(16 ม.ค.68) รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวว่า TikTok วางแผนจะปิดการให้บริการแอปพลิเคชันในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีผู้ใช้ถึง 170 ล้านคนหลังจากคำสั่งห้ามของรัฐบาลโจ ไบเดน ที่จะมีผลบังคับใช้ โดยจะไม่มีการผ่อนผันในนาทีสุดท้ายภายในวันที่ 19 มกราคมนี้
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งใน 20 มกราคม หนึ่งวันหลังจากการบังคับใช้คำสั่งห้าม อาจพิจารณาออกคำสั่งบริหารเพื่อชะลอการบังคับใช้คำสั่งปิดแอปออกไปอีก 60 ถึง 90 วัน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าทรัมป์จะดำเนินการอย่างไร
กฎหมายที่ลงนามในเดือนเมษายนกำหนดให้ต้องห้ามดาวน์โหลด TikTok ใหม่จากแอปสโตร์ของ Apple หรือ Google หาก 'ไบต์แดนซ์' บริษัทแม่จากจีนไม่ยอมขายกิจการ แต่ผู้ที่ดาวน์โหลดแอปไปแล้วยังสามารถใช้งานได้ต่อไป ยกเว้นว่ากฎหมายจะห้ามไม่ให้บริษัทในสหรัฐฯ ให้บริการหรืออัปเดตแอปตั้งแต่วันที่ 19 มกราคมนี้เป็นต้นไป
ทีมงานของรัฐบาลชุดใหม่ของทรัมป์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่าจะไม่มีการแทรกแซงการห้ามในช่วงวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง เว้นแต่จะมีการขายกิจการ TikTok ที่น่าเชื่อถือ
ในกรณีที่ TikTok ถูกแบน ผู้ใช้ที่พยายามเปิดแอปจะเห็นข้อความแจ้งที่นำไปสู่เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแบน พร้อมทั้งเสนอทางเลือกในการดาวน์โหลดข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อบันทึกข้อมูลไว้ ก่อนที่แอปจะปิดตัวลง
หากคำสั่งห้ามยังคงมีผลในอนาคต TikTok อาจประสบปัญหาในการให้บริการในประเทศอื่นๆ เนื่องจากผู้ให้บริการหลายร้อยรายในสหรัฐฯ ช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถใช้งานได้ทั่วโลก
นอกจากนี้แอปฯ Xiaohongshu หรือที่รู้จักในชื่อ 'Red Note' ซึ่งเป็นแอปโซเชียลมีเดียจากจีน กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ หลังจากมีข่าวการประกาศการปิดตัวของ TikTok โดยแอปนี้มีฟังก์ชันที่คล้ายกับ Instagram และ Pinterest โดยได้รับความสนใจจากผู้ใช้ที่ย้ายจาก TikTok มาใช้แพลตฟอร์มนี้
ถึงแม้จะมีการวิจารณ์เรื่องการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล TikTok ก็ยังคงมีผู้ใช้จำนวนมากในสหรัฐฯ โดยบางคนไม่สนใจข้อกังวลเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลและยังคงใช้แอปอย่างต่อเนื่อง