Monday, 29 April 2024
กรณ์_จาติกวณิช

นโยบายศก.ล้มเหลว ชนวนเหตุนายกฯ อังกฤษลาออก บทเรียนราคาแพง ที่ไทยต้อง 'เรียนรู้-เฝ้าระวัง'

3 วันก่อน ผมได้แสดงความเห็นว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษท่าจะอยู่ยาก เพราะหนีความรับผิดชอบความผิดพลาดในนโยบายเศรษฐกิจที่ประกาศออกไปไม่ได้ 

วันนี้นายกฯ อังกฤษได้ประกาศลาออกแล้ว! ไม่สามารถทนต่อกระแสความไม่พอใจทั้งในพรรค และในสังคมได้ หลังจากที่อยู่ในตำแหน่งเพียง 45 วัน 

มองในมุมหนึ่งคือ ความเละเทะต่อเนื่องในการเมือง และเศรษฐกิจอังกฤษ นับแต่การลงคะแนน Brexit เมื่อ 6 ปีก่อน

แต่มองอีกมุมหนึ่ง อังกฤษยังมีวัฒนธรรมการเมืองที่ยืดหยุ่น และพร้อมปรับตัวต่อกระแสความรู้สึกของประชาชน

ประเทศไทยเรา ก็เคยมีการตัดสินใจลักษณะนี้เช่นกัน ตอน นายกฯ ชวลิต ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อวิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งเป็นกรณีเดียวในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ถือได้ว่าการเสียสละโดยผู้มีอำนาจ คือการให้โอกาสบ้านเมือง

มีคนขอให้อธิบายสั้น ๆ ว่า...นโยบายอะไรที่ Liz Truss ประกาศออกมาที่ทำให้ต้องลาออกหลังเป็นนายกฯ เพียง 45 วัน?

'ชาติพัฒนากล้า' เตรียมเปิดนโยบายปลายปีนี้ ชู!! 'แก้ปัญหาปากท้อง-สร้างโอกาสศก.ระยะยาว'

'ชาติพัฒนากล้า' รวมทีมร่างนโยบาย สู้ศึกเลือกตั้ง 'กรณ์' ย้ำแนวทางแก้ปัญหาความเดือดร้อน - สร้างโอกาสระยะยาว เตรียมเปิดนโยบายภายในปลายปีนี้ มั่นใจทีมเศรษฐกิจ รวมตัวท็อปไม่แพ้พรรคอื่น

พรรคชาติพัฒนากล้า โดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค และคณะผู้บริหารพรรคพร้อมทีมนโยบาย ประชุมเตรียมความพร้อมนโยบายพรรคที่จะสื่อสารออกต่อสาธารณะ เตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น

นายกรณ์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการปรับทัพพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว เรามีความตั้งใจช่วยบ้านเมือง ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย สร้างโอกาส สร้างรายได้เพิ่มให้กับประเทศชาติและประชาชน จึงเอาแนวความคิดทางนโนบายของทั้งสองพรรคเดิม ที่เคยมีขับเคลื่อนนโยบายไว้ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจนของพรรคต่อไป โดยได้สรุปแนวทางคือ 1.) ประเด็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ไขโดยเร็ว เช่น ราคาน้ำมันแพง ค่าไฟแพง ปัญหาหนี้สิน และ 2.) การสร้างโอกาสระยะยาวให้กับประชาชน บนหลักการวิเคราะห์แนวโน้มโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ต้องผลักดันจุดแข็งของประเทศ เสริมสร้างให้ดีกว่าเดิม เพื่อเป็นโอกาสสร้างรายได้ โดยไม่เกินปลายปีนี้ เราจะเริ่มเปิดแนวความคิดของชาติพัฒนากล้า ให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้ 

"เรามีแนวความคิดดีๆ หลายเรื่อง ซึ่งต้องอาศัย ความกล้าเป็นตัวแทนของประชาชน ในการต่อสู้กับโครงสร้างหรือระบบที่เป็นตัวถ่วงโอกาสของประชาชน ต้องอาศัยพลังทางการเมือง ซึ่งเป็นสาเหตุที่เรามาจับมือกัน เพื่อมีพลังที่มากขึ้น ในการที่ปลดล็อกโครงสร้างที่ล้าหลังมานาน และปลดแอกประชาชน เพิ่มโอกาสในการหารายได้ในอนาคต" นายกรณ์ กล่าว

'กรณ์' ไม่ขัด!! ปลดล็อกต่างชาติซื้อที่ดิน-ที่อยู่อาศัย เชื่อ!! ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้!! ทดลอง 5 ปี ไม่ดีเลิก

'อดีตรมว.คลัง' เห็นด้วย ปลดล็อกต่างชาติซื้อที่ดินและที่อยู่อาศัยได้ ชี้!! กระตุ้นเศรษฐกิจ ทดลอง 5 ปี ไม่ดีเลิก แต่ต้องออกมาตรการภาษีอย่างรัดกุม ชี้แจงประชาชนให้คลายความกังวล  

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณี ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงมหาดไทย ปลดล็อกต่างชาติ ให้สามารถซื้อบ้าน-ถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ แลกการลงทุนในไทยขั้นต่ำ 40 ล้านบาท ว่า โดยรวมมองว่าเป็นนโยบายที่น่าสนใจ เพราะจะเป็นจุดดึงดูดทุนจากต่างประเทศเข้าในประเทศไทย และตัวคนต่างชาติเองก็จะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ดังนั้นมุมทางเศรษฐกิจ ในระยะสั้นก็จะมีเงินเข้ามาจากการซื้อที่ดิน ที่อยู่อาศัย และในระยะยาวกว่านั้นก็มาจากการจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งการใช้ทักษะ ความรู้ความสามารถของเขา มาสร้างงาน สร้างโอกาสในบ้านเราด้วย 

อย่างไรก็ตาม นายกรณ์ ระบุว่า เป็นธรรมดาที่หลายคนอาจจะกังวล ในแง่ของผลข้างเคียง ว่าต่างชาติจะมาแย่งซื้อที่ซื้อบ้านจากคนไทยหรือไม่ ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ ครม.ได้วางกรอบกติกา เพื่อที่จะจำกัดผลค้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น การที่ระบุว่า ต่างชาติที่สนใจจะเข้ามาซื้อที่ดิน หรือที่อยู่อาศัย ต้องมีเงินลงทุนผูกพัน ในประเทศไทย อย่างน้อย 3 ปี เป็นวงเงิน 40 ล้าน ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นว่า ตัวมูลค่าสินค้า บ้านและที่ดิน ในราคาค่อนข้างสูง จะเป็นคนละตลาดกับการซื้อขายบ้านทั่วไป 

นอกจากนี้ กฎหมายยังจำกัดพื้นที่ในการซื้อที่ดิน ที่อยู่อาศัยเฉพาะในเขตเทศบาลเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้แย่งซื้อกับชาวบ้าน เกษตรกร ที่อยู่นอกเขตเทศบาล และการที่รัฐบาลจำกัดเวลาการทบทวนใน 5 ปี ก็ชี้ให้เห็นหลักคิดในเชิงแซนด์บ๊อกซ์ คือ ทำทดลองดู เรื่องนี้พูดกันมานานมาก ถกเถียงกันมาไม่มีข้อสรุป รัฐบาลเลยให้ลองดู 5 ปี มีข้อเสียมากกว่าข้อดี ก็สามารถยกเลิกกฎหมายได้ตามความเหมาะสม ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า เป็นแนวทางที่ดี แต่ก็ต้องคอยดู จะเป็นอย่างไร 

'กรณ์' นำทีม ‘ชาติพัฒนากล้า’ หนุนนักศึกษา เสริมทักษะใหม่สู่โลกเศรษฐกิจอนาคต

(25 พ.ย. 65) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย นายวรนัยน์ วาณิชกะ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคฯ เดินสายพบปะคนรุ่นใหม่ ภายใต้โครงการ My Life My Goal โดยในช่วงเช้า ได้ไปเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยได้พูดถึงหลัก BANI ของ Jamais Cascio ซึ่งเป็นคลื่นลูกใหม่ ที่เกาะติดมากับ VUCA World ที่ทุกคนรับรู้ดีว่า เป็นโลกแห่งความผันผวน แต่ BANI ซับซ้อนยิ่งกว่า เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผันผวน ไม่แน่นอน มีความสลับซับซ้อน ไม่รู้จะไปในทิศทางไหน ด้วยความเร็วหรือความเร่ง ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจำเป็นต้องเรียนและเข้าใจทั้ง 4 บริบท ได้แก่  Brittle ความเปราะบาง Anxiety โลกที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล Non Linear โลกใหม่ที่มีความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ไม่เป็นเส้นตรง และ Incomprehensible คือ โลกใหม่ที่เข้าใจยากกว่าเดิม 

ด้านนายวรนัยน์ กล่าวถึง พลังของซอฟท์พาวเวอร์ ว่าเป็นกระบวนการของการเมืองระหว่างประเทศ ที่ต้องเริ่มจากการส่งออกวัฒนธรรมร่วมสมัย หากชาวโลกลุ่มหลง มันก็จะต่อยอดสู่ความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้า และส่งผลให้สถานะของประเทศและอำนาจในการต่อรองบนเวทีโลก เช่น ฮอลลีวู้ด J-Pop K-Pop คือเครื่องมือที่ช่วยให้อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ประสบความสำเร็จบนเวทีโลก ซอฟท์พาวเวอร์ของไทยไม่ใช่ข้าวเหนียวมะม่วง ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์และไม่ใช่บุคคล วันนี้เราต้องรู้ก่อนว่า ชีพจรของชาวโลกต้องการอะไร คำตอบคือ วัฒนธรรม LGBTQ+ ร่วมสมัยของไทย ซึ่งมีศักยภาพอยู่แล้วในการผลิตซีรีส์ วาย และวงดนตรี ที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ ซึ่งสามารถต่อยอดไปถึงแบรนด์เศรษฐกิจโดยเฉพาะอุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์และแฟชั่น ซึ่งสามารถนำไปสู่ 'Bangkok Pride Parade' เป็นเทศกาลระดับโลก ต่อยอดไปการท่องเที่ยว และสร้างสถานะของประเทศไทยบนเวทีโลกว่า นี่คือแบบอย่างของประเทศที่ทันสมัยและมีสิทธิเสรีภาพ

‘กรณ์’ นำทีม ‘ชาติพัฒนากล้า’ ล่องใต้ เปิดที่ทำการพรรค ‘ภูเก็ต - ชุมพร’ เตรียมเลือกตั้ง

‘กรณ์ จาติกวณิช’ นำทัพ ‘ชาติพัฒนากล้า’ ลงใต้ เปิดที่ทำการพรรคจังหวัดภูเก็ต - ชุมพร เตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

เปิดปีใหม่ ก็ลุยเปิดตัวแทนเขตเลย นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี รองเลขาธิการพรรค นำทัพลงใต้ เปิดตัวแทนเขตและที่ทำการ ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมี 2 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เทมส์ ไกรทัศน์ อรทัย เกิดทรัพย์ และ จังหวัดชุมพร มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร ลิขิต ศรีชาติ เข้าร่วมการประชุมจัดตั้งตัวแทนเขตในครั้งนี้ด้วย 

เมื่อวันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2566 นายกรณ์ พร้อมด้วยทีมงาน ได้ร่วมเปิดที่ทำการและจัดตั้งตัวแทนพรรคชาติพัฒนากล้า เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดภูเก็ต ณ โรงแรม ตูร์ เดอ ภูเก็ต โดยมี อรทัย เกิดทรัพย์, เทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดภูเก็ต มาร่วมกันจัดประชุมจัดตั้งตัวแทน พร้อมกับรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้าในพื้นที่ด้วย 

สำหรับโดยที่ทำการตั้งอยู่ ณ เลขที่ 237/10 หมู่ 3 ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 83110

'กรณ์' ไอเดียบรรเจิด ล้อใบปลิวเงินกู้นอกระบบ ประกบนโยบาย "ยกเลิกแบล็กลิสต์" สื่อถึงดอกเบี้ยมหาโหด สร้างความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก เตรียมแถลงข่าวพร้อมคนติดแบล็กลิสต์ จันทร์ 16 ม.ค.นี้ ที่ทำการพรรคชาติพฒนากล้า ถ.รัชดาภิเษก

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พรรคชาติพัฒนากล้า ปล่อยนโยบายเศรษฐกิจชุดแรกออกมา โดยการเสนอยกเลิกแบล็กลิสต์ และให้ปล่อยกู้ด้วยเครดิตสกอร์แทน ตามข่าวที่นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น ล่าสุด ได้ออกไอเดียใช้ใบปลิวเงินกู้นอกระบบ แจกจ่ายให้กับประชาชน เพื่อสื่อให้เห็นถึงดอกเบี้ยมหาโหด และแนวทางที่ประชาชนจะเข้าสู่ระบบเงินกู้ในระบบได้ รัฐบาลต้องยกเลิกระบบสินเชื่อโดยใช้เกณฑ์แบล็กลิสต์บูโร และใช้ระบบเครดิตสกอร์จากดาต้าแทน 

โดยด้านหน้าของใบปลิว จะเป็นข้อความที่เห็นจนชิน คือ เงินกู้ด่วน แต่เพิ่มเนื้อหา สำหรับคนติดแบล็กลิสต์ ส่วนด้านหลังเป็นรายละเอียดนโยบายว่า มีคนไทยติดแบล็กลิสต์กว่า 5.5 ล้านคน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิดมีคนติดเพิ่มขึ้นหลายล้าน บางคนติดเพราะส่งค่างวดช้าไปไม่กี่วัน บางคนใช้หนี้หมดแล้วแต่ก็ยังติดอยู่ ทำให้กู้ในระบบไม่ได้ เพื่อนำเงินมาหมุนหรือต่อยอดในการทำธุรกิจ สร้างความเดือดร้อนให้คนเป็นจำนวนมาก เพราะการกู้นอกระบบอย่างที่รู้กันว่าเจอดอกเบี้ยโหดแค่ไหน เงินที่จ่ายเป็นดอกเบี้ยทั้งนั้น ยากที่จะลดต้นได้ 

พรรคชาติพัฒนากล้า จึงเสนอนโยบาย ยกเลิกแบล็กลิสต์แล้วใช้ระบบ Credit Score แทน ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ข้อมูลในการชำระหนี้ประจำวันต่างๆ มาเป็นเกณฑ์ตัดสิน เช่น ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์มือถือ ใครมีประวัติดีก็ได้เครดิตดี สามารถกู้ได้มาก ใครเครดิตไม่ดีก็กู้ได้น้อย ซึ่งเป็นระบบที่ทันสมัยและตอบโจทย์มากกว่าการติดแบล็กลิสต์ ซึ่งใครที่ติดแล้วเหมือนตกเหว ยากที่จะขึ้นมาลืมตาอ้าปากได้ 

'ชาติพัฒนากล้า' เปิดนโยบายเศรษฐกิจชุดที่ 2 ลดภาษีบุคคล เงินเดือน 40,000 บาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี!!

(21 ม.ค.66) ปัง!! กันอีกครั้ง กับนโยบายเศรษฐกิจชุดที่ 2 ของพรรคชาติพัฒนากล้า โดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ดร. อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค และเหล่าว่าที่ผู้สมัครฯ ได้ร่วมกันแถลงนโยบาย 'ภาษีบุคคล-มนุษย์เงินเดือน' ต่อจากนโยบาย 'ยกเลิกแบล็กลิสต์ บูโร รื้อระบบสินเชื่อ' ที่ได้ออกมาก่อนหน้านี้ไม่นาน และเรียกคะแนนนิยม จากประชาชนไปได้ไม่น้อย

ทั้งนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช เผยถึง นโยบาย 'ภาษีบุคคล-มนุษย์เงินเดือน' ว่า เรื่องสำคัญที่สุด ถือเป็นปัญหาใหญ่ของประชาชน หนีไม่พ้นเรื่องปากท้อง รายได้ ความเป็นอยู่ หากประชาชนมีกินอิ่มท้อง เศรษฐกิจก็จะดี ส่วนปัญหาด้านอื่นๆ ก็จะสามารถแก้ไขได้ตามมา อย่างเข้มแข็ง

ส่วนใจความสำคัญของนโยบาย 'ภาษีบุคคล-มนุษย์เงินเดือน' คือ ลดภาษีบุคคล เงินเดือน 40,000 บาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี!! รายได้สูงกว่านั้น ลดเป็นขั้นบันได โดยปัจจุบันมีประชาชนที่เสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคล โดยรวมประมาณ 4 ล้านกว่าคน ซึ่งจะต้องแบกรับภาระภาษีเต็ม ๆ มาโดยตลอด และเมื่อเทียบกับบริษัทขนาดใหญ่ ที่ได้รับการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% ลงมาเป็น 20% ยาวนานมากว่า 10 ปีแล้ว แต่ประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่เคยได้รับการช่วยเหลือในลักษณะนี้ มานาน เนื่องจากค่าครองชีพ ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช ยังกล่าวอีกว่า ช่วงนี้รายได้ของภาครัฐ เริ่มฟื้นตัว จากการประมาณการรายได้ของรัฐบาล ในการจัดทำงบประมาณ ปี 2567 รายได้ภาษีของรัฐบาล จะเพิ่มขึ้น เกือบ 3 แสนล้านบาท (ประมาณ 2 แสน 7 ล้านบาท) ถือเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสม ที่จะแบ่งรายได้บางส่วนมาช่วยลดภาระให้กับมนุษย์เงินเดือน กว่า 4 ล้านคนข้างต้น 

'กรณ์' นำทีมพรรคชาติพัฒนากล้า บุก 'ฉะเชิงเทรา' ซูมแนวทางปั้นรายได้เข้าจังหวัดปีละ 3,000 ล้านบาท

(4 ก.พ.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค, นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือนายกอุ๊ ที่ปรึกษาพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนากล้า เดินทางไปยัง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อดูต้นแบบเศรษฐกิจสายมู ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคชาติพัฒนากล้า 

โดยนายกอุ๊ ได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวสายมู ของ จ.ฉะเชิงเทรา เชื่อมต่อจากวัดหลวงพ่อโสธร และวัดสมานรัตนาราม โดยได้จัดสร้างพระพิฆเนศ องค์ยืน และ ตลาดชุมชน ขึ้น ณ อุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อน  

นายกรณ์ กล่าวว่า ประเทศไทยเรามีแหล่งท่องเที่ยวเชิงศรัทธามากมาย หากมีการฟื้นฟูหรือสร้างสตอรี่เรื่องเล่า จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้มากมาย นโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า คือ 1 จังหวัด 1 พันล้านบาท โดยการสร้างแหล่งท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ จังหวัดไหนไม่มีสถานที่ที่ดึงความน่าสนใจได้เพียงพอ ก็สร้างขึ้นใหม่ได้ เช่น ที่ จ.ฉะเชิงเทรานี้ เป็นต้นแบบสำคัญ และสามารถขยายผลต่อไปทั่วประเทศได้ สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนปีละหลายพันล้านบาท 

‘กรณ์’ กรีดกลับ ‘ชวน’ ปมกล่าวหา ส.ส.ย้ายพรรคคบไม่ได้ แจงเหตุออกเพราะปชป.เปลี่ยนไป หาใช่ต้องการเงิน - ตำแหน่ง

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้ให้สัมภาษณ์ถึง ส.ส.ที่ย้ายพรรค ว่าเป็นพวกที่เอาเปรียบ - คบไม่ได้ โดยนายกรณ์ระบุข้อความว่า

เขียนตอบท่านชวน ด้วยความเคารพ

ผมออกมาจากประชาธิปัตย์ 3 ปี ผมไม่เคยพูดให้ร้ายพรรคเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผมออกเพราะอยากไปทำงานตามที่ตั้งใจ และสำหรับผมประชาธิปัตย์เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม

การลาออกของคนประชาธิปัตย์มีเหตุผลต่างกัน ผมพูดแทนเขาไม่ได้ แต่ในส่วนของผมนั้น ไม่ใช่ด้วยเหตุผลที่ท่านชวนกล่าวถึงในคลิป https://youtu.be/s0GpJaj7lUw ไม่ว่าจะเรื่องเงินหรือตำแหน่ง ยิ่งประชาธิปัตย์ยุคนี้แล้วเรื่องเงินยิ่งไม่เป็นปัญหา ส่วนตำแหน่งก็มีมากมายเพราะเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาล

ผมสัมภาษณ์หลายครั้งว่า ผมได้เคยทำงานให้บ้านเมืองในตำแหน่งรัฐมนตรีคลังมาแล้ว ซึ่งสำหรับผมถือเป็นการทำงานที่ตรงต่อความฝันทางการเมือง ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจผมได้ทำงานอย่างเต็มที่ภายใต้นายกรัฐมนตรี และรองนายกฯเศรษฐกิจ (คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคุณกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ดังนั้นความฝันทางการเมืองของผมวันนี้ไม่ใช่เรื่องตำแหน่ง แต่คือโอกาสสร้างพรรคที่ตรงกับอุดมการณ์ของผม และการส่งเสริมนักการเมืองรุ่นใหม่ให้มีโอกาสได้ทำงาน

ทำได้จริง!! ‘กรณ์’ โชว์ ‘กล้าปลดหนี้’ ใช้แค่ 1 ปี สร้างเถ้าแก่ใหม่ ย้ำชัด โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน ช่วยหนุน ศก.ปากท้อง

‘กรณ์ เผยผลสำเร็จ ‘กล้าปลดหนี้’ ใช้เวลาเพียง 1 ปี สร้างเถ้าแก่ใหม่ ชี้ โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน สำคัญต่อเศรษฐกิจปากท้อง

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า เมื่อพูดถึงโอกาสสำคัญที่สุดไม่หนีเรื่องเงินทุน ใครเข้าถึงแหล่งเงินก็ไปได้ ใครเข้าไม่ถึงก็ไม่มีโอกาสทำมาหากิน คนรวยได้เปรียบ เพราะกู้ได้ถูก (หรือไม่ต้องกู้เลย) ส่วนคนจนต้องกู้แพง และยิ่งใครต้องกู้นอกระบบยิ่งไปกันใหญ่

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้วพรรคเรา นำโดยนายนที ศิริธรรมวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัครสส.กทม.พญาไท ทำโครงการ ‘กล้าปลดหนี้’ เพื่อช่วยให้ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบกลับมากู้ในสถาบันการเงินได้ คนเวลาได้ยินคำว่ากู้ มักคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะจะเป็นการสร้างหนี้ แต่จริง ๆ แล้ว แทบทุกธุรกิจต่างต้องการเงินทุนเพื่อเริ่มต้นด้วยกันทั้งนั้น และในบางครั้งประสบปัญหา เช่น ในสถานการณ์ช่วงโควิด ที่ขาดรายได้ ทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก แต่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตธุรกิจจะกลับมาไม่ได้

“โครงการ ‘กล้าปลดหนี้’ ที่เราทำ เป็นการประสานชาวบ้านกับสถาบันการเงิน เพื่อให้สามารถกู้เงินมาหมุนธุรกิจให้ไปต่อ อย่างคุณเปิ้ลเจ้าของร้านหมูกะทะ แต่เชื่อหรือไม่ ไม่เคยกู้จากแบงก์ได้ จึงต้องพึ่งนายทุนนอกระบบ ดอกเบี้ยเดือนละ 20% แต่รอดได้ด้วยเงินกู้ที่เราช่วยประสานให้ เงินกู้ดอกเบี้ยปีละ 33% หรือเดือนละ 2% กว่าเท่านั้น ทำให้วันนี้ธุรกิจอยู่รอด ลูกค้าเริ่มกลับมาเต็มร้าน สามารถฟื้นตัวได้ ล่าสุดซื้อรถกระบะและกำลังจะขยายสาขาสองอีกด้วย” นายกรณ์ กล่าว 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top