Monday, 19 May 2025
ค้นหา พบ 48181 ที่เกี่ยวข้อง

‘บช.น.’ ซุ่มถกแผน เตรียมรักษาความปลอดภัย ‘วีไอพี’ คาด!! เอี่ยว ‘ทักษิณ’ หลังเอ่ยกลับไทยในเดือน ก.ค. 66

(12 ก.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้รับสำเนาเอกสารฉบับหนึ่ง ระบุว่าเป็นกำหนดการประชุมเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ในวันพุธที่ 12 ก.ค. 66 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมปารุสกวัน 1 อาคาร บช.น. (กองบัญชาการตำรวจนครบาล)

โดยในเอกสารดังกล่าวได้ระบุระเบียบวาระการประชุมที่ 2 เป็นการรับทราบสถานการณ์การข่าวและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์และภัยคุกคาม (บช.ส.1) (กองบัญชาการตำรวจสันติบาล) รวมไปถึงขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมาย กรณีมีผู้ต้องหาตามหมายจำคุกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยเครื่องบินโดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ

ในระเบียบวาระการประชุมที่ 3 เป็นเรื่องพิจารณา ประกอบด้วย 3.1 การพิจารณากำหนดเส้นทางการเดินทาง (บก.จร.) (กองบังคับการตำรวจจราจร) รวม 6 เส้นทาง ได้แก่ 3.1.1 เส้นทาง (หลัก และรอง) จากสนามบินสุวรรณภูมิ มายังศาลฎีกา (สนามหลวง), 3.1.2 เส้นทาง (หลัก และรอง) ในการเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มายังศาลฎีกา (สนามหลวง), 3.1.3 เส้นทาง (หลัก และรอง) ในการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ มายัง บช.ปส. (กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด) (สถานที่ควบคุมพิเศษ), 3.1.4 เส้นทาง (หลัก และรอง) ในการเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มายัง บช.ปส. (สถานที่ควบคุมพิเศษ), 3.1.5 เส้นทาง (หลัก และรอง) จาก บช.ปส. มายังศาลฎีกา (สนามหลวง) และ 3.1.6 เส้นทาง (หลัก และรอง) จากศาลฎีกา (สนามหลวง) มายังเรือนจำพิเศษ กทม.

ในหัวข้อ 3.2 เป็นการพิจารณาแนวทางการวางกำลังรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร (พื้นที่ที่เกี่ยวข้อง) แบ่งเป็น 3.2.1 เส้นทางการเดินทาง ตามข้อ 3.1.1-3.1.6 และ 3.2.2 การบริหารจัดการพื้นที่ และการวางกำลังรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร ในแต่ละสถานที่ (สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง, บช.ปส. และ ศาลฎีกา)

ส่วนหัวข้อ 3.3 เป็นการพิจารณาแนวทางการจัดรูปแบบขบวนรถในการรักษาความปลอดภัย (บก.จร. และ บก.สปพ. (กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191))

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามผู้เกี่ยวข้องในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ บช.น.พบว่า ไม่มีผู้ใดยอมรับ หรือปฏิเสธเกี่ยวกับการประชุมดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การประชุมเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญของ บช.น. ที่ระบุในระเบียบวาระที่ 2 ถึงขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมาย กรณีมีผู้ต้องหาตามหมายจำคุกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยเครื่องบินโดยสาร สอดคล้องกับคำประกาศของ 'นายทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า จะกลับประเทศไทยภายในเดือน ก.ค. 66

ส่องปฏิกิริยา 'พิธา' หลัง กกต.มีมติส่งศาล รธน.ปมไอทีวี ท่าทีเคร่งขรึม รับวันรัฐสภาเดินหน้าโหวตเลือกนายกฯ

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี รับเดินทางออกจากห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรทันที หลังทราบข่าวคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีถือหุ้นสื่อ (ไอทีวี) 42,000 หุ้น พร้อมให้ฝ่ายสำนักงาน ส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญทันที

พิธาเดินออกไปด้วยท่าทีเคร่งขรึม ผิดไปจากแต่ก่อน ซึ่งก็ควรจะเคร่งขรึม เพราะพรุ่งนี้รัฐสภานัดลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และเสนอชื่อพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี กำลังจะโหวตอยู่แล้ว แต่กลับมีเรื่องใหญ่มาดักหน้าพอดี

แต่ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า คุณสมบัติของพิธาในเวลานี้ยังครบถ้วนสมบูรณ์ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมา ขบวนการในวันนี้ จะเป็นแค่งานธุรการ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญก็จะรับเรื่องไว้ แต่โดยขั้นตอนยังไม่น่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ทันในวันนี้ คงต้องผ่านขั้นตอนปกติในคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ก่อนนำเข้าที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

โดยสรุปพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) ก็จะเป็นการประชุมตามปกติของรัฐสภา และเดินหน้าโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ส.ส.ได้เวลาอภิปราย 4 ชม. สว.ได้เวลา 2 ชม.ส่วนฝ่ายตอบยังไม่ได้จำกัดเวลา ขึ้นกับดุลยพินิจของประธานรัฐสภา

‘ติ๋ม ทีวีพูล’ เล่าชีวิตของ ‘ใบเตย’ ขณะอยู่ในคุก เผย!! “ทุกข์ที่สุดในโลก แต่มีแม่พิ้งกี้คอยปลอบเลยอุ่นใจ”

(12 ก.ค. 66) หลังจากเมื่อวันที่ 10 ก.ค. ศาลนัดตรวจพยานคดีแชร์ FOREX-3D ‘ใบเตย’ ตัดผมสั้น ซูบผอม และผิวคล้ำ ร่ำไห้เจอ ‘ดีเจแมน’ โดยสามีได้โอบกอดให้กำลังใจภรรยาระหว่างที่นั่งอยู่ภายในห้องพิจารณาคดี

ล่าสุดวันนี้ ‘ติ๋ม ทีวีพูล’ โพสต์คลิปเล่าชีวิต ‘ใบเตย อาร์สยาม’ ในเรือนจำว่า…

“เมื่อไหร่จะได้ประกันตัว เมื่อไหร่จะได้ออกไป ครั้งนี้เขาออกมาที่ศาล กลับไปก็ต้องถูกกักตัวอีก 10 วัน การกักตัวก็คือจะไม่ได้เจอกับ ‘อ้อย’ แม่ของพิ้งกี้ ถ้าเขาได้เจอแม่พิ้งกี้ เขาจะดีขึ้น เพราะเขารู้จักกับแม่พิ้งกี้นะคะ เขาก็จะอุ่นใจ มีผู้ใหญ่คอยปลอบประโลมเขา คอยกอดเขา คอยลูบศีรษะเขา แต่เวลาออกมาศาล มันเป็นระเบียบของเขาที่จะต้องถูกกักตัว 10 วัน เรื่องโควิด จนกว่าปลอดเชื้อถึงจะปล่อยให้ไปอยู่รวมกับคนอื่น ซึ่ง 10 วันนี้ จะเป็นวันที่เขาทุกข์ที่สุดในโลก เพราะเขาบอกเคยถูกออกมาอย่างนี้เวลากลับเขาไปทุกข์มาก เพราะมันเหมือนจะบ้าเลย ก็บอกเขาต้องสวดมนต์ นั่งสมาธิ มันจะไม่บ้า มันจะดีขึ้นเอง”

‘วิษณุ’ ชี้!! ทักษิณกลับไทย ‘ต้องเข้าคุกก่อนขออภัยโทษ’ ปัดตอบขัง ‘คุกพิเศษ’ อ้างกระทบสิทธิ-ความสงบเรียบร้อย

(12 ก.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีเอกสารหลุดของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ถึงแผนรักษาความปลอดภัย กรณีมีผู้ต้องหาตามหมายจำคุกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยเครื่องบินโดยสาร ว่า ก็เป็นธรรมดา เพราะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประกาศเองว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยช่วงวันคล้ายวันเกิดวันที่ 26 ก.ค.นี้ แต่ขณะนี้ใกล้ถึงวันเกิดก็ยังไม่ได้ข่าวคืบหน้า ซึ่งหากเดินทางกลับมาเมื่อไหร่ เขาก็คงติดต่อมาและจะได้ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอน ก็เป็นเรื่องธรรมดาซึ่งการเดินทางกลับมาก็เกี่ยวพันกับตำรวจ กรมราชทัณฑ์ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องเตรียมการในส่วนของเขา

เมื่อถามว่าจะมีการประชุมหรือหารือกันอย่างไรบ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า ขอไม่เปิดเผยในเรื่องนี้

เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าการข่าวมีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ท่านเป็นคนพูดเอง ถ้าท่านไม่พูดก็คงไม่มีอะไรต้องทำ ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่มีการขยับหรือเคลื่อนไหวอะไร ตนในฐานะรักษาการ รมว.ยุติธรรมก็ต้องได้รับรายงาน ซึ่งจากที่ตนได้สอบถามก็ยังไม่มีรายงานว่าจะกลับหรือไม่เมื่อไหร่ เพราะที่บอกว่าจะกลับท่านเป็นคนพูดเอง ว่าจะกลับก่อนวันเกิด แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ซึ่งก็ไม่ทราบอาจจะกลับก่อนหรือหลังก็ได้

เมื่อถามอีกว่าโดยหลักการแล้วหากนายทักษิณจะเดินทางกลับจะต้องมีการประสานตรงจุดไหนอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ขอไม่ตอบตรงนี้ เพราะมันไม่ดีกับตัวนายทักษิณและรัฐบาล ซึ่งหากนายทักษิณกลับมาก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการ และตัวนายทักษิณเองก็ทราบว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง 

เมื่อถามด้วยว่าจะต้องเข้าสู่กระบวนการก่อนถึงจากขอพระราชทานอภัยโทษได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ ซึ่งไม่มีการกำหนดว่าจะต้องจำคุกกี่วัน ถึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ ส่วนจะโปรดเกล้าฯ พระราชทานเมื่อใด นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง 

เมื่อถามย้ำว่าหากนายทักษิณเดินทางกลับประเทศไทยจะสามารถเข้าไปอยู่ในสถานที่คุมขังพิเศษหรือเฮาท์ อาเรซได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องขออภัยที่ตนอธิบายไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องสิทธิและเสรีภาพของเขา ซึ่งมันกระทบกับความสงบเรียบร้อยด้วย แต่ก็ไม่ผิดที่สื่อจะอยากรู้แต่ถ้าตนตอบตนก็ผิด

หยุดเข้าใจผิด เรื่องลุงตู่ไม่ยอมเปิดเผยทรัพย์สิน

📌หยุดเข้าใจผิด เรื่องลุงตู่ไม่ยอมเปิดเผยทรัพย์สิน 

#ลุงตู่ยื่นบัญชีทรัพย์สินมาแล้ว 2 ครั้ง และจะยื่นอีกหลังพ้นตำแหน่ง รวม 3 ครั้ง ยื่นเยอะกว่ากฎหมายกำหนด

#แล้วจะเห็นบัญชีทรัพย์สินเมื่อไร? มีคำตอบ

✅มาตรฐานทั่วไปในการยื่นบัญชีทรัพย์สินของนายกฯ กฎหมายกำหนดให้ยื่น 2 ครั้ง คือ
1️⃣เข้าดำรงตำแหน่ง
2️⃣พ้นจากตำแหน่ง 

แต่ ลุงตู่ #ยื่นมาแล้ว 2 ครั้ง และ #จะยื่นอีก 1 ครั้ง = ยื่น 3 ครั้ง (มาตรฐานสูงกว่า กม.กำหนด) 
1️⃣เข้าดำรงตำแหน่ง ปี 57 (ปปช. เผยแพร่แล้ว)
2️⃣ดำรงตำแหน่งเดิมต่อเนื่อง (ยื่นไว้เมื่อปี 62) ทั้งที่ กม.บอกไม่ต้องยื่น ซึ่ง
>>เลขา ปปช. ชี้แจงเมื่อ 14 พ.ย. 65 ว่า “นายกฯ ก็ยื่นมาทุกบัญชีอยู่แล้ว ซึ่งยื่นเกินมาด้วยซ้ำไป”
>>ปปช. จึงไม่เปิดเผย เพราะกฎหมายบอกไม่ต้องยื่น จึงไม่มีอำนาจให้เปิดเผย <<ลุงตู่ไม่ได้เป็นคนบอกห้ามเปิด
3️⃣ครั้งที่ 3 เมื่อพ้นจากตำแหน่งปี 66 นี้ อดใจรอนิด

ดังนั้นจึงเห็นว่า #โปร่งใสกว่ามาตรฐาน เพราะตัวกฎหมาย พรป.ปปช. 2561 มาตรา 105 วรรค 4 “ในกรณีตาม (1) ถ้าพ้นจากตําแหน่งและได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งเดิมหรือตําแหน่งใหม่ ‘ภายในหนึ่งเดือน’ ผู้นั้นไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตําแหน่งและกรณีเข้าดํารงตําแหน่งใหม่ แต่ต้องไม่ห้ามที่ผู้นั้นจะยื่นเพื่อเป็นหลักฐาน” ระบุชัด

#แล้วใคร จะตรวจสอบทรัพย์สินของนายกลุงตู่ได้บ้าง??
✅เมื่อพ้นตำแหน่งฯ ปปช. จะเปิดเผย ซึ่ง #ทุกคน…ดูได้ ตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นกติกาเดียวกับ ส.ส. และนักการเมืองทุกคน
✅ไม่ได้มีอภิสิทธิ์เหนือนักการเมืองอื่น มีการชี้แจงข้อเท็จจริงไปหลายครั้งแล้ว สามารถค้นหาได้
✅ไม่ได้ร่างกม.พิเศษขึ้นมาใหม่ เพื่อปกปิดบัญชีทรัพย์สินเพื่อไม่ให้ตรวจสอบได้ เพราะกฎมายที่เกี่ยวข้องร่างโดย ปปช. #ไม่ใช่คสช #ไม่ใช่นายกลุงตู่
✅เพราะ ปปช. ออก กม. เมื่อ ปี 2561 ยังไม่มีการเลือกตั้งปี 2562 เลย ซึ่ง ปปช. ไม่มีทางทราบได้ว่าใครจะเป็นนักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อ ปปช. จึงไม่ได้ออกกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้ใครเป็นพิเศษ
✅และการตรวจสอบทุจริตของ #นายกลุงตู่ ที่ผ่านมา #ไม่พบการทุจริตใด ๆ ทั้งสิ้น

❌การบิดเบือนข้อมูลให้ผู้อื่นหลงเชื่อ เป็นการกระทำที่ไม่เคารพผู้อื่น ผิดกฎหมาย อีกทั้งเป็นการเอาเปรียบจากความรู้ที่ไม่ทั่วถึงของผู้อื่น ซึ่งอาจจะมาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น พร้อมเชื่อข้อมูลผิด ๆ หรือ ไม่รู้วิธีการค้นหาความจริง หรือ ไม่มีเวลาตรวจสอบความจริง 

#แล้วเมื่อไหร่ จะดู/เปิดเผย บัญชีทรัพย์สินนายกลุงตู่ได้??
✅ซึ่งขณะนี้ #นายกลุงตู่ และครม. รักษาการจนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่และได้ถวายสัตย์ (ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ) 
✅เมื่อหลังจากพ้นตำแหน่งนายก หลังมีนายกฯ คนใหม่ ปปช. จะดำเนินการภายในแล้ว 90 วัน (ทำไม 90 วัน ให้อ่านข้อ กม. ด้านล่าง)
✅ซึ่ง ปปช. กระทำไม่ต่างจาก ส.ส. หรือ ตำแหน่งอื่น ๆ ที่ต้องเปิดเผยทรัพย์สิน #ลุงตู่ไม่มีอภิสิทธิ์เกินกฎหมาย

#ความรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
1️⃣หลังพ้นตำแหน่ง 90 วันจะได้เห็นทรัพย์สิน เพราะ >>> พรป.ปปช. 2561 มาตรา 105 วรรค 3 (1) กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ยื่นเมื่อเข้ารับตําแหน่ง และ พ้นจากตําแหน่ง และให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินภายใน 60 วัน นับแต่วันถัดจากวันพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน มาตรา 106 กำหนดให้เปิดเผยให้ประชาชนทราบ เป็นการทั่วไปโดยเร็ว แต่ต้องไม่เกิน 30 วันนับแต่วันที่ครบกําหนดต้องยื่นบัญชีดังกล่าว

2️⃣ หากใครสงสัยเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ขอให้อ่านเพิ่มเติมที่
https://www.nacc.go.th/files/article/attachments/272064381bb8738ec9f96a7df8b40acc615b16d.pdf


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top