Monday, 20 May 2024
กระทรวงพลังงาน

'พีระพันธุ์' ขีดเส้นอีก 2 สัปดาห์ ราคาเบนซินต้องได้ข้อยุติ ลั่น!! ต้องลงอีกลิตรละ 2.50 บาท เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย

(16 ต.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงพลังงาน เตรียมกลับไปพิจารณาแนวทางการปรับลดราคาค่าน้ำมันเบนซิน เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เบื้องต้นจะทำให้เทียบเคียงกับการลดราคาน้ำมันดีเซลในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน สำหรับการประชุม ครม. ครั้งนี้ กระทรวงพลังงานรายงานรายละเอียดมาแล้วเบื้องต้น 2 ทางเลือก และได้นำมารายงานให้กับที่ประชุม ครม. รับทราบแล้ว แต่ยังไม่โดนและครอบคลุมการช่วยเหลือตามที่รัฐบาลตั้งใจไว้ 

โดยทางเลือกแรก คือ การช่วยเหลือกลุ่มผู้ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เหมือนที่ทำมาก่อนหน้านี้ โดยใช้เงินเดือนละ 95 ล้านบาท 

ส่วนทางเลือกที่ 2 คือ การช่วยเหลือขยายจากผู้ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพิ่มไปยังกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยใช้เงินเดือนละ 4,000 ล้านบาท

“กระทรวงพลังงานได้มารายงานข้อเสนอ 2 มาตรการเมื่อเช้า ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะนโยบายของรัฐบาลต้องลดราคาน้ำมันในภาพรวมไม่ใช่ช่วยเหลือเป็นกลุ่ม ๆ จึงได้บอกให้เจ้าหน้าที่กลับไปทำรายละเอียดโดยให้เพิ่มทางเลือกที่ 3 คือลดราคาน้ำมันเบนซินในภาพรวมแบบน้ำมันดีเซล ซึ่งจะนำมาเสนอ ครม. ต่อไป” นายพีระพันธุ์ กล่าว

รมว.พลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน ได้นำเรื่องนี้รายงานในที่ประชุมครม.รับทราบแล้วว่าวันนี้มีการรายงานความคืบหน้าว่ามี 2 ทาง ซึ่งส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะไม่เป็นไปตามนโยบายที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ว่าจะลดราคาเบนซินให้ได้ราคาต่ำสุดของน้ำมันเบนซิน ส่วนภาระค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลจะเข้าไปสนับสนุนมากแค่ไหน รัฐบาลจะตัดสินใจอีกครั้ง แต่ตอนนี้ขอให้เสนอมา โดยเมื่อเสนอ ครม. แล้ว ครม.ก็เห็นด้วยว่าเอาแนวทางเลือกที่ 3 คือ ลดราคาน้ำมันเบนซินทั้งระบบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป้าหมายที่จะลดราคาน้ำมันเบนซิน จะทำได้แค่ไหน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เป้าหมายตั้งใจว่าลดให้ไม่น้อยกว่าดีเซล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องหารือกับกระทรวงการคลังอีกครั้ง เช่น ลดลงประมาณ 2.50 บาทต่อลิตร เป็นต้น แต่ตัวเลขชัด ๆ คงต้องไปหารือก่อนว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงวิธีการดำเนินการด้วยว่า จะใช้กลไกไหน ทั้ง การใช้กลไกของการลดภาษีสรรพสามิต หรือ ใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในรายละเอียดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปศึกษารายละเอียดอีกครั้ง โดยเอาเป้าหมายตามหลักการและนโยบายของรัฐบาลไปทำงาน ส่วนวิธีการจะให้ผู้เกี่ยวข้องไปดูอีกที และจะทำให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เช่นเดียวกับวงเงินของการทำเรื่องนี้ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ และขอให้ไปศึกษารายละเอียดอีกว่าทำอย่างไร

รมว.พลังงาน กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเห็นว่ามีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างน้ำมันเบนซินหลายอย่าง ทั้งเรื่องระเบียบ กฎหมายต่าง ๆ และควรต้องปรับใหม่ ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องค่าการตลาดนั้น ล่าสุดได้ตั้งคณะกรรมการมาศึกษาโครงสร้างค่าการตลาดน้ำมันขึ้นมาหนึ่งชุด เพื่อไปรายละเอียดทั้งหมด หากเอกชนไม่ให้ความร่วมมือก็ต้องยึดของทางราชการเป็นหลัก 

ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องค่าการตลาดอย่างเป็นทางการ เพราะคุยไปก็ไม่มีประโยชน์ และที่ผ่านมาก็แจ้งว่าเป็นความลับทางการค้า เมื่อเป็นอย่างนั้นจึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาอย่างจริงจัง เอาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้คำตอบเลย และถือข้อมูลของเราเป็นทางการ เมื่อให้โอกาสมาชี้แจงทำความเข้าใจเอาตัวเลขมา แล้วไม่มา เมื่อไม่มาก็ช่วยไม่ได้ และคณะกรรมการชุดนี้จะประชุมนัดแรก 18 ตุลาคม นี้ และจะสรุปให้ได้ใน 60 - 90 วัน

'พีระพันธุ์' ถก 'รัสเซีย' ซื้อ 'น้ำมัน-ก๊าซ-ถ่านหิน' ราคาถูก ด้าน ‘รัสเซีย’ ยืนยัน!! พร้อมสนับสนุนแบบครบวงจร

(19 ต.ค.66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้หารือแบบทวิภาคีกับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพลังงานของสหพันธรัฐรัสเซีย (นายเซอร์เก โมคานิคอฟ) และ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย (นายเยฟกินี โทมิคิน) หลังเป็นประธานในการประชุม The 3rd APEF วันนี้ (19 ต.ค. 66) ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ เพื่อหาทางในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านพลังงานระหว่างกันและเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ 

การหารือครั้งนี้เป็นไปในทิศทางที่ดี โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานของรัสเซีย แจ้งว่าพร้อมสนับสนุนไทยด้านพลังงานแบบครบวงจร ทั้งในส่วนของทรัพยากรพื้นฐาน อาทิ ถ่านหิน น้ำมัน และ อื่น ๆ รวมทั้งด้านวิชาการ การลงทุนในการสร้างระบบผลิตพลังงานรูปแบบต่าง ๆ และการร่วมเป็นหุ้นส่วนทางการลงทุน โดยเสนอให้มีการจับคู่ธุรกิจด้านพลังงานระหว่างภาคเอกชนในประเทศไทยและสหพันธรัฐรัสเซีย และคาดหวังให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมถึงเสนอให้ผู้แทนจากประเทศไทยเข้าสังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมพลังงาน รัฐบาลรัสเซียพร้อมให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกนักธุรกิจชาวไทยในการเดินทางเข้าไปประกอบธุรกิจด้านพลังงานร่วมกับรัสเซีย และเชิญรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไปเยือนรัสเซีย เพื่อหารือเพิ่มเติมต่อไปด้วย 

จากนั้น นายพีระพันธุ์ ได้พบกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงไฟฟ้า พลังงาน และทรัพยากรธรณีสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ และร่วมหารือในประเด็นความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทยและบังกลาเทศ โดยหวังว่าจะมีความร่วมมือในประเด็นต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมพลังงานต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ ในช่วงเช้า นายพีระพันธุ์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้เป็นประธานในการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านพลังงานแห่งเอเชียและแปซิฟิกครั้งที่ 3 (The Third Asian and Pacific Energy Forum: The 3rd APEF) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในฐานะ ‘ประธานฯ The 3rd APEF’

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำระหว่างเปิดการประชุมว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญและส่งเสริมการดำเนินการเพื่อผลักดันนโยบายพลังงานสะอาดร่วมกับประเทศสมาชิก โดยให้ความสำคัญกับการเข้าถึงแหล่งพลังงาน และการสร้างมาตรฐานราคาพลังงานที่เป็นธรรม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของการประชุม The 3rd APEF ที่จัดขึ้นเพื่อทบทวน รายงาน รวมถึงติดตามความคืบหน้า ในการพัฒนาการการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 7 (SDG7) ประเด็นเรื่องการสร้างหลักประกันการเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่อย่างยั่งยืนและเชื่อถือได้ ในราคาที่ซื้อหาได้ 

‘อิทธิพัทธ์’ เปิดบิลค่าไฟ เทียบเดือนต่อเดือน ลดไปเกือบ 2 พัน!! พร้อมขอบคุณนโยบายดีๆ จาก ‘รมว.พีระพันธุ์’ ที่ช่วยลดภาระคนไทย

เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 66 นายอิทธิพัทธ์ เศรษฐยุกานนท์ หรือ ‘บอย’ อดีตผู้สมัคร สส.กทม พรรครวมไทยสร้างชาติ คณะทำงานของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Itthipat Settayukanon’ ชื่นชม ‘นโยบายลดค่าไฟ’ โดยระบุว่า…

“Itthipat update 👍🏻
มาแล้วครับไม่พูดเยอะ ดูจากรอบบิลครับ ค่าไฟเดือนตุลาคม เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน ลดลงจาก 16,926.08 เป็น 14,954.59 ลดลง 1,972.49 บาท

สืบเนื่องจากนโยบายของท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่อยากลดค่าไฟให้พี่น้องประชาชนคนไทย จากความต้องการดังกล่าวทำให้ กกพ. มีมติลดค่า FT จาก 4.45 บาทต่อหน่วย เป็น 3.99 บาทต่อหน่วย ต้องขอบคุณท่านพีระพันธุ์ ที่นึกถึงพี่น้องคนไทยทั้งประเทศนะครับ

ลองไปเช็กบิลค่าไฟแล้วดูว่าของแต่ละท่านลดลงเท่าไหร่ ส่วนของผมลดลงเรียบร้อย ขอขอบคุณท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ที่ทำงานหนักเพื่อประชาชนมาโดยตลอดครับ”

‘พีระพันธุ์’ เปิดแผน ‘รื้อ-ทุบ-ปลด-สร้าง’ แก้กฎหมายเอื้อกำกับราคาน้ำมัน เร่งปรับโครงสร้างตั้งแต่ฐานราก พร้อมยัน!! ลดโซฮอล์ 91 ก่อน ชนิดอื่นต่อคิว

(23 ต.ค. 66) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงข้อเสนอแนะจากประชาชนบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการลดราคาน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 91 และเสนอลดโซฮอล์ 95 แทน ว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังยืนยันลดโซฮอล์ 91 อัตรา 2.50 บาทต่อลิตร เพราะการลดครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นลดน้ำมันเบนซิน หลังจากนั้นจะทยอยลดสูตรอื่น อาทิ โซฮอล์ 95 เป็นต้น ไม่ได้แปลว่าไม่ลดชนิดอื่นแล้ว

ทั้งนี้ มี 2 เหตุผลในการเลือกลดโซฮอล์ 91 เพราะ 1.) เป็นน้ำมันที่ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ใช้กันมากสุด จึงจำเป็นที่ต้องเยียวยาไวกว่ากลุ่มอื่น 2.) เป็นน้ำมันที่ราคาหน้าโรงกลั่นถูกที่สุดคือ 22.21 บาทต่อลิตร ต้นทุนถูกกว่าทั้งน้ำมัน อี 20 และ อี 85 โดยนายพีระพันธุ์เข้าใจความเป็นห่วงของทุกฝ่าย แต่การลดราคาเชื้อเพลิงนั้นเป็นแค่มาตรการระยะสั้นที่จะทำให้พลังงานเป็นธรรมสำหรับทุกคน

นายพงศ์พลกล่าวว่า ขณะนี้นายพีระพันธุ์มีแผนลดราคาพลังงานทั้งระยะสั้น กลาง ยาว วางไว้ทุกสเต็ป โดยระยะสั้นคือ ลดค่าพลังงาน ชนิดไหนทำก่อนจะทำเลยอย่างน้อยได้ประวิงหนี้ ลดค่าใช้จ่ายค่าไฟน้ำมัน ต่อลมหายใจให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อย

ขณะที่ระยะกลางจะเดินหน้าแก้กฎหมายอุปสรรค เรื่องนี้ใช้เวลาแต่จะเห็นผลชัดภายในปีนี้แน่นอน เพราะจะมีการรื้อ ทุบ ปลด สร้าง คือ แก้กฎหมายที่เอื้อให้มีการกำกับโครงสร้างราคาน้ำมันให้โปร่งใส ราคาไม่เอาเปรียบผู้บริโภค เพิ่มกฎหมายใหม่น้ำมันราคาถูกเฉพาะทาง มี พ.ร.บ.น้ำมันเพื่อการเกษตรและการแก้กฎเรื่องมาตรฐานน้ำมัน ฯลฯ

ระยะยาวจะวางโครงสร้างเพื่ออนาคต เน้นปฏิวัติแบบแผนเพื่อความยั่งยืน จะวางรากฐานเพื่อความมั่นคงทางพลังงาน อาทิ ระบบสำรองน้ำมันประเทศเพื่อความมั่นคงโดยกระทรวง การเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่ยุคผลิตพลังงานสะอาดเต็มตัว ศึกษาระบบเน็ต-บิลลิ่ง ระบบกริดแบบใหม่

กระทรวงพลังงาน-สหพันธ์การขนส่งทางบก แห่งประเทศไทย บุกกระทรวงพลังงานยื่นหนังสือรองนายกฯ ตรึงราคาก๊าซ NGV

วันที่ 26 ต.ค. เวลา 15.00 น. นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย พร้อมคณะเข้ายื่นหนังสือต่อ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้ตรึงราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ (NGV) ตามที่ คณะรัฐมนตรีมีมติให้ใช้ NGV ทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งเบนชินและดีเซลให้ได้ร้อยละ 10 ภายใน ปี พ.ศ. 2551 และทดแทนให้ได้ร้อยละ 25 ภายในปี พ.ศ. 2552 ในวาระยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาด้านพลังงานของประเทศ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2548 นั้น

ต่อมามีการปรับโครงสร้างราคาก๊าซNGV ตามกรอบแนวทางการปรับโครงสร้างราคาตาม มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ นับตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2557 เป็นต้นมา ทำให้ราคา ขายปลีก ก๊าซ NGV ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่มีราคา 8.50 บาท/กิโลกรัม และจากสถานการณ์ราคาก๊าซ NGV ที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ผู้ประกอบการขนส่งที่สมัครใจใช้รถบรรทุกเครื่องยนต์ NGV ต้องแบกรับภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิง ที่สูงมากและมีผลกระทบถึงราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ประชาชนได้รับโดยตรง และเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้รถบรรทุกเครื่องยนต์ดีเซล ก๊าซ NGVถือเป็นพลังงานสะอาดที่ก่อให้เกิดมลภาวะในระดับต่ำเมื่อเทียบกับแหล่งพลังงานอื่นๆ

โดยเฉพะน้ำมันดีเซลซึ่งเป็นแหล่งเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ในภาคขนส่ง การส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซ NGV เพื่อทดแทน การใช้น้ำมันดีเซลในภาคขนส่ง จึงเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และการพิจารณากำหนดราคาก๊าซ NGV จะก่อให้เกิดแรงจูงใจต่อผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล เป็นเชื้อเพลิงปรับเปลี่ยนมาใช้ก๊าซ NGV แทน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรถบรรทุกและรถโดยสาร

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีประกาศราคาขายปลีกก๊าซ NGV มีผล 16 กันยายนที่ผ่านมา 19.59 บาท/กิโลกรัม และได้กำหนดราคาขายปลีกก๊าซ NGV มีผล 16 ธันวาคม 2566 บาพ/กิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันดีเซล ทางสหพันธ์การขนส่งทางบก แห่งประเทศไทย จึงขอให้กระทรวงพลังงานตรึงราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ (NGV) ที่ราคา 18.59 บาท/กิโลกรัม ต่อไป เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ลดการปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือเกิดมลภาวะที่เป็นมลพิษทางอากาศน้อยที่สุดในบรรดาเชื้อเพลิงทั้งหมด

'พีระพันธุ์' เผยข่าวดี!! ลดแก๊สโซฮอล์ 2.50 บาท คิกออฟ 7 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ตรึงสามเดือน

(31 ต.ค. 66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

เดิม ผมในฐานะ รมว. พลังงาน จะเสนอที่ ประชุม ครม.รับทราบการปรับลดราคาน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 ลงในอัตรา 2.50 บาทต่อลิตร โดยใช้วิธีปรับลดภาษีสรรพสามิตเช่นเดียวกับกรณีของน้ำมันดีเซลตามที่ ครม. เห็นชอบในหลักการไว้ แต่เมื่อลงไปทำงานพบว่า อัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับเบนซินแก๊สโซฮอล์ทุกประเภทเป็นอัตราเดียวกันหมดมิได้แยกอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 ไว้ต่างหาก 

วันนี้จึงจำเป็นต้องให้ ครม. พิจารณาปรับลดภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ทุกประเภทลงแต่เพียงในอัตรา 1 บาทต่อลิตร และแบบอี 10 ลดลง 90 สตางค์ อี 20 ลดลง 80 สตางค์ และ อี 85 ลดลง 15 สตางค์ โดยกระทรวงการคลังเสนอให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของกระทรวงพลังงานไปบริหารจัดการให้ปรับลดราคาสำหรับเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 ลงอีกลิตรละ 1.50 บาท ให้เป็นลิตรละ 2.50 บาท ตามที่กระทรวงพลังงานเคยเสนอไว้ วันนี้ ครม. พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบโดยกระทรวงการคลังเสนอให้เป็นมติว่าให้กองทุนนำ้มันไปบริหารจัดการชดเชยเงินที่ต้องใช้จ่ายในส่วน 1.50 บาทต่อลิตรดังกล่าวเองในภายหลัง มีกำหนด 3 เดือน นับแต่วันที่ 7 พ.ย. 2566 

ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชน และขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี  กระทรวงการคลัง และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านทุกฝ่ายอีกครั้งครับ

'ดร.หิมาลัย' ลุยแม่ฮ่องสอน เร่งช่วยเหลือประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้ ดันโซลาร์ฯ คลุมทุกหมู่บ้านใน 5 ปี ตามแนวทาง 'พีระพันธุ์'

(31 ต.ค.66) ที่สำนักงานพลังงานแม่ฮ่องสอน กระทรวงพลังงาน โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ คณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาครมว.พลังงาน) พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และเข้าร่วมประชุมติดตามการให้ความช่วยเหลือประชาชนในหมู่บ้านที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ 

โดยมี นายจำลอง รุ่งเรือง อดีต สส.แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย นายอำพร วายลม พลังงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายอภิชาติ ปัญญามูลวงษา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผาบ่อง และ นายอาวุธ ขยันดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยโป่ง เข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุมสำนักงานพลังงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน 

จากนั้นได้เดินทางไปตรวจติดตามโครงการติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ แบบเคลื่อนที่ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านห้วยเดื่อเกษตรผสมผสานยั่งยืน หมู่ 3 ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลผาบ่องจัดหาให้จากงบประมาณกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา

ดร.หิมาลัย เผยว่า หลังจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลัง เข้ามารับตำแหน่ง ต้องการขับเคลื่อนนโยบายให้เป็นไปอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด ตามที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้หาเสียงไว้ และตนในฐานะที่ปรึกษาและได้รับหนังสือร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ต้องการให้กระทรวงพลังงานเข้ามาดูแล ทั้งเรื่องการคมนาคมยากลำบาก พื้นที่ป่าไม้ในเขตอุทยาน ทำให้การใช้พลังงานเข้าไปไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้า ยังคงมีปัญหาประชาชนหลายหมู่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และพลังงานจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ประสานนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อบูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอยู่แล้ว

นายหิมาลัย กล่าวอีกว่า การเดินทางลงพื้นที่แม่ฮ่องสอนในครั้งนี้ เพื่อติดตามดูแลแก้ไขปัญหา และเร่งผลักดันให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งมีหลายเรื่องที่พลังงานจังหวัดได้ให้ข้อมูล ทั้งเรื่องหมู่บ้านชุมชนหลายหมู่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ บางหมู่บ้านมีเสา มีสาย แต่ไฟฟ้าเข้าไม่ได้ และการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์ 

เพราะพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นพื้นที่ป่าสงวน ป่าอุทยาน ป่าอนุรักษ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หากใช้การลากสายไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้าพื้นที่ ก็มีปัญหาติดเขตป่า เขตอุทยาน และพื้นที่ป่าต่าง ๆ เพราะต้องใช้พื้นที่ป่าจำนวนมาก ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีนโยบายที่จะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ในพื้นที่หมู่บ้านชุมชน โรงเรียน ชุมชนเกษตรกรรมโรงอบพืชผลทางการเกษตร แม้แต่ห้องเย็นที่วิสาหกิจชุมชนมีอยู่แล้ว รวมทั้งไฟฟ้าครัวเรือน จะช่วยลดต้นทุนให้ประชาชน การติดตั้งสะดวก ได้ประโยชน์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่จะใช้พลังงานชีวภาพจากมูลสัตว์ในการผลิตแก๊สหุงต้มในชุมชนอีกด้วย

"ปัญหาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน คือการเดินทาง ในแต่ละพื้นที่อยู่ห่างไกล ยากลำบาก หน้าฝนมีปัญหาในการเดินทางเข้าหมู่บ้านชุมชน แม้แต่การก่อสร้างสิ่งต่างๆ มีหลายพื้นที่ ที่ผู้รับเหมาดำเนินการก่อสร้างไว้ให้กับทางชุมชนแล้วเมื่อเกิดความเสียหายใช้ไม่ได้ก็ไม่ได้เข้าไปซ่อมแซมตามระยะเวลาก็เป็นปัญหา ซึ่งตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสิ่งใดที่เป็นประโยชน์กับชาวบ้านต้องรีบทำตามหน้าที่ ไม่ต้องกลัว ตรงไหนที่ผู้รับเหมาละทิ้งงานหรือไม่มาแก้ไขตามสัญญา ก็ต้องแจ้งให้เขาทราบและปรับเงินค้ำประกันตามสัญญา หรือดำเนินการทางกฎหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้ผู้รับเหมามาแก้ไขให้ชาวบ้านเร่งด่วนให้ได้ และโครงการต่างๆ หลังจากที่เราสร้างไปแล้ว ยังมีข้อกฎหมายอยู่อย่างหนึ่ง คือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่สามารถบำรุงรักษาได้ แต่ในเมื่อกฎหมายเป็นเช่นนี้จะให้ชาวบ้านมาตั้งกลุ่มเก็บเงินซ่อมบำรุงรักษากันเองก็จะทำให้การขาดสภาพบังคับ ซึ่งตนจะไปนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอีกครั้งเพื่อหาแนวทางที่จะให้ท้องถิ่นสามารถเก็บ ลดค่าบำรุงรักษาหลังจากส่งมอบโครงการไปแล้ว" ดร.หิมาลัย กล่าว

สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอน มี 7 อำเภอ 45 ตำบล 415 หมู่บ้าน มีไฟฟ้าใช้ จำนวน 323 หมู่บ้านจากระบบจำหน่ายไฟฟ้า กฟภ.312 หมู่บ้าน จากระบบไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แบบ MINI GRID จำนวน 11 หมู่บ้าน 3 หย่อมบ้านบริวาร และ ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ จำนวน 92 หมู่บ้าน ในจำนวน 92 หมู่บ้านนี้ ตามแผนกระทรวงพลังงานและนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีแผนการส่งเสริมการมีไฟฟ้าใช้จากพลังงานทดแทนในระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้ครบทุกหมู่บ้านที่เหลือ ตั้งแต่ปี 2566-2570 ตามแผนงบประมาณ 5 ปี จังหวัดแม่ฮ่องสอน

‘พีระพันธุ์’ เตรียมข้อมูลแก้กฎหมายพลังงานทั้งระบบ สร้างความเป็นธรรม-มั่นคง-ยั่งยืน ใช้ต่อได้แม้เกิน 4 ปี

(2 ต.ค. 66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์รูปภาพขณะนั่งทำงาน พร้อมข้อความกำกับว่า… “เตรียมข้อมูลแก้กฎหมายพลังงานทั้งระบบครับ”

ก่อนหน้านี้ นายพีระพันธุ์ ได้ประกาศข่าวดี โดยกระทรวงพลังงานสามารถตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท และลดราคาเบนซิน 91 ลง 2.50 บาท 

ส่วนไฟฟ้าปรับลดจากราคาหน่วยละ 4.45 บาท ให้เหลือ 4.10 บาท โดยจะดำเนินการเพิ่มเติมในส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไปอีก เพื่อหาทางปรับลดราคาค่าไฟฟ้าให้เหลือไม่เกินหน่วยละ 4 บาท

และสำหรับก๊าซหุงต้มตามแนวโน้มตลาดโลกจะขึ้นทุกปลายปี เพราะเป็นช่วงฤดูหนาวจะทำให้ราคาก๊าซหุงต้มในประเทศไทยสูงตามไปด้วย แต่สัญญาว่าจะตรึงราคาไว้ที่ 423 บาท สำหรับถังขนาด 15 กิโลกรัม ราคาเดิมต่อไป

นอกจากนี้ยังได้กำหนดแผนระยะสั้น-กลาง-ยาว เพื่อดูแลราคาพลังงานให้เป็นธรรม มั่นคง ยั่งยืนเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน โดยแผนการทำงานระยะสั้นจะเป็นนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะปรับลดราคาพลังงาน และเป็นสิ่งโชคดีที่ นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน มีแนวนโยบายนี้และเป็นแนวนโยบายของรัฐบาลด้วย ทำให้นโยบายระยะสั้นเป็นจริงได้คือ ‘การลดค่าไฟฟ้า ลดราคาน้ำมัน’

ส่วนระยะกลางคือ การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานของกระทรวงและทำให้โครงสร้างพลังงานมีความเป็นธรรม เหมาะสม และรองรับความมั่นคงของประเทศทุกด้าน สโคปของแผนก็คือ

1) จะรวบรวมกฎหมายเกี่ยวกับพลังงานทั้งหมดมาศึกษา หากรวมได้จะรวม ถ้าไม่จำเป็นก็ยกเลิก เพื่อลดจำนวนกฎหมายให้น้อยลง หรือหากเรื่องไหนไม่มีกฎหมายก็เขียนใหม่

2) กฎหมายพลังงานจะต้องตอบสนอง 3 เรื่อง คือ ต้องทำให้เกิดความมั่นคง เป็นธรรม และเกิดความยั่งยืน

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตอนนี้ผมได้ตั้งคณะกรรมการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมาย มี ท่านอธึก อัศวานันท์ ที่ปรึกษาเป็นประธาน เริ่มทำงานมา 2 นัดแล้ว และมีตัวแทนจาก สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ดูแลด้านกฎหมายมาทำ ให้รายงานทุก 30 วัน ส่วนระยะยาวต้องเตรียมการงานบริหารกระทรวง ทั้งกฎหมายที่ต้องออกมารองรับเพื่อให้นโยบายเป็นไปตามที่บอกทั้งหมด มั่นคง เป็นธรรม ยั่งยืน สามารถเดินต่อไปได้แม้ว่าจะเลยจากนี้ไป 4 ปีก็จะยังคงอยู่

‘พีระพันธุ์’ รับทราบข้อร้องเรียนกลุ่มผู้ใช้แก๊ส NGV  เล็งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาอย่างครบถ้วน-รวดเร็ว-เป็นระบบ

(2 พ.ย. 66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังกลุ่มรถผู้ประกอบการรถตู้ รถเมล์สาธารณะ ร่วม บขส. และรถบรรทุก มายื่นเรื่องร้องเรียนขอให้ลดราคาเอ็นจีวีว่า ได้รับรายงานจาก น.ส.อรพินทร์ เพชรทัต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแล้ว และเมื่อเร็ว ๆ นี้ สมาคมรถบรรทุกมาได้ขอให้ดูแลราคาเอ็นจีวีเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ขับแท็กซี่ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องการที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปิดปั๊มแก๊สลงจำนวนมากทำให้กระทบต่อการประกอบอาชีพเป็นอย่างยิ่งด้วย ดังนั้นจะตั้งคณะทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบปัญหาและแก้ไขปัญหาทั้งหมดพร้อมกันทันที คาดว่าปัญหานี้น่าจะผ่อนคลายลง โดยจะให้กระทรวงพลังงานแจ้งความคืบหน้าการทำงานเรื่องนี้ให้ผู้เดือดร้อนทราบเป็นระยะต่อไป

“ผมได้รับเรื่องร้องเรียนมาแล้ว แต่ละกลุ่มมีปัญหาความเดือดร้อนลักษณะใกล้เคียงกัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างครบถ้วน รวดเร็ว และเป็นระบบ ผมจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาทันทีเพื่อตรวจสอบปัญหาและแก้ไขไปพร้อมกันเลยทีเดียว ไม่ต้องรวมกลุ่มมาก็กำลังจะทำอยู่แล้ว เพราะรับทราบปัญหามาก่อน” นายพีระพันธุ์กล่าว

‘พีระพันธุ์’ ยัน!! เร่งปรับปรุงกฎหมาย-โครงสร้างราคาน้ำมัน ชี้!! ต้องคุมให้ราคาน้ำมันนิ่ง-ไม่หวั่นต่อปัจจัยนอกประเทศ

(3 พ.ย. 66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึง การใช้เงินกองทุนน้ำมันมาสนับสนุนภาษีสรรพสามิต แก๊สโซฮอล์ลง 2.50 บาทต่อลิตร ว่า ไม่มีผลกระทบ ถ้ามีผลกระทบคงทำไม่ได้ แต่ถ้าสถานการณ์โลกทำให้ราคาน้ำมันปรับขึ้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งตนเคยพูดไปแล้วว่ามาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นมาตรการระยะสั้น ตนคิดว่า ต้องศึกษาปรับโครงสร้างแบบใหม่ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาว่าเวลาราคาน้ำมันโลกลดลง หรือเกิดสถานการณ์ต่าง ๆ เราต้องเต้นตามกระแส เราควรหาทางทำให้ราคาพลังงานในประเทศนิ่งให้ได้ และทำให้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกลดลง ฉะนั้นการจะทำตรงนี้ได้ ต้องปรับปรุงกฎหมาย และรูปแบบการทำงาน หรือการกำหนดวิธีการดูแลระดับราคาพลังงานให้เป็นรูปแบบใหม่ ไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

รมว.พลังงงาน กล่าวถึงการสู้รบในประเทศอิสราเอลว่า ถ้ามีปัญหาแบบนี้ก็กระทบทั่วโลกอยู่แล้ว แต่คิดว่าทุกประเทศก็ต้องคิดเหมือนกันว่าเมื่อเจอปัญหาแบบนี้ จะดูแลและป้องกันคนของตัวเองอย่างไร ซึ่งประเทศไทยก็หนีไม่พ้น เราต้องมานั่งคิดว่าควรทำอย่างไร เมื่อเกิดเหตุต่าง ๆ เพื่อกำกับดูแลราคาพลังงานให้อยู่ในหลักที่ประชาชนไม่เดือดร้อน ไม่ใช่ปล่อยนิ่งให้อยู่แบบที่เป็นมา ไม่เช่นนั้นเราจะเจอผลกระทบอีกแบบหนึ่ง

“ขณะนี้ผมกำลังศึกษารูปแบบต่าง ๆ เพื่อจะเร่งดำเนินการปรับปรุงอยู่ ส่วนจะเป็นแนวทางใดยังพูดไม่ได้ ยังไม่สรุปว่า จะเป็นแบบไหน หากพูดไปก่อนอาจทำให้ข้อมูลสับสน เอาเป็นว่าตอนนี้กำลังหาวิธีการใหม่ในการรักษาระดับราคาพลังงาน ไม่ให้กระทบปัจจัยภายนอก” รมว.พลังงานกล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top