Monday, 30 June 2025
ค้นหา พบ 49115 ที่เกี่ยวข้อง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติยกระดับมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว มุ่งสร้างความเชื่อมั่น พร้อมรองรับสถานการณ์ในทุกมิติ 

จากกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวจีนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้ไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ประเทศไทย เป็นทางผ่าน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม 

วันนี้ (12 ม.ค. 68) พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปทท.ตร.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในทุกมิติ เพื่อความเชื่อมั่นในการเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย โดยมุ่งหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยได้จัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปทท.ตร. (Tourist Safety Operations Center : TSOC) โดยมี พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. เป็น ผอ.ศปทท.ตร. ขับเคลื่อนให้ตำรวจทุกกองบัญชาการทั่วประเทศ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวได้อย่างเป็นระบบ 

ศปทท.ตร. พร้อมด้วยตำรวจท่องเที่ยว นำโดย พล.ต.ท.ศักดิ์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมบูรณาการการปฏิบัติกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ด้วยมาตรการที่รัดกุมในการดูแลรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร โดยมีการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น Thailand Tourist police เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลด ส่งข้อความ รูปภาพ และพิกัดสถานที่ เพื่อสอบถามข้อมูล แจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เชื่อมโยงกับศูนย์รับแจ้งเหตุ 1155 ซึ่งมีบริการเจ้าหน้าที่ล่ามแปลภาษา 8 ภาษา ตลอด 24 ชั่วโมง ประสานการทำงานกับศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ในการรับแจ้งเหตุและร่วมกันระงับเหตุ ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และสนับสนุนตำรวจท้องที่ในการแปลภาษาตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ได้ทันที ช่วยให้การประสานงานระหว่างนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมบูรณาการการปฏิบัติกับสถานทูตที่มีที่ตั้งอยู่ในประเทศ หารือแลกเปลี่ยนยกระดับดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และร่วมกันวางแผนแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่มีความสำคัญเร่งด่วน ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และประสานข้อมูลเหตุข่าวสารที่ถูกต้อง รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อแก้ไขปัญหา และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนของประเทศตนเองได้รับทราบข้อเท็จจริง 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมในการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายต่างทุ่มเทและตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ยกระดับความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ด้วยมาตรการที่มีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความปลอดภัย ฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมระดับสากล

เชียงใหม่-งานวันเด็กแห่งชาติ กองบิน 41 ประจำปี 2568 

วันเสาร์ที่ (11 ม.ค. 68) นาวาอากาศเอก ปรธร จีนะวัฒน์ ผู้บังคับการกองบิน 41 มอบหมายให้ นาวาอากาศเอก จตุรงค์ รักสุภาพ รองผู้บังคับการกองบิน 41 ประธานในพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ กองบิน 41 ประจำปี 2568 โดยมี เสนาธิการกองบิน 41, หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองบิน 41, ชมรมแม่บ้านทหารอากาศ กองบิน 41, หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานเอกชน รวมถึงวงดุริยางค์ จากโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ ร่วมพิธีในครั้งนี้ ณ บริเวณลานจอดอากาศยาน ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41
     

ทั้งนี้ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 กองบิน 41 ได้เห็นความสำคัญของเด็กเป็นอนาคตของชาติจึงจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ นอกจากเพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับเด็กแล้วยังเป็นการ เสริมสร้างจิตสำนึกในด้านความเสียสละ ความรัก ความสามัคคี ความมีระเบียบวินัย เพื่อเด็กจะได้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและพัฒนาชาติต่อไป

สำหรับกิจกรรมภายในงานต่างๆ  อาทิ การแสดงจากโรงเรียนขาลสุวรรณอนุสรณ์, การแสดงเครื่องบินบังคับวิทยุ RC, การแสดงมอเตอร์ไซค์จิ๋ว, การแสดงของท่าอากาศยานเชียงใหม่และวิทยุการบิน การแสดงภาคพื้น ได้แก่ การแสดงความสามารถของสุนัขทหาร และการแสดงยิงปืนฉับพลัน จากกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 41 การแสดงการยิงต่อสู้อากาศยาน รวมถึงการแสดงภาคอากาศ ได้แก่ การแสดงสมรรถนะของเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 11 (EC-725) การแสดงสมรรถนะของเครื่องบิน AT-6TH การแสดงสมรรถนะของเครื่องบินขับไล่แบบที่ 19/ก (F-16) การแสดงการโจมตีทางอากาศ และการบินค้นหาและช่วยผู้ประสบภัยทางอากาศ อีกทั้งได้จัดให้มีการสัมผัสยุทโธปกรณ์ทางทหารอย่างใกล้ชิด และพบกับนักบินตัวจริง เส้นทางสู่ฝันอาชีพนักบิน ถ่ายรูปกับเครื่องบิน และยุทโธปกรณ์

นอกจากนี้ยังมีบูธต่างๆ จากหน่วยงานภาครัฐที่เข้ามาจัดกิจกรรมให้เด็กๆ ได้ร่วมสนุก อีกทั้งยังมีการเล่นกิจกรรม เล่นเกมส์ ตอบคำถาม ร้องเพลง และแจกของรางวัล ณ เวทีกลางงานวันเด็กจากพี่ๆข้าราชการและวงโยธวาทิตที่4 กองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 41 ให้เด็กๆได้สนุกสนาน ได้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่ได้นำมาแสดงให้รับชม และที่สำคัญเพื่อสร้างความรู้ให้เด็กๆอีกด้วย

นภาพร/เชียงใหม่

สมุทรปราการ-คึกคัก!! พระครูแจ้ มอบความสุขรับวันเด็ก แจกเงินร่วม 1 ล้าน ให้เด็กกว่า 2,000 คน 

วัดบางพลีใหญ่กลาง หรือวัดพระนอน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี สมุทรปราการ จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 พร้อมทั้งแจกขนม นม สิ่งของต่างๆ และเงินให้กับเด็กๆ จำนวนกว่า 2,000 คน สร้างความคึกคักและรอยยิ้มให้แก่เด็กทุกคนที่มาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้

วันที่ (11 ม.ค. 68) ที่ผ่านมา เวลา 08.30 น. ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นประธานจัดกิจกรรมวัดเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 อย่างยิ่งใหญ่มีของรางวัลมากมาย อาทิเช่น จักรยาน ชุดนักเรียน รองเท้า สมุด ดินสอ ขนม นม และอุปกรณ์ยาสามัญประจำบ้าน รวมถึงสิ่งของต่างๆ อีกมากมายที่นำมาแจกจ่ายให้กับเด็กทุกคนที่เดินทางมาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ รวมถึงซุ้มอาหาร และไอศครีมจากผู้ใหญ่ใจดี

โดยในช่วงเช้าทางผู้ปกครองได้นำบุตรหลานเดินทางมาร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ที่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้นับว่ามีเด็กๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก กว่า 2,000 คน ที่ต่างเดินทางมานั่งรอของรางวัลจากท่านพระครูแจ้ โดยวันเด็กแห่งชาติปีนี้ท่านพระครูแจ้ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้แจกเงินให้เด็กแรกเกิด ไปจนถึง 1 ขวบ คนละ 500 บาท เด็กเล็ก คนละ 200 บาท และเด็กโต คนละ 100 บาท

โดยมี นายสมศักดิ์ แก้วเสนา ปลัดจังหวัดสมุทรปราการ คณะไวยาวัจกร คณะกรรมการวัดบางพลีใหญ่กลาง คณะเจ้าหน้าที่ อบต.บางพลีใหญ่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สภ.บางปู เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน

ศูนย์แพทย์ชุมชนวัดบางพลีใหญ่กลาง เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรปราการ คณะครู ผู้ปกครอง นอกจากนี้ ท่านพระครูแจ้ยังได้เมตตามอบเงินสนับสนุนให้แก่หน่วยงานราชการเพื่อนำเงินไปพัฒนาองค์กรของตนเอง นับว่าวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 นี้ สร้างสีสันและรอยยิ้มให้แก่เด็กๆ ทุกคนที่เดินทางเข้าร่วมกิจกรรม กว่า 2,000 คน
คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

“พิชัย” หารือทูตญี่ปุ่น ดึงนักลงทุนเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมอนาคต ยานยนต์-ดิจิทัล เร่งปิดดีล FTA ขยายตลาดส่งออก

(12 ม.ค. 68) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (นายโอตากะ มาซาโตะ) เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 ณ กระทรวงพาณิชย์ โดยตนรู้สึกดีใจที่นักลงทุนญี่ปุ่นจำนวนมากกลับเข้าสู่ไทย และญี่ปุ่นมีการลงทุนเป็นอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ลดการลงทุนในไทย ภายหลังการรัฐประหารปี 2557 ไปร่วมทศวรรษ การได้พบกับท่านทูตมาซาโตะ เป็นการช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน รวมถึงได้ฝากให้ช่วยดึงดูดนักลงทุนญี่ปุ่นให้ขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ญี่ปุ่นมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น อาทิ ยานยนต์ยุคใหม่ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ AI ดาต้าเซนเตอร์ ดิจิทัล แผงวงจรพิมพ์ (PCB) การแพทย์และเทคโนโลยีชีวภาพ และเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ทั้งได้สานต่อการเจรจาหลังตนได้เยือนญี่ปุ่นดึงนักลงทุนและหารือกับผู้นำระดับสูงของรัฐบาลญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมทั้งให้คำมั่นที่จะขยายตลาดการส่งออกผ่าน FTA ในกลุ่มประเทศที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออกต่อไป

นายพิชัย กล่าวว่า ไทยมุ่งหวังเป็นศูนย์กลางสำหรับการค้าและการลงทุน เป็นฐานการผลิตในห่วงโซ่อุปทานสมัยใหม่ และการผลิตสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในวันนี้ตนจึงได้เชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาขยายการลงทุนในไทยเพิ่มเติมในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งยานยนต์สันดาปและยานยนต์ยุคใหม่ รวมทั้งอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ญี่ปุ่นมีศักยภาพ อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ AI ดาต้าเซนเตอร์ ดิจิทัล แผงวงจรพิมพ์ (PCB) การแพทย์และเทคโนโลยีชีวภาพ และเทคโนโลยีหุ่นยนต์ โดยที่ผ่านมา ญี่ปุ่นยังเป็นนักลงทุนต่างชาติกลุ่มแรกที่เข้ามาลงทุนขนาดใหญ่ในไทยและมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานอุตสาหกรรมของไทย 

และวันนี้ตนยังได้มีโอกาสหารือกับ นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และนายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และคณะ เพื่อความร่วมมือในการขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐกับเอกชนให้ไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตยานยนต์ของอาเซียน โดยภาคเอกชนฝากการบ้านให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยขยายตลาดการส่งออกผ่าน FTA ในกลุ่มประเทศที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออก เช่น กลุ่มประเทศอาหรับ รวมทั้งการเจรจา FTA ไทย-อียู ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้เร่งเจรจา เพื่อปิดจบ FTA ฉบับต่างๆ อย่างต่อเนื่อง 

“เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่น ได้หารือกับ H.E. Mr. HAYASHI Yoshimasa เลขา ครม. ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงในรัฐบาลญี่ปุ่น และ Mr.Taro KONO สส .จังหวัดคานางาวะ อดีตรัฐมนตรีดิจิทัลของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นนักการเมืองที่มีบทบาทสำคัญในญี่ปุ่น ประเด็นความร่วมมือในอุตสาหกรรมใหม่ ที่ญี่ปุ่นกำลังสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของญี่ปุ่นในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยทุ่มงบประมาณมากกว่า 10 ล้านล้านเยน (2.2 ล้านล้านบาท) เพื่อให้ไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของญี่ปุ่น และได้มีโอกาสพบหารือกับภาคเอกชนรายใหญ่ของญี่ปุ่นหลายราย เช่น บริษัท NTT Corporation บริษัท TOYOTA TSUSHO บริษัท GS Yuasa International บริษัท Hitachi และบริษัท Mitsubishi Electric Corporation เพื่อเชิญชวนขยายการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น โดยตนพร้อมสนับสนุนการลงทุนของญี่ปุ่นและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนใหม่ในไทยอีกกว่า 2–3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ไทยอยู่ระหว่างการเจรจา FTA กับอีกหลายประเทศ ซึ่งจะทำให้เป็นประโยชน์ต่อบริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจในไทย” พิชัยกล่าว

นายพิชัย เสริมว่า ไทยและญี่ปุ่นมีความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยล่าสุด สับปะรดห้วยมุ่นของไทยได้รับขึ้นทะเบียนสินค้า GI ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสินค้ารายการที่ 3 ต่อจากกาแฟดอยช้างและกาแฟดอยตุง ภายใต้ความร่วมมือแลกเปลี่ยนการขึ้นทะเบียน GI 3 + 3 นอกจากนี้ ตนยังได้แสดงความพร้อมที่กระทรวงพาณิชย์จะมีส่วนร่วมในงาน EXPO 2025 Osaka Kansai ที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม 2568 โดยจะมีการจัดThailand Pavilion นำเสนอศักยภาพของไทยผสมผสานระหว่างการแพทย์สมัยใหม่และการแพทย์แผนไทย การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ รวมถึงสินค้าสมุนไพร เครื่องสำอาง และสปา ซึ่งเป็นการส่งเสริม soft power ไทยสู่สากล

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทย โดยในช่วง 11 เดือนของปี 2567 (มกราคม – พฤศจิกายน) มีมูลค่าการค้ารวม 48,093.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกของไทยไปยังญี่ปุ่นมูลค่า 21,545.26ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ของเครื่องจักรกล และเคมีภัณฑ์ และการนำเข้าของไทยจากญี่ปุ่นมูลค่า 26,547.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และแผงวงจรไฟฟ้า

กมธ.ทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ปัญหาไฟป่าหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่

(12 ม.ค. 68) ณ ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า กองพลทหารราบที่ 7 อำเภอเเม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลตรี ชายแดน  กฤษณสุวรรณ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปกป.ภาค 3 ให้การต้อนรับ พลเอก สวัสดิ์  ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมด้วย นายสมบูรณ์  หนูนวล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง นายฉลอง  ทองนะ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง ว่าที่พันตรี กรพด  รุ่งหิรัญวัฒน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม นายไชยยงค์  มณีรุ่งสกุล เลขานุการคณะกรรมาธิการ นางสาวนวลนิจ  หงษ์วิวัฒน์ รองเลขานุการคณะกรรมาธิการ นายนิฟาริด  ระเด่นอาหมัด ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ และนาวาตรี วุฒิพงศ์  พงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ โดยได้ร่วมประชุมเพื่อรับฟังสถานการณ์ปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ภาคเหนือ แผนงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหา รวมไปถึงเป้าหมายในปี 2568 เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ตลอดจนรับทราบปัญหาและอุปสรรคที่ต้องการให้คณะกรรมาธิการได้ผลักดันช่วยเหลือ พร้อมทั้งได้ให้แนวคิดและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top