Tuesday, 10 June 2025
ค้นหา พบ 48681 ที่เกี่ยวข้อง

‘จิรายุ’ มั่นใจ!! ‘แพทองธาร’ ชี้แจงได้ ทุกประเด็น ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรียกร้องฝ่ายค้าน!! อภิปรายในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อแก้ปัญหาของประเทศ

(22 มี.ค. 68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะเริ่มขึ้นในวันจันทร์ที่ 24 มี.ค.นี้ว่า ตนในฐานะเป็นผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจมานับสิบครั้ง อยากให้การอภิปรายในวันจันทร์นี้โดยคนรุ่นใหม่ หรือรุ่นเก่าแต่ยังเก๋าของพรรคฝ่ายค้านอภิปรายด้วยเนื้อหาเชิงสร้างสรรค์เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาประเทศร่วมกัน

“วันนี้หมดยุคใช้วาทกรรมแบบในอดีตแล้ว ประชาชนเบื่อความขัดแย้งอยากเห็นประเทศเดินหน้าพัฒนาอย่างเจริญรุ่งเรือง อยากให้เศรษฐกิจดีขึ้นหลังจากจมปลักกันมาเป็นสิบๆ ปี ผมเห็นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรอบหลายทศวรรษมานี้ไม่เคยเห็นการลงมติไม่ไว้วางใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะยังไงเมื่อลงมติเสียงข้างมากในสภาก็จะยกมือให้ผ่านอยู่แล้ว”

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ฝ่ายบริหารพร้อมรับฟังและชี้แจง แต่อยากให้สมาชิกพรรคฝ่ายค้านอภิปรายในเชิงสร้างสรรค์ ไม่มีน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง และอยากให้อภิปรายเสนอแนะ เพื่อช่วยกันเป็นสปอตไลต์นำทางให้ประเทศไทยเจริญมากยิ่งขึ้น เพราะตั้งแต่ต้นปีมานี้ดัชนีการเติบโตในทุกมิติของประเทศดีขึ้นกว่าหลายปีที่ผ่านมา จึงไม่อยากให้การเมืองไปฉุดรั้งการเติบโตของประเทศ

“มั่นใจว่านายกรัฐมนตรี จะชี้แจงได้ทุกประเด็น เพราะท่านเป็นคนรุ่นใหม่ที่เก่งจริง เห็นได้จากหลักการสั่งการข้อราชการในแต่ละเรื่องที่หมักหมมในสังคมไทยมานานนับสิบปี ก็สามารถสั่งการแก้ไขอย่างทันท่วงที"

โฆษกรัฐบาล ยกตัวอย่างการลงพื้นที่ของนายกฯด้วยตนเอง หรือขึ้นปราศรัยในฐานะหัวหน้าพรรค หรือ ปาฐกถา หรือแสดงวิสัยทัศน์ในทุกเวที ในฐานะนายกรัฐมนตรี ทั้งระดับประเทศไทยและระดับโลกต่างได้รับความชื่นชมว่าเป็นผู้นำคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์มองเห็นโลกใน 2 มุมและมองเห็นมุมของความคิดของคน 2 วัยได้อย่างดี

นายจิรายุ คาดหวังว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะเป็นการอภิปรายรูปแบบใหม่ ที่สมฐานะฝ่ายค้านรุ่นใหม่จริงๆ ที่จะช่วยกันแนะนำและส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหาร จากมุมมองของฝ่ายค้านได้อีกด้วย ไม่อยากให้ผู้อภิปรายฝ่ายค้านบางคนไปใช้คำล่อแหลมส่อเสียดหยาบคาย หรือบูลลี่ด้อยค่ากันเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา

"สังคมไทยรับไม่ได้กับการสบประมาทหรือหลอกด่าบุพการีของกันและกัน เพราะผมก็เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้ใครพาดพิงหรือด่าบุพการีของคนอภิปรายจากฝ่ายค้านอย่างแน่นอน"

‘ศาลอาญาระหว่างประเทศ’ ตั้งขึ้นเพื่อ!! จัดการคนไม่ดี หรือ!! จัดการ ‘คนที่เป็นปรปักษ์กับชาติตะวันตก’ กันแน่

ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ International Criminal Court ที่เรารู้จักกันในชื่อย่อว่า ICC นั้น  มีเรื่องแปลกอย่างหนึ่งหากใครไปพิจารณาถึงรายชื่อผู้ที่เป็นอาชญากรในลิสต์ของ ICC จะเห็นบางสิ่งที่ตรงกันคือเกือบทั้งหมดนั้นคือ กลุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับชาติตะวันตกยกตัวอย่างเคสแรกก็คือ Joseph Kony

นายโจเซฟ โคนี คนนี้เป็นหัวหน้าของกลุ่ม Lord's Resistance Army เรียกสั้นๆ ว่า LRA เป็นกลุ่มกองโจรที่ทางตะวันตกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายในอูกานดา โคนีถูกกล่าวหาว่าจับเด็กผู้ชายมาเป็นทหาร จับเด็กผู้หญิงมาเป็นทาสบำเรอกาม จนถูกศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับ อีกทั้งในชาติตะวันตกมีการทำแคมเปญรณรงค์ในชื่อ Invisible children ในปี 2012 และมีการส่งทหารเข้าไปที่แอฟริกาเพื่อไล่ลาโคนี   แต่ที่แปลกคือ ในปี 2015 มือขวา ของโคนี ก็มามอบตัว ทำให้กองกำลังของโคนีระส่ำระสายมากๆ ซึ่งมือขวาผู้มอบตัวก็เผยว่า จริงๆ ในตอนนั้น ผู้ภักดีกับโคนีใน LRA ก็เหลือน้อยแล้วเช่นกัน ซึ่งสุดท้ายชะตากรรมของมือขวาของโคนีก็ถูกศาลโลกตัดสินคดีว่ามีความผิดไปหลายสิบกระทง (แปลกไหม….อยู่ดีๆ มาให้จับเพื่อเข้าคุก) สุดท้ายในปี 2017 ทั้งทางรัฐบาลอูกันดาและสหรัฐอเมริกาก็ประกาศร่วมกันว่าจะยกเลิกการไล่ล่า โจเซฟ โคนี เพราะตอนนั้นเขาประเมินว่ากองกำลังที่เคยยิ่งใหญ่ระดับกำลังพล 3,000 นาย หดเหลือแค่ประมาณ 100 คนเท่านั้น ซึ่งไม่ถือว่าเป็นภัยความมั่นคงต่อไปและปัจจุบันมีรายงานว่า โจเซฟ โคนี สุขภาพไม่สู้ดีและกบดานอยู่ที่เมืองนาโซกา สาธารณรัฐแอฟริกากลาง ประเด็นคือถึงเขาไม่เป็นภัยต่ออูกานดาแล้วทำไมเขาไม่เป็นภัยต่อสาธารณรัฐแอฟริกากลาง เขาจึงสามารถที่จะอยู่ได้โดยปลอดภัยแม้จะมีอายุมากแล้วก็ตาม  หรือความจริงแล้วคือในขณะนั้นอูกานดามีความสัมพันธ์อะไรบางอย่างกับสหรัฐฯแล้ว นายโจเซฟ โคนีก็คือกลุ่มต่อต้านรัฐบาลอูกานดาในขณะนั้น ดังนั้นจึงมีการจัดฉากให้นายโคนี คนนี้เป็นผู้ก่อการร้ายเสียเพื่อจะได้เอากองกำลังต่างชาติเข้ามาจัดการได้

ว่าแล้วเรื่องจับเด็กไปเป็นทหารก็มีเรื่องน่าแปลกนะคะ เพราะในเมียนมาเองก่อนที่จะมีข่าวการเกณฑ์ทหารของหนุ่มสาวชาวเมียนมาก็มีข่าวมาตลอดว่ากองกำลังชาติพันธุ์ออกมาจับเด็กชายเอาไปฝึกเป็นทหารของตน โดยภาพที่ออกมามีทั้งกองกำลังที่อยู่ติดชายแดนไทยและกองกำลังที่ติดชายแดนจีน แต่ที่น่าแปลกคือว่าทำไม ICC ไม่มาออกหมายจับผู้นำเหล่านี้บ้าง

หากดูในลิสต์ต่อๆ มาจะพบว่าทุกคนในหมายจับของ ICC คือกลุ่มคนที่เป็นปรปักษ์กับชาติตะวันตกหรือปรปักษ์กับพันธมิตรของตะวันตกทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของปูตินในรัสเซีย ที่โดนหมายจับตั้งแต่ที่ 2023-24 หรือกลุ่มกบฏลิเบียรวมถึงล่าสุดคืออดีตประธานาธิบดีโรดรีโก ดูแตร์เต ที่ถูกรวบตัวที่สนามบินในกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ ในข้อหาฆ่าผู้บริสุทธิ์จากการทำสงครามยาเสพติดจนทำให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจำนวนมาก น่าประหลาดนะคะที่ประเทศไทย คนที่ออกนโยบายทำสงครามยาเสพติดในประเทศไทย  ในปัจจุบันนี้ยังลอยหน้าลอยตาใช้ชีวิตสุขสบายไม่เห็นโดนคดีเหมือนดูแตร์เต้ เอย่าเลยไปขุดค้นหาข้อมูลและพบว่า การที่ดูแตร์เต้ถูกจับเพราะส่วนหนึ่งคือการดำเนินนโยบายที่เป็นกลางไม่เอียงข้างไปยังฝั่งอเมริกา  ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นสาเหตุที่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าคดีนี้เป็นการเช็คบิลของอเมริกาโดยใช้อำนาจของประธานาธิบดีมาร์กอสคนลูกที่ตอนนี้เป็นหมาน้อยของอเมริกาไปแล้ว

มาถึงฝั่งเมียนมาอีกครั้งถามว่าทำไม มิน อ่อง หล่าย ถึงไม่เป็นผู้โดนหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญาละ เรื่องนี้มีที่มาที่ไปง่ายมาก กล่าวคือ ในปี 2017 เมื่อเกิดวิกฤตการณ์โรฮิงญาครั้งใหญ่ ภายหลังกองกำลังติดอาวุธโรฮิงญา ในนาม ARSA (Arakan Rohingya Salvation Army) เข้าโจมตีฐานที่มั่นของตำรวจในรัฐอาระกัน จนเป็นเหตุให้มีตำรวจเสียชีวิต 12 นาย เป็นผลให้กองทัพเมียนมาเปิดฉากโจมตีเขตของชาวโรฮิงญาในรัฐอาระกันตอนเหนือ ตอบโต้กองกำลังก่อการร้ายดังกล่าว  และเช่นเดียวกับโจรใต้โมเดล เมื่อกองกำลังกองการร้ายสู้ไม่ได้ก็ใช้วิธีหนีเข้าไปแอบในชุมชน ดังจะเห็นได้ชัดภายหลังที่มีกลุ่ม PDF ซึ่งก็ใช้วิธีเดียวกันหากสู้กองทัพเมียนมาไม่ได้  แต่กองทัพเมียนมากลับเลือกที่จะเผาชุมชนนั้นเสียเพราะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้านในพื้นที่ และเช่นกัน ณ เวลานั้น นาง อองซาน ซูจีและพรรค NLD ที่ตอนนั้นเป็นแขนขาให้กับฝ่ายประเทศตะวันตกในเมียนมามีอำนาจ และนั่นทำให้หากจะต้องฟ้อง มิน อ่อง หล่ายในฐานะอาชญากรฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ก็จะต้องมีชื่อของประธานาธิบดีและนางซูจีติดเข้าไปด้วยอย่างแน่นอน ที่นี่น่าจะเป็นสาเหตุว่าทำไม มิน อ่อง หล่ายไม่โดนหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศนั่นเอง

มาถึงจุดนี้สรุปศาลนี้มีไว้เพื่อจัดการคนไม่ดี หรือ จัดการคนที่เป็นปรปักษ์กับชาติตะวันตกกันแน่….

‘พีระพันธุ์’ ผงาด!! ขึ้นเบอร์หนึ่ง ‘นักการเมือง’ ที่ประชาชนชื่นชอบ หลังทำงานหนัก ตรึงราคาค่าไฟ พลังงาน เดินหน้า รื้อ-ลด-ปลด-สร้าง

(22 มี.ค. 68) LINE TODAY ได้ทำการสำรวจคะแนนความนิยม ของบุคคลทางการเมือง ที่ประชาชนชื่นชอบ ประจำเดือนมีนาคม 2568 ผลปรากฏว่า ...

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ มีคะแนนนำคู่แข่ง ทิ้งห่างอย่างขาดลอย ขึ้นที่ 1 ด้วยคะแนน 1,913 คะแนน คิดเป็น 30.34% ทิ้งห่างที่ 2 นางสาวรักชนก ศรีนอก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาชน ซึ่งมีคะแนน 1,302 คะแนน คิดเป็น 20.65%

นอกจากนี้ ก็ยังมีนักการเมืองที่น่าสนใจ ท่านอื่น ๆ อาทิ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อยู่อันดับที่ 4 มีคะแนน 461 คะแนน คิดเป็น 7.31%

นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาชน อยู่อันดับที่ 5 มีคะแนน 317 คะแนน คิดเป็น 5.03%

‘พีระพันธุ์’ ผงาด!! ขึ้นเบอร์หนึ่ง 3 เดือนติด จากการโหวตใน Line Todayหลังทำงานหนัก!! ตรึงราคาค่าไฟ พลังงาน เดินหน้า ‘รื้อ-ลด-ปลด-สร้าง’

(23 มี.ค. 68) LINE TODAY ได้ทำการสำรวจคะแนนความนิยม ของบุคคลทางการเมือง ที่ประชาชนชื่นชอบ ประจำเดือนมีนาคม 2568 ผลปรากฏว่า ...

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ มีคะแนนนำคู่แข่ง ทิ้งห่างอย่างขาดลอย ขึ้นที่ 1 ด้วยคะแนน 1,913 คะแนน คิดเป็น 30.34% ทิ้งห่างที่ 2 นางสาวรักชนก ศรีนอก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาชน ซึ่งมีคะแนน 1,302 คะแนน คิดเป็น 20.65%

นอกจากนี้ ก็ยังมีนักการเมืองที่น่าสนใจ ท่านอื่นๆ อาทิ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อยู่อันดับที่ 4 มีคะแนน 461 คะแนน คิดเป็น 7.31%

นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาชน อยู่อันดับที่ 5 มีคะแนน 317 คะแนน คิดเป็น 5.03%

ซึ่งการเป็นนักการเมืองที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุดนั้น นายพีระพันธุ์ ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 1 มาถึง 3 เดือนติดกันแล้ว

โดยเดือนมกราคม นายพีระพันธุ์ ขึ้นอันดับที่ 1 ด้วยคะแนน 2,493 คะแนน หรือคิดเป็น 30.04%

และในเดือนกุมภาพันธุ์ ก็ได้ขึ้นมาอันดับที่ 1 อีกครั้ง ด้วยคะแนน 1,810 คะแนน หรือคิดเป็น 29.69%


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top