Tuesday, 20 May 2025
ค้นหา พบ 48202 ที่เกี่ยวข้อง

นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่าวันนี้ว่าได้ตัดสินใจลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในการประชุมใหญ่พรรควันที่ 9 กรกฎาคมนี้

นายอลงกรณ์กล่าวย้ำว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องการก้าวใหม่ของตัวเองและโอกาสใหม่จากประชาชนด้วยการแสดงออกถึงภาวะผู้นำที่เข้มแข็งและกล้าหาญบนจุดยืนประชาธิปไตยที่ชัดเจนนำประเทศออกจากกับดักความขัดแย้งและวงจรอุบาทว์ด้วยหลักนิติรัฐและธรรมาภิบาลสู่เอกภาพและศักยภาพใหม่ของประเทศเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของทุกคน โลกเปลี่ยนเร็วและแข่งขันแรงทั้งการเมือง เศรษฐกิจและเทคโนโลยี ประเทศไทยต้องมีพรรคการเมืองที่ทันสมัยก้าวหน้าทันโลกทันเกมและก้าวใหม่ประชาธิปัตย์คือคำตอบ”

“ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยวิสัยทัศน์ความรู้และอุดมการณ์ที่มั่นคงกับพรรคประชาธิปัตย์ตลอด 30 ปีรวมทั้งประสบการณ์เป็นรองหัวหน้าพรรค4สมัยเป็น ส.ส.6สมัยและเป็นรัฐมนตรีมาแล้วจะสามารถนำพรรคสู่ก้าวใหม่ด้วยการปฏิรูปพรรคเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชนด้วยแนวทางเสรีนิยมก้าวหน้าภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หากได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกพรรคและส.ส.ของพรรคเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9” นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด

นายอลงกรณ์ พลบุตร เมื่อครั้งเป็น ส.ส. และรองหัวหน้าพรรคเคยเสนอให้ปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ในปี 2556 และเคยลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแข่งขันในระบบไพรมารี่ในปี 2561แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง.

ประวัติและผลงาน
นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัยและอดีต ส.ส. เพชรบุรีและ ส.ส. บัญชีรายชื่อ6สมัย 
.
>จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับประกาศนียบัตรชั้นสูงจากหลายประเทศเช่นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ปอร์ตุเกส ฯลฯ 
>เป็น ส.ส.สมัยแรกในปี 2535
>เป็นเลขานุการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและเลขานุการนายกรัฐมนตรี(ชวน หลีกภัย) ปี 2539-2544
>ได้รับฉายา”มิสเตอร์เอทานอล” ปี 2543-2544 ในฐานะประธานโครงการเอทานอลทำให้มีน้ำมันแก๊ซโซฮอลล์จำหน่ายทั่วประเทศ
>เป็น”ดาวเด่นแห่งปีของรัฐสภา”ปี 2546จากผลงานการปราบปรามคอรัปชั่น
>ได้รับรางวัล”คนดีสังคมไทย”และรางวัล”บุคคลดีเด่นประจำปี 2548-2549”
>เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และทำหน้าที่รมต.เศรษฐกิจอาเซียน ปี 2551-2554
>ได้รับการโหวตให้เป็นรัฐมนตรีที่มีผลงานดีเด่น2ปีซ้อน ปี 2552-2553
>เป็นรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ปี 2558-2560
>เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ที่ประชุมการตั้งถิ่นฐานมนุษย์ของสหประชาชาติ (UN-GFHS) ปี2660-2561
>เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรฯ.กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(2562-2566)
>เป็นผู้บรรยายพิเศษปริญญาเอก ปริญญาโทและปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง
>เป็นผู้บรรยายพิเศษหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงภาครัฐและเอกชนเช่น บยส. นธป.วตท. Tepcot สวปอ. นบส. วกส. วพน. วิทยาการตำรวจ สถาบันพระปกเกล้า  ฯลฯ
>มีผลงานเขียนหนังสือ 4 เล่มด้านต่างประเทศ วิทยาศาสตร์และการเมือง
 

แฟนกีฬาถล่มยับ หลัง ‘พิธา’ ร่วมเชียร์วอลเลย์บอลหญิงไทย ซัด!! ควรมีมารยาท-วางตัวให้เป็น อย่าเอาการเมืองมาปนกับกีฬา .

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 66 ในการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่พบกับทีมชาติตุรกี ในศึกวอลเลย์บอลหญิง เนชันส์ลีก 2023 คนไทยส่งแรงใจเชียร์นักตบสาวไทยอย่างเนืองแน่นเต็มสนาม และหนึ่งในนั้น คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย

แต่หลังจากที่ทางเพจเฟสบุ๊ก ‘Volleyballthailand’ ได้ลงภาพนายพิธา ขณะที่มาร่วมเชียร์วอลเลย์หญิงไทย ได้เกิดเป็นกระแสดรามาขึ้น เนื่องจากมีกลุ่มแฟนคลับกีฬาจำนวนมาก ได้เข้ามาคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ถึงการวางตัวที่ ‘ไม่เหมาะสม’ ของหัวหน้าพรรคก้าวไกล และขอให้อย่าเอาการเมืองมาปนกับกีฬา เพราะคนที่ไม่ชอบนักการเมืองก็มีไม่น้อย โดยคอมเมนต์บางส่วนระบุว่า…

“ฝากบอกพิธาเว้นกีฬาไว้อย่างเหอะ สงสารน้องๆ นักกีฬาวอลเลย์บอลจะโดนเกลียดไปด้วยทำอะไรคิดถึงคนอื่นบ้างค่า แฟนวอลเลย์บอลที่ไม่ชอบพิธาก็ไม่น้อยค่า”

“เรื่องมารยาท เรื่องจิตสำนึกที่ดี เป็นหนึ่งในเรื่องที่เงินซื้อไม่ได้ คนมีมารยาทและนิสัยดีจะรู้ว่า อะไรควรทำ ต้องรู้ว่าตัวเองอยู่ในบทบาท หรือสถานะอะไร ถ้าเป็นนักการเมือง ถ้าทั้งปีทั้งชาติ ไม่เคยไปเชียร์ แต่วันนี้โผล่ไป ถ้าคนมีมารยาท คิดเป็น และไม่ฉวยโอกาส จะบอกตัวเองว่า เราอย่าไปเลย… ไปในฐานะอะไร? มันดูหิวแสง ดูสร้างภาพ ดูปลอม ดูไม่ดี การเชียร์นักกีฬาไทย มันเป็นความสุขของคนไทย คนไทยมี 70 กว่าล้านคน คนไม่ชอบเราก็เยอะ อย่าทำให้คนไทยหมดสนุกเพราะเราเลย อย่าทำให้คนไทยต้องมาทะเลาะแตกแยกไปทุกวงการเลย เว้นสักเรื่องเถอะ”

“กีฬา โดยเฉพาะวอลเลย์หญิง เป็นสิ่งเดียวที่คนไทยไม่น้อยร่วมใจกันเชียร์ ต้องแตกแยกเพราะคนแบบนี้ ที่วางตัวไม่เป็น ไม้รู้อะไรควร ไม่ควร เห่ออออ”

“เลิกเชียร์เลิกติดตาม เชียร์มาตลอด เสียแรงจริงๆ”

“การเมืองเข้ามายุ่งกับกีฬาบรรลัยแน่นอน คอนเฟิร์ม”

“เสียใจ เป็น FC มาตั่งแต่รุ่น 7 เซียน ทำให้หมดใจกับวอลเลย์ขนาดแพ้ทุกนัดยังเชียร์”

“ปิดทีวีแทบไม่ทัน คุณพิธา/คุณปิยะบุตรมาเชียร์วอลเลย์บอลนี่นะ ขำตายล่ะ กระแสวอลเลย์บอลฟีเวอร์มากี่ชาติ ไม่เห็นได้ข่าวว่าไปเชียร์ มาตอนนี้เลยดูแปลก แต่ก็โอเค เป็นสิทธิ ของใครของเราไม่ว่ากัน”
 

อึ้ง!! กระเป๋าถือลาย 'หลุยส์ วิตตอง' เล็กกว่า 0.03 นิ้ว งานจากกลุ่มศิลปะ MSCHF มีราคาทะลุ 2.4 ล้านบาท

วันที่ (30 มิ.ย. 66) กระเป๋าถือใบจิ๋วลายหลุยส์ วิตตองขนาด 657 x 222 x 700 ไมครอน หรือเล็กกว่า 0.03 นิ้ว จำหน่ายในราคามากกว่า 63,000 ดอลลาร์หรือราว 2.44 ล้านบาท ในงานประมูลออนไลน์เมื่อวันพุธ (28 มิ.ย.) ที่ผ่านมา

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า กระเป๋าจิ๋วสีเขียวเหลืองเรืองแสงที่แทบไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่านี้ อิงแบบมาจากดีไซน์กระเป๋าหลุยส์ วิตตองที่เป็นที่นิยม แต่กระเป๋าชิ้นนี้เป็นผลงานของกลุ่มศิลปะนิวยอร์ก MSCHF ไม่ใช่ของแบรนด์หรูดังกล่าว

กลุ่มศิลปะ MSCHF ในบรูกลิน บอกว่า กระเป๋าจิ๋วนี้เล็กจนสามารถลอดรูเข็มได้ และเล็กกว่าเม็ดเกลือทะเล

กระเป๋าใบนี้ผลิตโดยใช้วิธีพอลิเมอร์เซชันแบบสองโฟตอน ซึ่งเป็นการเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกขนาดจิ๋ว ด้วยการพิมพ์ 3 มิติ และจำหน่ายพร้อมกับกล้องจุลทรรศน์และจอแสดงผลแบบดิจิทัล ที่สามารถส่องดูกระเป๋าได้

รูปภาพที่โปรโมตจำหน่ายกระเป๋า เผยให้เห็นดีไซน์อักษรย่อ LV ที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์หลุยส์ วิตตอง ส่วนรูปทรงกระเป๋าเหมือนจะอิงจากแบรนด์ฝรั่งเศส OnTheGo ซึ่งจำหน่ายไซส์ปกติอยู่ที่ 3,100-4,300 ดอลลาร์ หรือประมาณ 110,000-153,000 บาท

กระเป๋าดังกล่าวเปิดประมูลผ่าน ‘จูปีเตอร์’ ช่องทางประมูลออนไลน์ ที่ก่อตั้งโดยฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ นักร้อง, โปรดิวเซอร์, และดีไซน์เนอร์ชาวอเมริกัน

แม้ปัจจุบันวิลเลียมส์ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายสร้างสรรค์ให้กับชุดผู้ชายของแบรนด์หลุยส์ วิตตอง แต่เควิน วีสเนอร์ ประธานเจ้าหน้าฝ่ายสร้างสรรค์ของกลุ่มศิลปะ MSCHF ให้สัมภาษณ์กับนิวนยอร์กไทม์สว่า กระเป๋าสะสมดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้โลโกจากแบรนด์ฝรั่งเศส

ทั้งนี้ กลุ่มศิลปะ MSCHF ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2559 ได้สร้างเป็นประเด็นร้อน จากการทำโครงการศิลปะแหกกฎที่มักมีการเสียดสี ขณะที่โกยกำไรจากลูกค้ากลุ่มทุนนิยมไปด้วย

MSCHF เคยถูกฟ้องร้องจากไนกี้ เนื่องจากกลุ่มศิลปะนี้ผลิตรองเท้าซาตานด้วยการดัดแปลงรองเท้าไนกี้ 666 คู่ โดยใส่สัญลักษณ์ซาตานและเลือดมนุษย์ของจริงลงไปด้วย สุดท้ายก็มีการเกลี่ยไกล่กัน
 

มุกดาหาร-ผู้ว่าฯ มุกดาหารร่วมการประชุม Forum on China ความร่วมมือด้านการขนส่งข้ามพรมเเดนสำหรับเมืองด่านชายเเดนสำคัญระหว่างจีน-คาบมหาสมุทรอินโดจีน

วันที่ 28 มิถุนายน 2566  นายวรญาณ  บุญณราช  ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง โดยสำนักเลขาธิการงานแสดงสินค้าจีน - อาเซียน ได้เชิญ จังหวัดมุกดาหารร่วมการประชุม Forum on China - Mainland Southeast Asia Key Port City Cooperation in Cross-border Lagistics ระหว่างวันที่ 27 - 29 มิถุนายน 2566  ณ เมืองฉงจั่ว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี ประธานหอการค้า ,สภาอุตสาหรกรรม,และสมาคมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหารเข้าร่วมประชุม
ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้กล่าวคำปราศรัย เสนอข้อคิดริเริ่ม แถลงตัวเลข/ดัชนี สำคัญ และลงนามในโครงการ ฯ พร้อมทั้ง ชม งานแสดงสินค้านำเข้าและส่งออกระหว่างจีน-อาเซียนและยังได้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เข้าร่วมประชุมฯ
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นครั้งแรก มีหัวข้อหลัก ของการประชุม คือ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ระหว่างเมืองท่าที่มีประสิทธิภาพไร้อุปสรรค และช่วยอำนวยความสะดวก มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลและหารือแนวทางร่วมมือเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งทั้งด้านกายภาพและกฎระเบียบ ใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่

(1) ความเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน
(2) ด่านอิเล็กทรอนิกส์และการอำนวยความสะดวกด้านพิธีศุลกากร และ
(3) การบูรณาการระหว่างเมืองอุตสาหกรรมและการสร้าง
เมืองอัจฉริยะตามแนวชายแดน

ทั้งนี้ จังหวัดมุกดาหารจะได้รับประโยชน์ในการเชื่อมโยงระบบโสจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐานผ่านเส้นทาง R9 และ R12 ซึ่งเป็นช่องทางการขนส่งสินค้าทางบกที่สำคัญจากประเทศไทยไปสาธารณรัฐประชาชนจีน

เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน 092-5259-777
 

ผบ.ตร. ลงพื้นที่ค่ายพระรามหก จ.เพชรบุรี ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาบุคลิกภาพและคุณภาพชีวิตตำรวจ นำร่อง โดยมีตัวแทนจากตำรวจทั่วประเทศ เพื่อสร้างตำรวจยุคใหม่ ปรับเปลี่ยนทัศนคติ สร้างภาพลักษณ์องค์กร เน้นเสริมบุคลิกภาพ สร้างจิตสำนึกที่ดี มีหลักธรรมนำการทำงาน ภาพรว

วานนี้ (29 มิ.ย.66) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.), พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.) , คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ และคณะ ลงพื้นที่ จว.เพชรบุรี รับฟังและขับเคลื่อนโครงการพัฒนาบุคลิกภาพและคุณภาพชีวิตของข้าราชการตำรวจ โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ จำนวน 100 นาย ซึ่งเป็นผู้แทนจากทุกหน่วยในสังกัด ตร. กำหนดระยะเวลาอบรม 8 วัน (26 มิ.ย. - 3 ก.ค.66) 

ทั้งนี้ ก่อนฝึกอบรมจะมีการประเมินผู้เข้ารับการอบรม เพื่อประเมินผลการดำเนินการก่อนและหลังการอบรม จากนั้นจะเข้าสู่การอบรมโดยมีพระอาจารย์เอกชัย สิริญาโน เจ้าอาวาสวัดใหม่ศรีร่มเย็น จว.เชียงราย เทศนาธรรมให้กับข้าราชการตำรวจในหัวข้อที่สำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต จริยธรรม คุณธรรม มีหลักธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ เช่น การปรับทัศนคติการใช้ชีวิตอย่างมีคุณธรรม อุดมคติ 9 ข้อของตำรวจ และสอนการปฏิบัติธรรมเจริญภาวนาให้ผู้เข้ารับการอบรมด้วย นอกจากนี้ ยังมีผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ รศ.ดร.วุฒิพงศ์ ถายะพิงค์ นักวิชาการสุขภาพจิตการสื่อสารและศาสนาปรัชญา , นพ.พิเชษฐ พัวพันกิจเจริญ ผอ.รพ.พระจอมเกล้า, นายอธิษฐาน วงศ์ใหญ่ รอง ผอ.ฝ่ายบริหาร รพ.ลำปาง และคณะ ร่วมเป็นวิทยากรตามโครงการ ให้ความรู้ในหัวข้อ การดูแลสุขภาพร่างกายแบบมืออาชีพ คุณค่าความฉลาดทางอารมณ์ ความฉลาดทางสังคม การดูแลสุขภาพจิต การสร้างความสุขและความสำเร็จในชีวิต  อันจะเป็นการเสริมสร้างคุณลักษณะที่เหมาะสมในการทำงาน มีสุขภาพกายใจ บุคลิกภาพและสภาพจิตใจที่ดี มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ดูแลประชาชน  ครอบครัว ผู้ใต้บังคับบัญชา หรือผู้ร่วมงาน ในยุคสังคมออนไลน์ต่อไป

โครงการพัฒนาบุคลิกภาพและคุณภาพชีวิตของข้าราชการตำรวจ เป็นดำริของ ผบ.ตร.ที่ต้องการพัฒนาบุคลิกภาพและคุณภาพชีวิตของตำรวจ สร้างจริยธรรม คุณธรรม สร้างทัศนคติ และจิตสำนึกที่ดีให้แก่ข้าราชการตำรวจในยุคปัจจุบัน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร ตอบสนองต่อการดูแลพี่น้องประชาชน 
 
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า “ในยุคสังคมออนไลน์ปัจจุบัน ตำรวจจำเป็นต้องมีการเสริมสร้าง พัฒนาบุคลิกภาพ ปรับเปลี่ยนทัศนคติ สร้างจิตสำนึกภาพลักษณ์ที่ดี มีจิตการให้บริการ ช่วยเหลือประชาชน ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเกิดการฝึกอบรมโครงการนี้ขึ้น โดยผลการฝึกอบรม การประเมินเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ได้รับความร่วมมือและการตอบรับจากผู้เข้ารับการอบรมเป็นอย่างดียิ่ง เชื่อว่าผู้ที่ผ่านการอบรมจะมีการพัฒนาคุณภาพชีวิต บุคลิกภาพด้านต่างๆ ได้ดี จึงเห็นว่าควรจะต่อยอดการฝึกอบรมฯ กระจายไปยังศูนย์ฝึกอบรมฯ ของทุกกองบัญชาการต่าง ๆ ทั่วประเทศต่อไป เพื่อพัฒนาตำรวจท้้งประเทศให้มีความพร้อมในทุกๆมิติ ในการดูแลพี่น้องประชาชนในสังคมยุคปัจจุบัน” 

จากนั้นคณะ ผบ.ตร. ได้เดินทางไปตรวจพื้นที่การก่อสร้างร้านกาแฟ ปันรักษ์ (PunRak) และร้านค้าสวัสดิการตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมถนนเพชรเกษม หน้าค่ายนเรศวร (บริเวณเครื่องบินจำลองขนาดใหญ่) ใกล้สนามยิงปืนฯ โดยมีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ เพื่อเป็นจุดพักผ่อน เช็คอิน ถ่ายรูป สำหรับประชาชนและข้าราชการตำรวจในการเดินทาง คาดว่าจะเปิดทำการได้ในห้วงเดือนสิงหาคม 2566 นี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top