Thursday, 22 May 2025
ค้นหา พบ 48264 ที่เกี่ยวข้อง

‘รพ.เมดพาร์ค’ แจง กรณีงานมอบรางวัล The People Awards 2023 เผย ทาง รพ.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หลังพบโลโก้ของ รพ.ปรากฎในงาน

(7 เม.ย. 66)  จากกรณีการมอบรางวัล The People Awards 2023 เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีชื่อ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ‘ตะวัน’ และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ ‘แบม’ ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 รวมอยู่ด้วย และภายในงานได้มีภาพโลโก้ของโรงพยาบาลเมดพาร์ดปรากฎอยู่นั่น ล่าสุดทางเฟซบุ๊กแฟนเพจของโรงพยาบาลเมดพาร์ค ได้ออกหนังสือชี้แจง โดยมีเนื้อหาระบุว่า…

“MedPark ชี้แจงเกี่ยวกับงานมอบรางวัล The People Awards 2023

ตามที่ปรากฎโลโก้ของโรงพยาบาลเมดพาร์ดในงานมอบรางวัล The People Awards 2023 ซึ่งจัดโดย The People สื่อออนไลน์ในเครือของเนชั่น นั้น รพ.เมดพาร์ค ขอชี้แจงว่าที่ผ่านมา โรงพยาบาลฯ ได้ให้การสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ที่แจ้งถึงวัตถุประสงค์ที่ดี โดยมีเจตนารมณ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ

ทั้งนี้ รพ.เมดพาร์ค ขอชี้แจงว่า โรงพยาบาลฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการการตัดสินรางวัล The People Awards 2023 หรือบุคคลผู้ที่ได้รับรางวัลแต่อย่างใดรวมทั้งไม่ได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ได้รับรางวัลมาก่อน

โรงพยาบาลเมดพาร์ค เป็นองค์กรที่ประกอบกิจการ ให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยและป้องกันโรค ตามมาตรฐานสากล ภายใต้หลักธรรมาภิบาลในกรอบของกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เรายึดมั่นในชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ฝักใฝ่หรือเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น”

ในขณะเดียวกัน ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘Seiko Club by Seiko Thailand’ ก็ได้มีการออกมาโพสต์หนังสือชี้แจง ถึงกรณีงานมอบรางวัล The People Awards 2023 ว่า ทางบริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินผู้ได้รับรางวัลทั้ง 10 ท่าน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับความขัดแย้งทางการเมือง และไม่ทราบรายละเอียดของผู้ที่จะเข้ารับรางวัลจากการตัดสินของคณะกรรมการล่วงหน้า

ทางบริษัทฯ จึงขอแจงรายละเอียดเพื่อป้องกันความเข้าใจอันคลาดเคลื่อน และเน้นย้ำ ถึงการเล็งเห็นความสำคัญของสังคม เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม โดยทางบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่ ดำเนินงานอันเป็นประโยชน์แก่สังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป

ทว่าในเวลาต่อมา ทาง 'Seiko Club by Seiko Thailand’ ก็ได้ลบแถลงการณ์ดังกล่าวไปจากหน้าเพจ


ที่มา: https://www.facebook.com/medpark.thailand/posts/pfbid02HtrS4gX2a5wRSzpRX4pc92BmhLXGzd692B7rpuHzkmaHxitZptY7zDjD6QUUXeSBl

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

ตามโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นการรวมความสมัครสมานสามัคคีของคนไทยทุกคนในการทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ เพื่อพัฒนาพื้นที่ในชุมชนต่างๆ ให้มีความเจริญเพื่อเกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่างถาวร โดยมีศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานเป็นผู้ควบคุม กำกับ ดูแล อำนวยการ และประสานการปฏิบัติ เพื่อให้การจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริเป็นไปอย่างถูกต้องตามพระราโชบาย ภายใต้การอำนวยการสั่งการ ของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. 
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์  สุขวิมล รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์  หลักบุญ 
ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับผิดชอบงานจิตอาสา ได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

ภายใต้กิจกรรม การให้บริการประชาชนที่สัญจรไปมาของนักเรียน นักศึกษา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๖๖ 
และเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๗ ตามโครงการ อาชีวะอาสาทำความดีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.๒๕๖๖ และเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๗ เพื่อเป็นการแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมและขับเคลื่อนกิจกรรมจิตอาสาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนนให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลดังกล่าว โดยการนำ นักเรียน นักศึกษา กลุ่มอาชีวะศึกษาที่สมัครใจ มีจิตอาสา และมีความรู้ความสามารถด้านการช่างมาปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสภาพรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้มีความพร้อมในการเดินทางอย่างปลอดภัยบนท้องถนนให้กับประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.๒๕๖๖ ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๗ เมษายน ๒๕๖๖ ในทุกจังหวัด จำนวน ๗๘ จุด รวมทั้งเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๗  ซึ่งนอกจากประชาชนจะได้รับประโยชน์แล้ว นักเรียน นักศึกษากลุ่มอาชีวะศึกษา ก็ได้แสดงออกถึงศักยภาพและทักษะของตนเองในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้องต่อไปด้วย


จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ สามารถเข้าไปใช้บริการตรวจสภาพรถยนต์ รถจักรยานยนต์ตามจุดที่ตั้ง ศูนย์อาชีวะอาสา 
ซึ่งตั้งอยู่ริมทางหลวงสายหลัก และ สถานีบริการน้ำมัน ทั่วประเทศ จำนวน ๗๘ จุด

‘อนุทิน’ ภูมิใจ!! โพสต์ภาพอดีต ‘หญิงโผกอด’ หลังเคยช่วย ‘ชุบชีวิต' ปลูกถ่ายอวัยวะหัวใจ-ไต

(7 เม.ย.66) จากเฟซบุ๊ก 'อนุทิน ชาญวีรกูล' ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เล่าถึงเรื่องราวน่าประทับใจพร้อมรูปถ่ายแนบว่า...
.
ชุบชีวิต 
.
"เป็นโรคไต แล้วมันกระเทือนหมด หัวใจก็มีปัญหา เกือบตาย โชคดีมากๆ วันหนึ่งมีโทรศัพท์เข้ามา ว่ามีทั้งไต และหัวใจมาเปลี่ยนให้" 

หญิงวัยกลางคน เล่าเรื่องราวชีวิตของเธอ ระหว่างรอชายคนหนึ่ง 

เมื่อเขาเดินมาถึง เธอโผเข้าหาชายคนนั้น และไปยืนอยู่ตรงหน้า แววตาเป็นประกาย 
ชายคนนั้นผงะด้วยความตกใจ

"ท่านช่วยชีวิตฉันไว้" 

นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ 17 มีนาคม 2562 หญิงคนนั้น คืออดีตผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่ได้รับการปลูกถ่ายหัวใจ และไต จนชีวิตที่สิ้นหวัง ได้กลับมามีร้อยยิ้มอีกครั้ง

ส่วนชายที่อยู่ตรงหน้าเธอคือ...
"อนุทิน ชาญวีรกูล" ซึ่งขับเครื่องบินไปรับอวัยวะมาช่วยเหลือผู้ป่วยอาการโคม่า โดยเขาไม่รู้เลยว่า หญิงที่อยู่ตรงหน้า คือ คนที่เขาช่วยไว้ 

เธอกล่าวกับเขา
"ขอบคุณมากค่ะท่าน" เสียงนั้นสั่นเครือ 
"ดีใจมาก อยากขอบคุณกับตัวมาตลอดเคยไปดักเจอมาแล้ว ได้เจอแล้ว แต่ไม่กล้า ครั้งนี้ คิดมาแล้ว ว่าต้องทำให้ได้ ขอบคุณท่านมากๆ" 

‘ดีอีเอส’ ชี้!! กรณี 9near โทษแรงส่อคุกได้ถึง 100 ปี แนะ!! ปชช.ต่อจากนี้ เลี่ยงตั้งรหัสด้วย ‘เลขบัตรฯ-วันเกิด’

จากกรณีที่แฮกเกอร์ 9near อ้างว่ามีข้อมูลคนไทยจำนวนกว่า 55 ล้านคน นั้น ในวันนี้ (7 เม.ย.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส กล่าวว่า... 

“เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถระบุตัวและชื่อของแฮกเกอร์ได้แล้ว อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวและดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม สำหรับสาเหตุการรั่วของข้อมูลอยู่ระหว่างการหาข้อเท็จจริง”

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีกฎหมาย PDPA ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ถ้ามีคนร้ายขโมยข้อมูลและนำข้อมูลไปใช้อย่างผิดกฎหมายจะมีโทษ ขณะเดียวกันผู้ที่นำข้อมูลจากคนร้ายนำไปเผยแพร่หรือใช้ต่อจะมีโทษด้วย ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลตนเองกับผู้ที่ไม่รู้จัก

ขณะเดียวกันก็ควรระวังการตั้ง Username และ Password ซึ่งไม่ควรใช้เลขที่บัตรประชาชนและวันเดือนปีเกิดหรือเบอร์โทรศัพท์ และขอย้ำเตือนว่าเรามีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและลงโทษแฮกเกอร์หลายฉบับ ผู้กระทำความผิดก็จะมีโทษหนัก

รัฐมนตรี ดีอีเอส กล่าว “กระทรวงได้กำชับให้ทุกหน่วยงานยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล และให้ทำการตรวจสอบและปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบฐานข้อมูล ปิดช่องโหว่ต่างๆ เพื่อดูแลข้อมูลประชาชนให้ได้มาตรฐานสูงสุด”

ด้านพลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กล่าวว่า “สำหรับผู้กระทำความผิดกรณีนี้ เป็นทหาร ยศจ่าสิบโท ทั้งนี้ จากข้อมูลชี้ว่าแฮกเกอร์คนนี้เป็นคนมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์”

อดีตพนักงาน แฉ!! ข้อมูลส่วนตัวจากกล้องในรถ ‘เทสลา’ ถูกแชร์ให้ว่อน!! ผ่านระบบส่งข้อความภายในองค์กร

สื่อดังต่างประเทศ เผย อดีตพนักงานเทสลาสามารถดูภาพและคลิปจากกล้องในรถลูกค้าได้ และนำมาแชร์ดูกันภายในด้านเทสลายันความเป็นส่วนตัวของลูกค้าสำคัญยิ่ง


(7 เม.ย.66) รอยเตอร์ รายงานการสัมภาษณ์อดีตพนักงานเทสลา 9 คนว่า ในระหว่างปี 2562-2565 เผยว่า กลุ่มพนักงานได้นำภาพและคลิปที่บันทึกโดยกล้องติดรถยนต์ของลูกค้าไว้มาแชร์ผ่านระบบส่งข้อความภายในองค์กร ซึ่งคลิปบางส่วนมีความเป็นส่วนตัวหรืออ่อนไหวสูง โดยอดีตพนักงานกล่าวถึงคลิปลูกค้าชายคนหนึ่งเดินมาที่รถของตัวเองในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน

ขณะที่อดีตพนักงานอีกราย เล่าอีกว่า ภายในยังมีการแชร์คลิปเจ้าของรถขับขี่ด้วยความเร็วสูงในย่านที่พักอาศัยแล้วชนเด็กกำลังขี่จักรยาน จนเด็กลอยกระเด็นไปไกล วิดีโอดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วสำนักงานของเทสลาใน รัฐแคลิฟอร์เนีย ผ่านการแชทส่วนตัวแบบตัวต่อตัว

นอกจากนี้ ยังมีการแชร์ภาพอื่น ๆ อย่าง ภาพสุนัขและป้ายถนนตลก ๆ ที่พนักงานสร้างเป็นมีมด้วยการเขียนคำบรรยายตลก ก่อนจะโพสต์ลงในแชทกลุ่มส่วนตัว แม้ว่าบางโพสต์จะถูกแชร์ระหว่างพนักงานสองคนเท่านั้น แต่โพสต์อื่น ๆ ก็มีพนักงานหลายคนที่ได้รับชม

ด้านเทสลาระบุใน ประกาศความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ทางออนไลน์ว่า ภาพและคลิปที่บันทึกจากกล้องติดรถจะไม่มีการเปิดเผยตัวตน แต่อดีตพนักงาน 7 คนระบุว่า โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พวกเขาใช้ในการทำงานสามารถแสดงตำแหน่งของภาพและคลิป ซึ่งอาจทำให้ทราบตำแหน่งที่อยู่ของเจ้าของรถได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top