Tuesday, 20 May 2025
ค้นหา พบ 48205 ที่เกี่ยวข้อง

เครือ รพ. พญาไท-เปาโล เปิดตัวเหรียญสุขภาพ Fit Coin สะสมแต้มสุขภาพ แห่งแรกในไทย

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา เครือโรงพยาบาลพญาไทและเปาโล เปิดตัวเหรียญสุขภาพดี fitcoin กดรับได้สุข ส่งต่อได้ใจ ส่งเสริมให้ผู้เข้ารับบริการใส่ใจดูแลสุขภาพ ต่อยอดเทรนด์สุขภาพที่เน้นการดูแลมากกว่ารักษา สอดรับกับความต้องการของผู้ใช้บริการมุ่งเน้นการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน จึงออกแบบเหรียญสุขภาพ Fit Coin บนแอปพลิเคชัน Health Up ผสานกับความชำนาญการด้านการแพทย์ ตอกย้ำภาพแบรนด์พญาไทและเปาโล ในความเป็น Health Companion เพื่อดูแลสุขภาพส่วนบุคคล แต้มสุขภาพดี นอกจากนี้เหรียญสุขภาพ  fitcoin ยังสามารถส่งต่อความสุข สุขภาพให้แก่ผู้ป่วยยากไร้ ในมูลนิธิ  One Love ได้อีกด้วย

ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณศุภกร พะวันนา ผู้อำนวยการสายบริหารการตลาดเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล  ร่วมด้วย รอ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์เชิงป้องกัน และหัวหน้าศูนย์ดูแลสุขภาพองค์รวม PWA รพ. พญาไท 3 / กรรมกรรมมูลนิธิหนึ่งน้ำใจ (One Love)  และ คุณลลินา ชูเอ็ทท์ (ลีน่า) ดารานักแสดงจากช่อง3 ร่วมพูดคุยถึงที่มาของการจัดการเปิดตัวเหรียญสุขภาพนี้ พร้อมทั้งแชร์เทคนิคการดูแลสุขภาพ ในเชิงป้องกันระยะยาว นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารเครือพญาไท-เปาโล และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานเปิดตัวเหรียญสุขภาพดีในครั้งนี้   และอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆในงานนี้ทุกท่านที่ร่วมงานยังได้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสุขาภาพส่งต่อเหรียญสุขภาพ fitcoin  เพื่อเป็นแต้มตั้งต้นในการบริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยในมูลนิธิ One Love ภายใต้เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโลอีกด้วย

สำหรับลูกค้าครอบครัวพญาไท3ที่สนใจ สะสมเหรียญสุขภาพ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ บูธ  fitcoin station  บริเวณชั้น 1 ภายในบูธมีน้องๆ fitcoin  adviser ให้ข้อมูลและวิธีการเข้าใช้งาน กดแลกรับและส่งต่อเหรียญสุขภาพ fiction พร้อมบริการดาวน์โหลด แอพพิเคชั่น Health up สำหรับผู้เปิดใช้งานครั้งแรกตั้งแต่วันนี้-31 สิงหาคม 2566 รับทันทีแต้มสุขภาพพิเศษ 100 coin สามารถสะสมเหรียญสุขภาพนี้ได้ที่โรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ทุกสาขาได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

EA จับมือ กรมการแพทย์ ลุยโปรเจค Green Hospital ต้นแบบ นำยานยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนขนส่งและบริการทางการแพทย์ ครบวงจร

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) จรดปากกาเซ็นเอ็มโอยูร่วมกับ “กรมการแพทย์” ลุยโปรเจคพัฒนาโรงพยาบาลตามแนวทาง Green and Clean Hospital ต้นแบบ พร้อมเดินหน้าผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาด ยกระดับด้วยระบบกักเก็บพลังงานที่มีประสิทธิภาพ พร้อมขับเคลื่อนการขนส่งและบริการทางการแพทย์ ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าและสถานนีชาร์จด้วยจุดบริการที่ครอบคลุม กว่า 500 สถานีชาร์จ เล็งขยายสถานีฯ ตอบโจทย์แผนยุทธศาสตร์ EV แห่งชาติ สร้างความยั่งยืน-เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของประเทศ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการพัฒนาโรงพยาบาลตามแนวทางการดำเนินงาน Green and Clean Hospital ต้นแบบ” โดยมี นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้แทนจาก บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ร่วมลงนาม

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข มีโรงพยาบาล/สถาบันในสังกัดให้บริการรักษาโรคที่ยุ่งยากซับซ้อนแก่ประชาชน และมีการมุ่งมั่นพัฒนาการบริการรักษา รวมถึงบริการด้านอื่นๆ จึงมีความประสงค์จะร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ศึกษา และพัฒนาระบบบริหารจัดการพลังงานสะอาดแบบบูรณาการที่เหมาะสมตามแนวทางการดำเนินงาน Green and Clean hospital ซึ่งเป็นการยกระดับให้หน่วยงานสาธารณสุขภายใต้กรมการแพทย์บริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาล ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 22 มีนาคม 2565 เห็นชอบแนวทางประหยัดพลังงานโดยให้หน่วยงานภาครัฐลดการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงลงร้อยละ 20 และเร่งผลักดันให้นำมาตรการด้านพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้หน่วยงานราชการเร่งดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (solar rooftop) ในลักษณะร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อลดภาระการใช้จ่ายและเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ภาคเอกชนและประชาชนต่อไป

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด ที่ให้ความร่วมมือในการที่จะคิดค้นและริเริ่ม ศึกษาพัฒนา สนับสนุน และแลกเปลี่ยนข้อมูลของโครงการฯ ทั้ง 3 ด้าน ดังนี้ ด้านที่ 1 ระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar) ด้านที่ 2 ระบบกักเก็บพลังงานเพื่อรองรับการใช้พลังงานไฟฟ้าของหน่วยงาน และด้านที่ 3 การพัฒนาดัดแปลงยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับการให้บริการทางการแพทย์ในพื้นที่ต่างๆ โดยใช้หลักการความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ รวมถึงเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ผู้มาใช้บริการในการรณรงค์และขยายผลสู่สังคมต่อไป

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่า บริษัทฯและบริษัทย่อยในกลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ วางกลยุทธ์ด้าน EA Eco System เป็นแนวทางหลักในการขยายธุรกิจ และสร้างความโตที่แข็งแกร่ง ด้วยการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานสะอาดครบวงจร พัฒนาแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงานจากนวัตกรรม Amita Technology เชื่อมโยงสู่การให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า EA Anywhere รวมถึงพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ MINE Mobility ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่หลากหลาย ตรงวัตถุประสงค์เป้าหมายของกลุ่มผู้ใช้งาน และมีระบบบริหารจัดการพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

เพื่อเป็นการยกระดับให้หน่วยงานสาธารณสุขภายใต้กรมการแพทย์บริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาล โดยใช้หลักการความยั่งยืนและเป็นมิตรกับส่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ รวมถึงเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ผู้มาใช้บริการในการรณรงค์และขยายผลสู่สังคมได้ต่อไป EA จึงได้ร่วมกับ กรมการแพทย์ ลงนามบันทึกข้อตกลง ในการร่วมกันศึกษาและพัฒนาระบบการบริหารจัดการพลังงานสะอาดแบบบูรณาการที่เหมาะสม ตามแนวทางการดำเนินงาน Green and Clean Hospital ด้วยโรดแมปดังนี้

1. Renewable Power การพัฒนาและติดตั้ง ระบบ Solar System มุ่งเน้นผลิตไฟฟ้า ด้วยพลังงานสะอาด
2. Energy Storage System เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานให้มีเสถียรภาพ ด้วยระบบกักเก็บพลังงาน เทคโนโลยีจาก Amita Technology
3. EV & Charging Station การยกระดับขนส่งและการให้บริการทางการแพทย์ ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบพิเศษสำหรับการบริการด้านสาธารณสุข พร้อมขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้า EA Anywhere ครบคลุมเส้นทางการให้บริการ “มั่นใจว่าการเซ็นเอ็มโอยูในครั้งนี้ระหว่าง EA กับกรมการแพทย์ จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ไปสู่เป้าหมาย Green and Clean Hospital ในอนาคต ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ถือเป็นการมุ่งสู่พลังงานสะอาด ตอบโจทย์ความยั่งยืนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” นายสมโภชน์กล่าว

DSI แถลงความคืบหน้า 1 เดือนหลังจากรับคดีหุ้น Stark เป็นคดีพิเศษ

ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคดีการทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 
เป็นคดีพิเศษที่ 57/2566 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 นั้น ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เร่งดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง ตามที่ได้มีการแจ้งความคืบหน้าผ่านทางสื่อมวลชน และช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ให้ประชาชนและสังคมทราบเป็นระยะแล้วนั้น

ล่าสุด พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาแล้วจำนวน 2 ราย คือ 
นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ และนางสาวยสบวร อำมฤต ส่วน นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ นั้น พนักงานสอบสวน คดีพิเศษได้ออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ผู้ต้องหาขอเลื่อนนัด อ้างเหตุป่วย โดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดงประกอบเหตุขอเลื่อนนัด

สำหรับนายชนินทร์ เย็นสุดใจ นั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ติดตามตัวมาเพื่อดำเนินคดี โดยกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ได้ดำเนินการประสานองค์การตำรวจสากล (Interpol) ผ่าน กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งข้อมูลบุคคลตามหมายจับรายนี้ ขอความร่วมมือออกประกาศองค์การตำรวจสากลสีน้ำเงิน (หมายน้ำเงิน) ในสารบบฐาน i24/7 เพื่อความร่วมมือสมาชิกตำรวจสากล จำนวน 149 ประเทศทั่วโลก ในการสืบสวนหาถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหา เพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการตามขั้นตอนขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนตามกฎหมายต่อไป และได้ขอความร่วมมือกรมการกงสุลให้พิจารณายกเลิกหนังสือเดินทางตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548

ในส่วนของการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีหนังสือถึงสำนักงานที่ดิน
ขออายัดอสังหาริมทรัพย์ทางทะเบียน ประกอบด้วยที่ดินจำนวน 2 แปลง และบ้านจำนวน 1 หลัง ไว้เพื่อตรวจสอบตามกฎหมายแล้ว

นอกจากนี้ ได้มีการสอบสวนพยานบุคคลซึ่งเป็นพนักงานในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด และบริษัท ไทยเคเบิ้ล อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด ไว้จำนวนหนึ่งแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินเพิ่มเติม 

ทั้งนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีข้อสั่งการเน้นย้ำให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษเร่งติดตามยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และเร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งการกองปราบปรามขยายผลดำเนินคดีเครือข่ายเว็บพนัน FUN88 พบเป็นเว็บที่แอมและสามีเล่นจนเป็นสาเหตุในการก่อคดี

จากกรณีเมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นางสรารัตน์ฯ หรือแอม ดำเนินคดีในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ และได้ขยายผลดำเนินคดีเพิ่มเติมได้อีกรวมจำนวน 15 คดี จากการวางแผนฆ่าและพยายามฆ่าผู้เสียหาย เพื่อเป็นการล้างหนี้หรือประสงค์ต่อทรัพย์สิน โดยหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แอมก่อเหตุ เกิดจากการติดหนี้การพนันออนไลน์เป็นจำนวนมาก ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ขยายผลกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองปราบปราม สืบสวนขยายผลและดำเนินคดีกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ที่นางสรารัตน์ฯ และ พ.ต.ท.วิฑูรย์ฯ ผู้เป็นสามีได้เข้าเล่นจนติดหนี้จำนวนมากดังกล่าว

จากการสืบสวนทราบว่า เว็บไซต์การพนันออนไลน์ดังกล่าวคือ FUN88 ซึ่งนางแอมและสามีได้นำเงินเข้าเล่นในเว็บพนันออนไลน์ดังกล่าวหมุนเวียนกว่า 93 ล้านบาท จึงได้สืบสวนขยายผลถึงเครือข่ายผู้ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ดังกล่าว และได้ขออนุมัติหมายจับดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องรวมมากถึง 21 คน สามารถติดตามจับกุมได้แล้ว 13 คน ถูกจำคุกในคดีอื่นจำนวน 2 คน และพบเสียชีวิตแล้ว 1 คน ยังเหลือหลบหนีอีกจำนวน 6 คน โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และร่วมกันฟอกเงิน

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้เปิดปฏิบัติการเข้าค้นเป้าหมายจำนวน 22 จุด ใน 11 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรี จันทบุรี เชียงใหม่ เชียงราย กาญจนบุรี สงขลา ตรัง และขอนแก่น ผลการปฏิบัติสามารถตรวจยึดของกลางได้รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ประกอบไปด้วยรถยนต์หรู เครื่องประดับและนาฬิกา บัญชีธนาคาร กระเป๋าแบรนด์เนม และบัญชีคริปโตเคอเรนซี่ เป็นต้น จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้สรุปสำนวนดำเนินคดีกับนางสรารัตน์ฯ หรือแอม ไปแล้วจำนวน 15 คดี ซึ่งเป็นคดีประวัติศาสตร์ของไทยอีกหนึ่งคดี ซึ่งหนึ่งในสาเหตุของการก่อเหตุดังกล่าวมาจากการติดหนี้การพนันออนไลน์ จึงได้สั่งการให้กองปราบปรามดำเนินการขยายผลดำเนินคดีกับเครือข่ายเว็บไซต์การพนันออนไลน์ดังกล่าว ซึ่งสามารถดำเนินคดีกับเครือข่ายได้จำนวนถึง 21 คน จากนั้นได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นจุดเป้าหมายมากถึง 22 จุด ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 13 คน และตรวจยึดทรัพย์สินได้รวมมูลค่ามากกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้จะตรวจยึดตามมาตรการกฎหมายฟอกเงินต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ ก็จะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ครบทุกราย 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ เปิดปฏิบัติการสั่งรวบหัวหน้าแกงค์ Outlaws พัทยา และ ดำเนินการทางกฏหมายกับสมาชิกที่มีความเกี่ยวข้องรายอื่นๆ

​จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.66 ที่ผ่านมา นายฮานส์ ปีเตอร์ มัค อายุ 62 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวเยอรมันได้หายตัวไป ก่อนจะพบถูกฆ่าหั่นศพ ในพื้นที่ สภ.หนองปรือ ภ.จว.ชลบุรี ซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญซึ่งประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในคดีดังกล่าวได้จำนวน 4 ราย หนึ่งในนั้นคือ นายโอลาฟ ชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่ม OUTLAWS พัทยาอีกด้วย ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น

กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สืบสวนขยายผลเกี่ยวกับกลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.2 และ ภ.จว.ชลบุรี สืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ให้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับกลุ่มดังกล่าว และหากพบมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ให้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีทันที เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มแก็งค์ดังกล่าว เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการขับรถจักรยานยนต์คันใหญ่ มีการรวมตัวกันจากบุคคลหลากหลายสัญชาติ และจะมีการเช่าสถานที่เพื่อใช้นัดรวมตัวกันทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีหลายจุดอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ก.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2, กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี, ตำรวจท่องเที่ยวชลบุรี, สภ.เมืองพัทยา, สภ.หนองปรือ, สภ.นาจอมเทียน และ นปส.พัทยา ได้ร่วมบูรณาการปิดล้อมตรวจค้นจุดต่างๆ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม OUTLAWS พัทยา ทั้งหมด 8 จุด ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือ นาย THOMAS GINNER สัญชาติออสเตรีย โดยมีข้อมูลว่าบุคคลดังกล่าวแสดงตนเป็นหัวหน้ากลุ่ม OUTLAWS พัทยา พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 55/57 Meadows ม.17 ต.หนองปรือ  อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นและตรวจยึดสิ่งของภายในบ้านหลังดังกล่าว เช่น รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HARLEY DAVIDSON และ อุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับ OUTLAWS ภายในบ้านหลังดังกล่าว เพื่อนำมาตรวจสอบ ซึ่ง นาย THOMAS GINNER เอง รับว่าเป็นหัวหน้าแกงค์ OUTLAWS พัทยา จริง แต่ได้ถอนตัวแล้วนับแต่เกิดเหตุฆาตกรรม ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้าน พบว่า นาย THOMAS GINNER เตรียเก็บของทำการย้ายหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้ตรวจสอบข้อมูลของ นาย  THOMAS GINNER ยังพบอีกว่า มีหมายจับคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ ของ สภ.เมืองพัทยา  จึงได้จับกุมตัว นาย THOMAS GINNER ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
​ในส่วนของเป้าหมายอื่นๆ ในการปฏิบัติการครั้งนี้ มีผลการปฏิบัติดังนี้

​1.ตรวจค้นบ้านเลขที่ 21/204 หมู่บ้านโชคชัยการ์เด้นโฮม 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของ  นาย DANNY ROHDE สัญชาติเยอรมัน โดยมีการตรวจยึด รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น Z900 ทะเบียน 1 กญ 6335 กาฬสินธุ์ จำนวน 1 คัน อีกทั้งมีการตรวจสอบหาสารเสพติดในร่างกายซึ่งเบื้องต้นพบสารเสพติดในร่างกายของ นาย DANNY ROHDE โดยจะได้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

​2. ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี และ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 ได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าว ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522  จำนวน 2 ราย ได้แก่ นาย DANIEL THOMAS  TOTH สัญชาติอเมริกัน และ นาย THEODOR MATIS สัญชาติสวิส เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร
​3.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ มาเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม จำนวนทั้งสิ้น  4 คัน ดังนี้

​- รถจักรยายนต์ยี่ห้อ harley davidson รุ่น V rod muscle  ทะเบียน 2ขง-9776 กรุงเทพมหานคร
​- รถจักรยายนต์ยี่ห้อ  harley davidson รุ่น Roadking ปี09 ทะเบียน บกจ.-111 กรุงเทพมหานคร
​- รถจักรยายนต์ยี่ห้อ harley davidson รุ่น V rod custom ทะเบียน จธฉ-469 ชลบุรี
​- รถจักรยายนต์ยี่ห้อ harley davidson รุ่น Panamerica ทะเบียน 4ขก-7728 กรุงเทพมหานคร

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากกรณีเคสฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน พบว่ามีการรวมกลุ่มกันของกลุ่มนอกกฎหมายซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหลายประเภท เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ เป็นต้น เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.2, สตม. และท่องเที่ยว ร่วมกันตรวจสอบกลุ่ม OUTLAWS และกลุ่มแก็งค์อื่นๆ ที่มีความสุ่มเสี่ยงที่จะกระทำผิดในราชอาณาจักร สำหรับกลุ่ม OUTLAWS เบื้องต้นได้มีการจับกุมหัวหน้าแก๊งค์ซึ่งมีหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชนของ สภ.เมืองพัทยา รวมทั้งสมาชิกที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเพิกถอนวีซ่าของสมาชิกที่พบว่ามีความสุ่มเสี่ยงที่จะกระทำผิด จากนี้จะได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจตราและสอดส่องกลุ่มเหล่านี้ หากพบการกระทำผิดอื่นใด จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชน หากพบการกระทำผิดของกลุ่มเหล่านี้ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือตำรวจท่องเที่ยว 1155 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top