศูนย์เรียนรู้ของทางสวนนงนุชพัทยา และอีกสิ่งหนึ่งที่สวนนงนุชพัทยาได้ทำมาอย่างต่อเนื่องคือมอบโอกาสให้ผู้สูงอายุ (อายุตั้งแต่60ปีขึ้นไป) เข้าฟรีทุกวันศุกร์ ผู้พิการและผู้ติดตามเข้าฟรีทุกวัน

10 อันดับ เมืองที่ดีที่สุดในโลกปี ประจำปี 2568

‘Time Out’ จัดอันดับ เมืองที่ดีที่สุดในโลกปี ประจำปี 2568 ‘กรุงเทพฯ’ คว้าอันดับที่ 2 
จากการสำรวจ นักท่องเที่ยวกว่า 20,000 คน ในหลากหลายมิติ ทั้งเรื่องของคุณภาพ ราคา อาหาร วัฒนธรรม และการใช้ชีวิต

ปักกิ่งจับมือกรุงเทพฯ มอบแนวทางสู้ PM2.5 เดินหน้าความร่วมมือ 3 ปี ฉลอง 50 ปีสัมพันธ์จีน-ไทย

(21 ก.พ.68) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเฝ้าติดตามและจัดการคุณภาพอากาศ ระยะ 3 ปี ซึ่งลงนามโดยสำนักนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมเทศบาลกรุงปักกิ่งของจีน และสำนักสิ่งแวดล้อมของกรุงเทพฯ เมื่อไม่นานนี้ ระบุว่าปักกิ่งจะแบ่งปันแนวทางปฏิบัติในการต่อสู้กับมลพิษทางอากาศแก่เมืองพี่เมืองน้องอย่างกรุงเทพฯ

บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ระบุว่าปักกิ่งจะแบ่งปันแนวทางปฏิบัติในการจัดการกับมลพิษทางอากาศแก่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะการเฝ้าติดตามและลดฝุ่นพิษพีเอ็ม2.5 (PM2.5) รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางเยือนซึ่งกันและกัน และจัดการฝึกอบรมและสนับสนุนกรุงเทพฯ ในการดำเนินโครงการนำร่องต่าง ๆ

อนึ่ง ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นเนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย

กรุงปักกิ่งของจีนได้ปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ดีขึ้นอย่างมากหลังจากดำเนินแผนริเริ่มขจัดมลพิษทางอากาศตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยมีความเข้มข้นเฉลี่ยของฝุ่นพิษพีเอ็ม2.5 อยู่ที่ 30.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในปี 2024 ซึ่งผ่านมาตรฐานระดับชาติติดต่อกัน 4 ปีแล้ว

ความเข้มข้นเฉลี่ยรายปีของฝุ่นพิษพีเอ็ม2.5 พีเอ็ม10 ไนโตรเจนไดออกไซด์ และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ของกรุงปักกิ่งในปี 2024 ลดลงร้อยละ 65.9 ร้อยละ 50 ร้อยละ 57.1 และร้อยละ 88.7 เมื่อเทียบกับปี 2013


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top