Friday, 23 May 2025
กระทรวงมหาดไทย

ฉะเชิงเทรา-รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้การต้อนรับ ผบ.ทร./รอง ผอ.ศรชล. ตรวจเยี่ยมหน่วยของ ศรชล.

วันนี้ 29 พฤษภาคม 2567 ที่ ห้องประชุมวิชิตสงคราม (ห้องรับรอง) นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา / ผอ.ศรชล.จังหวัดฉะเชิงเทรา มอบหมายให้นายกำพล สิริรัตตนนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้การต้อนรับ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) พร้อมด้วยคณะติดตาม เดินทางตรวจเยี่ยม ศรชล.ภาค 1 ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา 

สำหรับการเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ของผู้บัญชาการทหารเรือ /รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการในพื้นที่ และรับทราบปัญหาอุปสรรค ข้อขัดข้อง และมอบนโยบายในการทำงานของหน่วยงานศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละจังหวัด ทั้งนี้ ศรชล. มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศรชล. โดยมุ่งเน้นความมั่นคงทางทะเลแบบองค์รวม จึงมีการบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานหลักของ ศรชล. 7 หน่วยงาน ในการบังคับใช้กฎหมายในทะเล และให้ความคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล สำหรับผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ คือ การช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวในทะเล, การส่งกลับผู้เจ็บป่วยสายแพทย์ การบูรณาการหน่วยงานทางทะเลและหน่วยงานความมั่นคงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล, การทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง ,การส่งเสริมการท่องเที่ยว, การสร้างความตระหนักรู้ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เพื่อตอบสนองภารกิจในการจัดการแก้ไขปัญหาและเพิ่มขีดความสามารถของหน่วยงานของรัฐในการป้องกัน ปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายที่กระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

‘อนุทิน’ นำคณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม เยือนจังหวัดชายแดนใต้ ส่งเสริมความร่วมมือพัฒนาปลายด้ามขวานสู่พื้นที่ปลอดภัย-สงบสุข

(12 มิ.ย.67) ที่ TK Park ยะลา (อุทยานการเรียนรู้ยะลา) อ.เมืองยะลา จ.ยะลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย นำคณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิมและผู้บริหารระดับสูง ร่วมกิจกรรมเสริมความเข้าใจและสานสัมพันธ์คณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิมประจำปี 2567 โดยมีคณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม (The Organization of Islamic Cooperation : OIC) 12 ประเทศ เข้าร่วม 

ทั้งนี้ นายอนุทินและคณะทูตได้รับฟังการนำเสนอการขับเคลื่อนงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย โดยพันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นมีการแลกเปลี่ยนเสวนาประเด็นความรู้ที่เป็นประโยชน์ทางนโยบายของผู้เข้าร่วมกิจกรรม

จากนั้นนายอนุทินได้นำคณะทูตเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ OTOP ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ ผ้าบาติกที่ได้รับการพัฒนาตามพระดำริ ‘ผ้าไทยใส่ให้สนุก’ และ ‘Sustainable Fashion’ ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

นายอนุทิน กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ มีนโยบายในการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคในด้านสุขภาพ การขนส่งทางอากาศ การสื่อสาร การศึกษา และการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของประเทศในการแข่งขัน ขณะเดียวกันก็ไม่ละทิ้งการพัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ ในภูมิภาครวมถึงจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งการได้แลกเปลี่ยนกับคณะทูตจากประเทศ OIC จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนนโยบายของนายกฯ และรัฐบาลไทย โดยเฉพาะการร่วมเป็นหุ้นส่วนของประเทศไทยในการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ความปลอดภัยและความสันติสุข 

สำหรับคณะทูต OIC ที่เข้าร่วมกิจกรรม ครั้งนี้ ประกอบด้วย H.E. Mr. Pengiran Haji Sahari Pengiran Haji Salleh เอกอัครราชทูตบรูไน, H.E. Mrs. Hala Youssef Ahmed Ragab เอกอัครราชทูตอียิปต์, H.E. Mr. Nassereddin Heidari เอกอัครราชทูตอิหร่าน, Mr. Bong Yik Jui อุปทูต สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซีย, Ms. Aishath Shiruma Ahmed อุปทูต สถานีอัครทูตมัลดีฟส์, Dr. Mohammed Idris Haidara อุปทูต สถานเอกอัครราชทูตไนจีเรีย, Mr. Fuad Adriansyah รองหัวหน้าสำนักงานเอกอัครราชทูตอินโดนีเชีย และ Mr. Nuriddin Mamatkulov รองหัวหน้าสำนักงานสถานกงสุลใหญ่อุซเบกิสถาน 

‘มหาดไทย’ ขยายฟรีวีซ่าเข้าไทยเพิ่มเป็น ‘93 ประเทศ’ 'หนุนท่องเที่ยว-ติดต่อธุรกิจ-ทำงานระยะสั้น' เริ่ม 15 ก.ค.นี้

(12 ก.ค. 67) รายงานข่าวระบุว่า น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ซึ่งต้องดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง (Ease of Travelling) กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงมหาดไทย 4 ฉบับ เพื่อปรับปรุงมาตรการการตรวจลงตรา ให้เป็นปัจจุบันสอดคล้องกับสถานการณ์ที่ทั่วโลกมุ่งแข่งขันดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ

“นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้พิจารณาและลงนามประกาศทั้ง 4 ฉบับแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนาม จากนั้นจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาและทุกฉบับมีผลบังคับพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 67 เป็นต้นไป” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า สำหรับประกาศกระทรวงมหาดไทยทั้ง 4 ฉบับ มีดังนี้

1.ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดรายชื่อประเทศและดินแดนที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ทำงานหรือการติดต่อธุรกิจระยะสั้น ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน หกสิบวัน เป็นกรณีพิเศษ มีสาระสำคัญ เป็นการกำหนดรายชื่อประเทศ/ดินแดนที่ได้รับสิทธิยกเว้นการตรวจลงตรา (ยกเว้นวีซ่า หรือ วีซ่าฟรี) สามารถพำนักในประเทศไทยได้ไม่เกิน 60 วัน (ผ.60) เพื่อการท่องเที่ยว การติดต่อธุรกิจและการทำงานระยะสั้น จำนวน 93 ประเทศ/ดินแดน เพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ 57 ประเทศ/ดินแดน

2.ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือ เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวจะขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง มีสาระสำคัญ เป็นการปรับปรุงรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival: VOA) เป็น 31 ประเทศ/ดินแดน เพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ จำนวน 19 ประเทศ/ดินแดน

3.ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อท่องเที่ยวและทำงานทางไกล เป็นกรณีพิเศษ มีสาระสำคัญ เป็นการเพิ่มการตรวจลงตราประเภทใหม่ Destination Thailand Visa (DTV) สำหรับชาวที่ประสงค์จะพำนักในประเทศไทยเพื่อทำงานและท่องเที่ยวไปพร้อมกัน (workcation) ได้แก่ กลุ่มที่มีทักษะสูง กลุ่มอาชีพอิสระ กลุ่มทำงานระยะไกล หรือกลุ่มที่ประสงค์มาพำนักเพื่อเรียนมวยไทยและศิลปะป้องกันตัว การเรียนทำอาหาร การเรียนและฝึกซ้อมกีฬา การรักษาพยาบาล การอบรม การสัมมนา การจัดแสดงศิลปะและดนตรี โดยเมื่อได้รับการตรวจลงตราประเภท DTV แล้วจะสามารถพำนักในประเทศไทยได้ครั้งละไม่เกิน 180 อายุการตรวจลงตรา 5 ปี

4.ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อศึกษาและทำงาน เป็นกรณีพิเศษ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงสิทธิสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาเรียนระดับปริญญาตรีขึ้นไป ที่ได้รับการตรวจลงตรา Non-Immigrant Visa รหัส ED เพื่อดึงดูดผู้ที่มีศักยภาพและทักษะเข้าสู่ตลาดแรงงานของประเทศ โดยขยายเวลาพำนักในประเทศไทยหลังสำเร็จการศึกษา 1 ปี เพื่อหางาน เดินทางท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ในประเทศไทยได้

‘อนุทิน’ สั่งทุกจังหวัด ‘ลดค่าแผง-จัดขายของราคาถูก’ ช่วยประชาชนช่วง 3 เดือน ก่อนได้ใช้ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’

(2 ส.ค.67) ทำเนียบฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหารือโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์ ที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เป็นประธานว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้เสนอต่อที่ประชุมว่าจะมีมาตรการระยะสั้นระหว่างปัจจุบันถึงเดือนตุลาคม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนที่ประชาชนจะได้เงินจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในไตรมาสที่ 4 ของปี อาทิ การทำให้สินค้าราคาถูกลง สนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กให้มีช่องทางค้าขาย และขอให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ลดราคาสินค้า เพื่อให้ประชาชนได้ซื้อสินค้าในราคาต่ำลง 

ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยก็ได้นำมาตรการที่ว่าไปกำชับทุกจังหวัดทั่วประเทศให้ช่วยประชาสัมพันธ์และหาช่องทางรวมถึงจัดพื้นที่ให้มีการขายสินค้ามากขึ้น อาทิ ศาลากลางจังหวัด รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และสั่งการให้องค์การตลาดของกระทรวงมหาดไทยลดค่าเช่าแผงในช่วง 3 เดือนนี้ด้วย

‘มท.1’ สั่งฟัน!! ปลัดอำเภอกร่าง 'พกปืน-ทำร้ายเด็กเสิร์ฟ' ลั่น!! 'คนมหาดไทย' ต้องดูแล ไม่ใช่รังแกประชาชน

เมื่อวานนี้ (26 ส.ค. 67) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ กรณีปลัดอำเภอพกปืน ล็อกคอและทำร้ายร่างกายพนักงานร้านอาหาร จนได้รับบาดเจ็บในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ทางกระทรวงมหาดไทยไม่นิ่งนอนใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เร่งสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบเป็นการกระทำผิดให้ลงโทษให้ถึงที่สุด ทั้งโทษทางวินัยและเร่งติดตามคดีทางอาญาให้แก่ผู้ที่ได้รับความเสียหาย

"เนื่องจากในเรื่องนี้ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายอนุทิน จึงให้ทางท่านผู้ว่าฯ สระแก้วเร่งดำเนินการสอบสวนและนำข้อเท็จมาเปิดเผยต่อสังคม ให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ได้รับความเสียหาย หากพบว่าทำผิดก็ให้ลงโทษทั้งทางวินัยและให้ดำเนินคดีอาญาโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งนายอนุทินได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยมาโดยตลอดว่า คนมหาดไทยมีหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ใช่รังแกประชาชน หากมีการใช้อำนาจหน้าที่ของตนเองไปรังแกประชาชนก็ต้องถูกลงโทษให้ถึงที่สุด" น.ส.ไตรศุลี กล่าว

เลขานุการ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ล่าสุด จังหวัดสระแก้วได้รายงานในเบื้องต้นมายังกรมการปกครอง ว่า บุคคลผู้ก่อเหตุมีตำแหน่งปลัดอำเภอวัฒนานคร ช่วยราชการที่ทำการปกครองจังหวัดสระแก้ว เหตุเกิด โดยได้ก่อเหตุเมื่อเวลา 23.00 น. ของวันศุกร์ที่ 23 ส.ค.67 ที่ผ่านมา ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว 

สำหรับการดำเนินการ จังหวัดสระแก้วได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการทางวินัยกับผู้ก่อเหตุ และระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงนายเชาวเนตร ยิ้มประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้มีคำสั่งจังหวัดสระแก้ว ที่ 2388/2567 ย้ายผู้ก่อเหตุออกนอกพื้นที่ไปปฏิบัติราชการ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.67 เป็นต้นไป ในส่วนของการดำเนินคดีอาญา ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เมืองสระแก้ว ทางจังหวัดจะเร่งติดตามผลคดีต่อไป

กมธ.การบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา เข้าร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายอนุทิน ชาญวีรกูล)

เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.67) เวลา 09.30-12.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมราชสีห์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย โดย พลตำรวจโท ยุทธนา ไทยภักดี ประธานคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา และกรรมาธิการ ได้เดินทางเพื่อประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นดังต่อไปนี้

​1) นโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินส่วนกลางและส่วนภูมิภาค การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่เกี่ยวข้องกับอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย รวมทั้งการผังเมือง เพื่อการพัฒนาเมืองและการดำรงรักษาเมืองในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม ตลอดทั้งการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล
​​2) แนวทางการป้องกันและการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตทางทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนในลักษณะให้คนต่างด้าว กลุ่มชาติพันธุ์ และแรงงานต่างด้าว สวมตัวเป็นคนไทยทำบัตรประจำตัวประชาชน
​3) การดำเนินงานนโยบายการจัดทำสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ที่อาจมีการจัดทำธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย

​​4) การดำเนินงานโครงการถมทะเลสร้างเกาะจำนวน 9 เกาะ เพื่อป้องกันน้ำทะเลท่วมกรุงเทพมหานคร
​5) การดำเนินงานและปัญหาอุปสรรคการออกหลักฐานการถือครอง และการใช้ประโยชน์ที่ดินของประชาชน รวมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาชาวต่างชาติครอบครองที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
​6) แนวทางการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและได้มา ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 เพื่อการจัดทำแนวป้องกันปัญหาการเกิดอุทกภัย

​7) แนวทางการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาชาวต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ที่อาจกระทบต่อภาพรวมของประเทศไทยทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม เช่น ปัญหาทุนจีนซื้อที่ดินจัดทำบ้านจัดสรร ปัญหาล้งจีน ประกอบธุรกิจการค้าผลไม้ไทย เป็นต้น โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหาร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและเข้าร่วมประชุม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวข้างต้น

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการได้แสดงความคิดเห็น ปัญหาอุปสรรค และผลกระทบที่เกี่ยวข้องต่อประชาชน รวมทั้งมีข้อเสนอแนะเพื่อผลประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ซึ่งทุกฝ่ายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและจะดำเนินการตามข้อเสนอแนะในส่วนที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะได้นำข้อมูลและข้อคิดเห็นต่าง ๆ ที่ได้จากการประชุมร่วมกันไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมาธิการต่อไป

‘อนุทิน’ หนุนอดีตบิ๊ก มท.ทำการเมืองหลังเกษียณอายุ หลังพบอดีตข้าราชการร่วมตั้ง ‘พรรคโอกาสใหม่’

‘อนุทิน’ เชียร์อดีตบิ๊ก ๆ ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ตั้งพรรคโอกาสใหม่ ทำการเมือง หลังเกษียณอายุ

เมื่อวันที่ (21 พ.ย.67) ที่ด่านพรมแดนบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเปิดตัวของพรรคโอกาสใหม่ ที่มีอดีตข้าราชการกระทรวงมหาดไทย นั่งเป็นกรรมการบริหารพรรคจำนวนมาก ถือว่า เป็นคู่แข่งที่น่ากังวลหรือไม่ว่า ยังไม่ได้ติดตามข่าว ซึ่งก็ดี ใครมีประสบการณ์ หรือประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว จะได้มีหนทางดี มาลงสนามแข่งขันกัน มีความชอบธรรมโดยสมบูรณ์ สามารถพูดได้ว่ามานั่งตำแหน่งนี้ได้ เพราะถูกเลือกมาจากประชาชนทั้งประเทศ ดีกว่ามานั่งรอให้คนอื่นแต่งตั้ง

เมื่อถามว่า การเป็นอดีตข้าราชการเกษียณอายุ มาทำพรรคการเมืองจะรอดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็ต้องส่งกำลังใจให้รอด จะไปแช่งเขาทำไม คนมาร่วมทำงานให้กับบ้านเมือง ไม่ว่าจะเข้ามาในรูปแบบใดก็ต้องเชียร์กัน

มท. อิ่ม ยืนยัน กระทรวงมหาดไทยพร้อมจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม 22 ม.ค. นี้

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันความพร้อมของกระทรวงมหาดไทยในการเปิดให้บริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมแก่ประชาชนทุกคู่สมรส โดยนายทะเบียนทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร ได้รับการอบรมและซักซ้อมการให้บริการอย่างครบถ้วน พร้อมระบบรองรับที่จัดเตรียมไว้เสร็จสมบูรณ์แล้ว

กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานคร พร้อมในการอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ตามกฎหมายฉบับใหม่ที่มีการบังคับใช้ ในวันที่ 22 มกราคม 2568 นี้ ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดให้บริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม โดยมีการประชาสัมพันธ์อย่างแพร่หลายเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล

นางสาวธีรรัตน์ระบุว่า การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของสังคมไทยในการส่งเสริมความเท่าเทียมและการยอมรับความหลากหลายทางเพศ ทั้งยังแสดงความยินดีกับคู่รักทุกคู่ ที่จะเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างเท่าเทียมกัน ผ่านการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายฉบับใหม่นี้

"นี่คือก้าวสำคัญในเรื่องความเท่าเทียมของสังคมไทย ที่เปิดรับทุกความหลากหลาย และขออวยพรให้คู่รักทุกคู่ ที่จะมาจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายฉบับใหม่นี้ ประสบความสุขและความสำเร็จในชีวิตคู่" นางสาวธีรรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเขต ทุกเขต และที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง ทั่วประเทศ

24 เมษายน พ.ศ.2532 36 ปี ‘วันเทศบาล’ จุดเริ่มต้นแห่งการกระจายอำนาจ ที่กลายเป็นหมุดหมายสำคัญของประชาธิปไตยไทย

วันที่ 24 เมษายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น 'วันเทศบาล' โดยกระทรวงมหาดไทย เพื่อรำลึกถึงการถือกำเนิดของเทศบาลในประเทศไทย ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2476 หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475 ภายใต้การนำของพระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อกระจายอำนาจการปกครองจากส่วนกลางไปสู่ท้องถิ่น และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารพื้นที่ของตนเองอย่างแท้จริง

ต่อมา กระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการ ลงวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 กำหนดให้วันที่ 24 เมษายน ของทุกปีเป็น 'วันเทศบาล' เพื่อให้บุคลากรในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตระหนักถึงความสำคัญของบทบาทหน้าที่ ในฐานะผู้ให้บริการประชาชนในชุมชน พร้อมส่งเสริมค่านิยมด้านความรัก ความผูกพัน และความสามัคคีในองค์กร ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างระบบราชการที่เข้มแข็งและเป็นธรรม

เทศบาลไม่เพียงเป็นกลไกทางการปกครอง แต่ยังเป็นหน่วยบริการประชาชนที่อยู่ใกล้ชิดกับวิถีชีวิตของชุมชนมากที่สุด การบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การจัดการขยะ และการส่งเสริมคุณภาพชีวิต ล้วนเป็นภารกิจของเทศบาลที่มีผลกระทบโดยตรงต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีเทศบาลจำนวนทั้งสิ้น 2,472 แห่งทั่วประเทศ สะท้อนถึงความสำคัญของเทศบาลในฐานะฟันเฟืองหลักของการพัฒนาท้องถิ่นและระบบประชาธิปไตยระดับรากฐาน

‘อนุทิน’ ย้ำไม่เคยแม้แต่คิดแอบอ้างสถาบันฯ หลังถูกระบุในเอกสาร กอ.รมน. เป็นผู้แสวงหาผลประโยชน์

(2 พ.ค. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงที่กระทรวงมหาดไทย กรณีมีชื่อปรากฏในเอกสารประเมินภัยคุกคามด้านความมั่นคงของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ซึ่งระบุว่าเป็นบุคคลที่แสวงหาผลประโยชน์โดยแอบอ้างสถาบัน โดยยืนยันว่าเพิ่งทราบเรื่องจากข่าว และยังไม่เคยเห็นเอกสารฉบับดังกล่าวด้วยตนเอง

อนุทินระบุว่า ตนในฐานะรองผู้อำนวยการ กอ.รมน. ซึ่งเป็นตำแหน่งตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังไม่เคยได้รับข้อมูลนี้ในการประชุม และจะขอเอกสารมาตรวจสอบให้ชัดเจน พร้อมย้ำว่าไม่เคยมีพฤติกรรมหรือความคิดที่จะแอบอ้างสถาบันเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เพราะไม่มีความจำเป็น และไม่มีเหตุผลใดที่จะทำเช่นนั้น

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวอีกว่า สำหรับตนแล้ว “แม้แต่คิดก็ไม่เคยคิด” ที่จะละเมิดหรือใช้สถาบันในทางไม่เหมาะสม พร้อมยืนยันว่าความจงรักภักดีต่อสถาบันอยู่ในสายเลือด และเป็นสิ่งที่ยึดมั่นมาตลอดชีวิตการทำงานในทางการเมืองและราชการ

ท้ายที่สุด นายอนุทินขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายว่า อย่านำเรื่องนี้ไปเชื่อมโยงหรือใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะอาจสร้างความเข้าใจผิดและบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการทำงานของภาครัฐและสถาบันหลักของประเทศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top