Wednesday, 4 June 2025
ค้นหา พบ 48576 ที่เกี่ยวข้อง

‘ดร.หิมาลัย’ ย้ำชัด ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ยึดมั่นแนวทางการทำงานเพื่อผลประโยชน์ชาติและประชาชน ชี้ สส. จะย้ายพรรคต้องยึดหลักกฎกติกามารยาท

(2 มิถุนายน 2568) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้อำนวยการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ...จากภาพข่าว การร่วมรับประทานอาหารของ สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ จำนวนหนึ่ง นำโดยท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ในโควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติ และมีการแถลงข่าวตามสื่อต่างๆในโอกาสต่อมา ว่าเป็นการพูดคุยหาความชัดเจน ในแนวทาง ทางการเมืองของกลุ่ม สส. ดังกล่าว ซึ่งท่านสุชาติฯ พูดไว้ในหลายประเด็น ผมในฐานะผู้น้อยขออนุญาตกราบเรียนท่านในฐานะรองหัวหน้าพรรค และเป็นผู้ใหญ่ของพรรค ดังนี้ครับ 

1. แนวทางการทำงานและอุดมการณ์ของพรรค ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ยังมุ่งเน้นในเรื่องการทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะจากการทำงานดังกล่าวมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ การดูแลราคาน้ำมันให้มีเหตุผลมากขึ้น การปรับลดค่าไฟฟ้า ทำให้สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนในภาพรวมได้ประมาณ 275,000,000,000 บาท (สองแสนเจ็ดหมื่นห้าพันล้านบาท) การเดินหน้าปลดล็อกโซลาร์เซลล์และแสวงหาอุปกรณ์ราคาถูกสำหรับประชาชน การเดินหน้าร่างกฎหมายพลังงานเพื่อความมั่นคงในราคายุติธรรม การดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรมภายใต้การกำกับดูแลของท่าน เอกณัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ในเรื่องมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมตลอดจนการตรวจสอบมลพิษและสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ การลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนเมื่อมีภัยพิบัติและอยู่ดูแลจนพ้นวิกฤตตามคำสั่งรัฐบาล ของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ทุกอย่างย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่าการทำงานของพรรคตามแนวทางของท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ยังดำเนินการไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ไม่เปลี่ยนแปลง

2. กรรมการบริหารพรรค จำนวน 9 ท่าน เป็นคนที่ท่านรู้จักดี โดยเฉพาะในรูปที่รับประทานอาหารวันนั้น ก็มีกรรมการบริหารพรรคอยู่ด้วย 1 ท่าน กรรมการบริหารพรรคที่เหลือเป็น สส. 4 ท่าน เป็นพ่อ สส. 1 ท่าน เป็นลูก สส. 1 ท่าน รวมหัวหน้าพรรค อีก 1 ท่าน ดังนั้น 8 ท่านนี้ ท่านรู้จักแน่นอนครับ ท่านอาจจะลืมไปครับ เลยให้สัมภาษณ์ว่าไม่รู้จัก

3. ในจำนวน สส.หลายท่าน ผมได้รับข่าวยืนยันกลับมาว่าเป็นการไปร่วมรับประทานอาหารตามคำเชิญ แต่การตัดสินใจย้ายพรรคหรือไม่นั้น หลายท่านแจ้งว่ายังไม่ถึงเวลาตัดสินใจครับ ดังนั้นจำนวนคงไม่อาจนับได้ในเวลานี้ครับ

4. สส.ที่ไป มี 2 ประเภท คือ 
4.1 แบบเขตเลือกตั้ง ซึ่งแบบนี้คะแนนที่เลือกมีทั้งส่วนตัวและของพรรคร่วมกันอยู่ สส.ในแบบนี้จึงมีภาระผูกพันอยู่กับพรรค เพราะตอนเสนอตัวให้ประชาชนเลือก ท่านเสนอตัวในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่านจึงควรเคารพมติพรรคและอยู่ในกติกาของพรรคอย่างมีมารยาท หากเมื่อถึงเวลาแล้ว ย่อมเป็นสิทธิของท่านที่จะพิจารณาหาพรรคที่เหมาะสมกับจริตของท่านต่อไป

4.2 แบบบัญชีรายชื่อ แบบนี้คะแนนเสียงที่เลือก เป็นคะแนนของพรรค เพราะประชาชนเลือกที่พรรคไม่ใช่ตัวบุคคล และบัญชีรายชื่อที่พรรคเสนอ มีลำดับที่ชัดเจน สส.แบบนี้ หากเห็นว่า พรรคที่สังกัดไม่ตรงกับความต้องการของตัวเองแล้ว ควรจะลาออกจากสมาชิกพรรคในทันที เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีรายชื่อถัดไปได้มีโอกาสมาทำงานตามนโยบายพรรคต่อไป

5. การเข้าพบหัวหน้าพรรค ไม่ได้เป็นเรื่องยาก หากท่านเข้าประชุมพรรค ท่านจะพบว่าท่านสามารถเสนอความคิดเห็นได้อย่างอิสระ และหลังจากประชุมแล้ว ท่าน สส.ก็สามารถเข้าพบท่านหัวหน้าพรรคที่ห้องได้ตลอดเวลา รวมถึงงานเลี้ยงสังสรรค์หลังประชุม ถ้าท่านหัวหน้าไม่ติดภารกิจสำคัญก็จะไปร่วมงานเลี้ยงด้วยเสมอ ร่วมสนทนาพูดคุยอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง หากท่านมีภารกิจสำคัญที่ไม่สามารถไปร่วมได้ ก็จะมอบท่านเลขาฯให้ไปดูแลแทน

ผมขออนุญาตกราบเรียนข้อเท็จจริงมายังท่านสุชาติ ชมกลิ่น ด้วยความเคารพครับ หากท่านต้องการทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ผมในฐานะ ผู้อำนวยการพรรค ยินดีเข้าพบและนำเรียนครับ 

และในโอกาสนี้ขอกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชนให้มั่นใจในพรรครวมไทยสร้างชาติภายใต้การนำของท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ว่าประเทศชาติและประชาชนต้องมาก่อน กราบขอบพระคุณทุกท่านครับ

‘ยูเครน’ เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดต่อ ‘รัสเซีย’ ใช้โดรน 117 ลำ ซ่อนในห้องไม้ถล่ม 4 ฐานทัพ

(2 มิ.ย. 68) รัฐบาลยูเครนเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า ได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศระยะไกลครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มสงครามกับรัสเซีย โดยใช้โดรน 117 ลำ ลักลอบโจมตีเครื่องบินรบ 40 ลำใน 4 ฐานทัพของรัสเซียในปฏิบัติการชื่อ “ใยแมงมุม” ซึ่งประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ได้ทำลายเครื่องบินขีปนาวุธพิสัยไกลได้ถึง 34%

แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองยูเครน (SBU) ระบุว่าปฏิบัติการนี้วางแผนมานานกว่า 1 ปีครึ่ง โดยใช้โดรนซ่อนในห้องไม้เคลื่อนที่บนรถบรรทุก ก่อนจะเปิดหลังคาด้วยระบบควบคุมระยะไกลเพื่อปล่อยโดรนออกโจมตีเมื่อถึงเวลาเหมาะสม

รัสเซียยืนยันว่ามีการโจมตีใน 5 แคว้น พร้อมระบุว่าเป็น “การก่อการร้าย” แต่รัสเซียก็ได้ตอบโต้ด้วยการส่งโดรนและขีปนาวุธโจมตีหลายพื้นที่ของยูเครนในคืนวันเดียวกัน โดยยูเครนอ้างว่าสามารถสกัดเป้าหมายทางอากาศได้ถึง 385 รายการ

ปฏิบัติการของยูเครนมุ่งเป้าไปที่ฐานทัพในแคว้นอีร์คุตสค์, มูร์มันสค์, รียาซาน และอีวานอฟ ซึ่งตั้งอยู่ลึกในดินแดนรัสเซีย โดยมีเป้าหมายเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล Tu-95, Tu-22M3 และเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้า A-50 ซึ่งสร้างความเสียหายที่ SBU ประเมินว่ามีมูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.55 แสนล้านบาท)

ในขณะเดียวกัน ผู้แทนจากทั้งสองฝ่ายกำลังมุ่งหน้าไปยังอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพื่อเจรจาสันติภาพรอบใหม่ในวันจันทร์ แต่บรรยากาศคาดว่าจะไม่คืบหน้า เนื่องจากจุดยืนของทั้งสองฝ่ายยังคงห่างกันมาก รัสเซียยังครอบครองดินแดนยูเครนราว 20% รวมถึงไครเมียที่ถูกผนวกเมื่อปี 2014

จีนประณาม ‘มาครง’ กรณีเปรียบไต้หวันกับยูเครน ชี้เป็นคนละเรื่อง!!..ยันสองกรณีต่างกันโดยสิ้นเชิง

(2 มิ.ย. 68) จีนออกแถลงการณ์ประณามประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส หลังเจ้าตัวกล่าวในเวทีการประชุมความมั่นคง Shangri-La Dialogue ที่สิงคโปร์ว่า หากรัสเซียสามารถยึดครองดินแดนยูเครนได้โดยไร้ข้อจำกัด ก็อาจเกิดเหตุการณ์คล้ายกันในไต้หวันหรือฟิลิปปินส์ได้ในอนาคต

สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำสิงคโปร์ตอบโต้ทันทีผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่าการเปรียบเทียบกรณีไต้หวันกับยูเครนเป็นเรื่อง “ไม่อาจยอมรับได้” โดยชี้ว่าสถานการณ์ทั้งสองแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และกล่าวหามาครงว่ามี “มาตรฐานสองแบบ” ในมุมมองทางการเมือง

จีนย้ำว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ และจะเดินหน้าสู่การรวมชาติโดยสมบูรณ์ พร้อมเตือนให้เจ้าหน้าที่ไต้หวันหลีกเลี่ยงการประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ ขณะที่หลายประเทศตะวันตกยังคงขายอาวุธและมีความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการกับไต้หวัน ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อปักกิ่ง

ด้านรัสเซีย ระบุว่าพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนที่ลงประชามติขอเข้าร่วมรัสเซียนั้น เป็นดินแดนที่ควรได้รับการยอมรับโดยรัฐบาลเคียฟ และเรียกร้องให้ยูเครนถอนทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าว หากต้องการยุติความขัดแย้งในภูมิภาคนี้

‘ก.พลังงาน’ เพิ่มทางเลือกแหล่งก๊าซผลิตไฟฟ้า จ่อนำเข้า LNG ‘แหล่งอะแลสกา’ 2-5 ล้านตันต่อปี

พลังงาน แจง การซื้อ LNG ผลิตไฟฟ้าต้องถูก ข้อเสนอจากแหล่งอะแลสกา สหรัฐ อเมริกา เป็นการเพิ่มทางเลือก ลดความเสี่ยงในการพึ่งพา กระจายแหล่งซื้อขาย สร้างความมั่นคงในการจัดหาพลังงานให้กับประเทศ จ่อนำเข้าปริมาณ 2-5 ล้านตันต่อปี

(2 มิ.ย. 68) นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวง ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวกว่า ก๊าซธรรมชาติเหลวจากแหล่งอะแลสกาเป็นหนึ่งในทางเลือกที่มีศักยภาพในการเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของไทยในระยะยาว เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์การจัดหาก๊าซธรรมชาติของไทย พบว่า ไทยพึ่งพาก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้ากว่าร้อยละ 58 ของเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด โดยที่ก๊าซจากอ่าวไทยสามารถใช้ผลิตไฟฟ้าได้เพียงร้อยละ 60 ของความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศ รวมถึง ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยมีแนวโน้มที่จะลดลงในอนาคต ดังนั้น ไทยจึงมีความจำเป็นต้องนำเข้า LNG เพิ่มขึ้นในอนาคต 

แหล่งอะแลสกาถือเป็นแหล่งผลิตปิโตรเลียมที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ โดยมีศักยภาพของปริมาณก๊าซสำรองที่พิสูจน์แล้วในพื้นที่ North Slope กว่า 40 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ที่สามารถผลิตและส่งออก LNG ได้กว่า 20 ล้านตันต่อปี เริ่มตั้งแต่ปี 2571 ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาถึง 80 ปี มีมูลค่าการลงทุนทั้งโครงการกว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และสามารถส่งออกไปยังภูมิภาคเอเชียได้อย่างสะดวกและรวดเร็วผ่านทางมหาสมุทรแปซิฟิกในราคาที่แข่งขันได้ ภายในปี 2574 เนื่องจากเป็นแหล่งก๊าซที่มีขนาดใหญ่ ต้นทุนเนื้อก๊าซต่ำ และสหรัฐฯ มีการใช้เครื่องจักรในการผลิตและการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าจะสามารถขนส่ง LNG มายังไทยได้ภายใน 10-15 วัน ในขณะที่การขนส่งจากแหล่งในตะวันออกกลางใช้ระยะเวลาถึง 20 - 35 วัน ปัจจุบัน โครงการฯ มีความพร้อมที่จะตัดสินใจลงทุน/ดำเนินโครงการ (Final Investment Decision) 

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์มีความพร้อมที่จะประกาศความร่วมมือกับนานาประเทศในระยะเวลาอันใกล้ และมีหลายประเทศได้ให้ความสนใจ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ นอกจากนี้ โครงการผลิต LNG และท่อส่งก๊าซฯ ยังได้คำนึงในด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ มีการติดตั้งระบบการดักจับและกักเก็บคาร์บอนในกระบวนการสำรวจและผลิต จึงถือว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจ

“การจัดหา LNG ของไทยนั้น จะคำนึงถึงเรื่องราคาเป็นสำคัญ เนื่องจากจะส่งผลต่อค่าไฟฟ้า ยิ่งต้นทุนต่ำ ค่าไฟก็มีราคาถูกลง นอกจากประชาชนจะได้ใช้ไฟฟ้าในราคาที่เหมาะสมแล้ว ยังดึงดูดให้เกิดการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ ทั้งการใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยี AI, cloud service รวมถึงการขยายตัวของ Data Center โครงการ Alaska LNG จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากราคาถูกแล้ว การขนส่งก็ใช้ระยะเวลาสั้นกว่าการซื้อจากตะวันออกกลาง อีกทั้งเป็นการเพิ่มแหล่งการซื้อ ไม่พึ่งพาแหล่งใดแหล่งหนึ่งเป็นหลัก ปัจจุบัน กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการพิจารณาปริมาณของการนำเข้า LNG จากแหล่ง Alaska  อยู่ที่ 2-5 ล้านตันต่อปี โดยขึ้นอยู่กับราคาและเงื่อนไขต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการเจรจา โดยบริษัทผู้ที่ได้รับใบอนุญาตการเป็นผู้ประกอบการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (LNG Shipper) ของไทยอยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียดของโครงการและพิจารณาความเหมาะสมในเชิงธุรกิจสำหรับการผลักดันความร่วมมือในโครงการ Alaska LNG ร่วมกับฝ่ายสหรัฐฯ ต่อไป” นายวีรพัฒน์ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top