Sunday, 18 May 2025
ค้นหา พบ 48181 ที่เกี่ยวข้อง

ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร ตกลงนอกรอบ เคลียร์เบอร์เดียวกันทุกเขตทั้งจังหวัด

‘สมุทรสาคร’ เลือกตั้งสมานฉันท์ ผู้สมัครส.ส.ตกลงนอกรอบ ได้เบอร์เดียวกันทั้ง 3 เขต

(3 เม.ย.66) ที่ห้องประชุมสาครบุรีชั้น3 อาคารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งจัดให้เป็นสถานที่รับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สมุทรสาคร ทั้ง 3 เขต ปรากฏว่าบรรยากาศในตอนเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก โดยผู้สมัครจากพรรคการเมืองพร้อมกองเชียร์ติดตามกันมาให้กำลังใจกับผู้สมัครเป็นจำนวนมาก ทั้ง 10 พรรคต่างได้เดินทางมาถึงก่อนเวลา 08.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เปิดรับสมัคร

เมื่อถึงเวลารับสมัครทางเจ้าหน้าที่ที่รับสมัครได้ให้ผู้สมัครทุกพรรคการเมืองให้ไปตกลงกันก่อนในการที่จะยื่นใบสมัคร หากตกลงกันไม่ได้ก็จะใช้วิธีการจับเบอร์ ปรากฏว่าทุกพรรคการเมืองต่างออกมาตกลงกันและอยากได้เบอร์เดียวกันทั้ง 3 เขต เพื่อที่จะง่ายต่อการใช้หาเสียง

ผลการหารือใช้เวลา 10 นาที เป็นที่ตกลงกันได้ โดยทุกพรรคเห็นเหมือนกันว่าอยากได้เบอร์เดียวกันทุกเขตทั้งจังหวัด จึงมีการจับเบอร์กันก่อน หากพรรคไหนได้เบอร์อะไร ก็จะไปยื่นใบสมัครเรียงตามลำดับเบอร์

ทั้งนี้ ปรากฏว่า เบอร์ 1 พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ เบอร์ 3 พรรคเพื่อไทย เบอร์ 4 พรรคไทยภักดี เบอร์ 5 พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 6 พรรคไทยสร้างไทย เบอร์ 7 พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 8 พรรคเสรีรวมไทย เบอร์ 9 พรรคก้าวไกล และเบอร์ 10 พรรคคลองไทย

เจ้าหน้าที่ที่รับสมัครจึงได้มีการทำบันทึกข้อตกลงเอาไว้ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกพรรคตกลงกันได้ และง่ายต่อการหาเสียงเลือกตั้ง


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/721755

‘ชาวบ้าน’ ขึ้นป้ายขอโจรเมตตา หลังถูกงัดห้องขโมยของนับไม่ถ้วน พ้อ!! “บ้านนี้โดนงัดบ้าน ไปหลายรอบแล้ว ไปบ้านอื่นก่อน ช่วงนี้หมดแล้ว”

(3 เม.ย.66) ความเดือดร้อนของชาวบ้านย่านบางเสาธง ถูกโจรงัดห้องขโมยของนับครั้งไม่ถ้วน จนต้องติดป้ายขอโจรเมตตาไปบ้านอื่นก่อน ชาวบ้านบอกเฉพาะตัวเองห้องเดียวโดนไป 3 ครั้ง ท้าโจรมางัดห้องดูได้หมดตัวแล้ว

ความเดือดร้อนของผู้พักอาศัยในหอพักแห่งหนึ่งในซอยคลองปั้นหยา ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ต้องอยู่กับความหวาดระแวงหัวขโมยในพื้นที่ ถูกขโมยรถจักรยานยนต์ ถูกงัดห้อง ขโมยยางอะไหล่รถยนต์ ขโมยจักรยาน มานับครั้งไม่ถ้วน จนต้องตัดสินใจทำป้ายไวนิลสีเหลืองขนาดใหญ่มาติดไว้ที่หน้าตึกมีข้อความว่า "เรียนคุณขโมยที่เคารพ บ้านนี้โดนงัดบ้าน ขโมยรถ ไปหลายรอบแล้ว ขอเวลาทำงานสักพัก เพราะมีหน้าที่ต้องดูแลครอบครัว จึงขอความเมตตาจากคุณขโมย ให้ไปบ้านอื่นก่อน ช่วงนี้หมดแล้ว ด้วยความเคารพอย่างสูง ที่นี่ อำเภอบางเสาธง สมุทรปราการ"

นายภานุพงศ์ พรมมา อายุ 52 ปี บอกว่าอยู่ในหอพักแห่งนี้มา 10 ปี หอพักถูกงัดห้องบ่อยครั้ง วันเดียวโดนงัดไป 3 ห้องรวดก็มี เฉพาะห้องตนก็เคยโดนงัดห้องมาแล้วถึง 3 ครั้ง ถูกขโมยไปทั้ง ทอง พระ เงินสด โทรศัพท์ มูลค่าที่สูญไปก็เป็นหลักหมื่นบาท ที่ไม่ได้ไปแจ้งความเพราะคิดว่าไปแจ้งความไว้ก็เท่านั้น แค่เรื่องของหายตำรวจคงไม่ตามให้ ก็อยากจะฝากโจรให้มางัดห้องตนใหม่ เพราะไม่มีอะไรจะให้มันแล้ว ส่วนทางตำรวจตนก็อยากให้ตำรวจผ่านมาทางนี้บ่อย ๆ ผ่านมาก็มองมาบ้าง

นายธีรวุฒิ ชังอินทร์ ผู้ดูแลหอพัก บอกว่า มาดูแลหอพักแห่งนี้ได้ 5 ปี ถูกโจรขโมยของไป 5 ครั้งแล้ว ได้ไปทั้งมอเตอร์ไซด์ จักรยาน ซึ่งครั้งล่าสุดก็โดนงัดห้องไป เมื่อวันจันทร์ที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา จนทนไม่ไหวนำป้ายไวนิลมาติดไว้ที่หน้าหอพัก เพื่อแสดงความไม่ได้นิ่งนอนใจ อยากให้ตำรวจส่งสายตรวจมาบ้าง เพราะไปแจ้งความก็ทำได้แค่ลงบันทึกประจำวัน การติดป้ายครั้งนี้ก็จึงอยากให้ตำรวจรับรู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชนด้วย


ที่มา : https://news.ch7.com/detail/634698

ปทุมธานี เปิดรับสมัคร ส.ส.แบ่งเขตปทุมธานีคึกคัก

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 เวลา 08.00 น. ที่วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี (วกศ.ปทุมธานี) ถนนรังสิต-ปทุม อ.เมือง จ.ปทุมธานี   ได้มีผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งจากจากพรรคต่าง ๆ เดินทางมายืนใบสมัครกันอย่างคึกคักในวันแรกของการเปิดรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั้ง 7 เขตเลือกตั้ง จังหวัดปทุมธานี ตามที่ กกต. ประกาศรับสมัครตั้งแต่วันที่ 3-7 เม.ย. โดยมีกลุ่มกองเชียร์ของแต่ละพรรคเดินทางมาให้กำลังใจกับผู้สมัคร เช่น พรรคเพื่อไทย  พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์   พรรคก้าวไกล  พรรคเสรีรวมไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรครวมแผ่นดิน เป็นต้น


บรรยากาศเริ่มคึกคักตั้งแต่เช้ามีผู้สมัครและผู้สนับสนุนต่างทยอยเดินทางมาก่อนเวลา ยังสถานที่รับสมัครโดยทั้งหมดต่างสวมเสื้อแสดงสัญลักษณ์ของพรรคหรือผู้สมัครที่ตนเองสนับสนุน มีการเตรียม ดอกกุหลาบ พวงมาลัยดอกดาวเรือง ป้ายข้อความให้กำลังใจโดยมุ่งหวังให้ผู้สมัครที่ตนสนับสนุนได้รับหมายเลขประจำตัวที่เป็นเลขมงคลและง่ายต่อการหาเสียง ทุกคนก็อยู่ในกฎระเบียบของกฎหมายเลือกตั้งในภาพรวมสงบเรียบร้อย โดยผู้สมัครแต่ละคนต่างก็มีความมั่นใจที่จะลงต่อสู้แข่งขันการเมืองในครั้งนี้อย่างสร้างสรรค เมื่อสมัครเสร็จสิ้นก็จะขึ้นรถและเริ่มออกหาเสียง

 

สำหรับผู้สมัครบางส่วนทั้ง 7 เขต อย่างไม่เป็นทางการ ผู้สมัครเขต 1 ได้แก่ พรรคเพื่อไทย นายสุรพงษ์  อึ้งอัมพรวิไล , พรรคพลังประชารัฐ นายเสวก ประเสริฐสุข , พรรคภูมิใจไทย  นายนพพร  ขาวขำ , พรรครวมไทยสร้างชาติ  นายสุรศักดิ์ สุรทัตโชค ผู้สมัครเขต 2 ได้แก่ พรรคเพื่อไทย  นายศุภชัย  นพขำ, พรรคพลังประชารัฐ นายนภดล  ลัดดาแย้ม , พรรคภูมิใจไทย  พล.ต.ต.วัฒนา  วงศ์จันทร์ , พรรประชาธิปัตย์ นายคิว อรุโณรส ผู้สมัครเขต 3  ได้แก่ พรรคเพื่อไทย  นายยุทธศักดิ์  ชูประเสริฐ , พรรคภูมิใจไทย นายอนาวิน  รัตนสถาพร , พรรคก้าวไกล น.ส.ชลธิชา  แจ้งเร็ว ผู้สมัครเขต 4  ได้แก่ พรรคเพื่อไทย  นายสุทิน  นพขำ , พรรคภูมิใจไทย น.ส.ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย , พรรครวมไทยสร้างชาติ น.ส.ประเสริฐศรี  ฮ้อแสงชัย ผู้สมัครเขต 5 ได้แก่ พรรคเพื่อไทย  นายชัยยันต์  ผลสุวรรณ , พรรคพลังประชารัฐ  นายวิรัช  พยุงวงษ์ ,  พรรคภูมิใจไทย นายพิษณุ  พลธี , พรรคพลังประชารัฐ ส.ส.เกียรติศักดิ์  ส่องแสง ผู้สมัครเขต 6 ได้แก่ พรรคเพื่อไทย  นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ , พรรคพลังประชารัฐ  นายเกียรติศักดิ์  ส่องแสง  , พรรคภูมิใจไทย นายเอกชัย ศรีสุขชยะกุล , พรรครวมไทยสร้างชาติ นายภัทรพล แก้วสกุณี และ ผู้สมัครเขต 7  ได้แก่ พรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ  มั่นบุปผชาติ  , พรรคพลังประชารัฐ น.ส.กฤษณา  วงศ์คำ , พรรคภูมิใจไทย น.ส.พรพิมล  ธรรมสาร

ปชป.ส่งผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ครบทั้ง 9 เขต ในวันแรกของการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดสงขลา

วันนี้ 3 เม.ย.66 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค ปชป. เข้าสังเกตการณ์และให้กำลังใจแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาธิปัตย์แบบแบ่งเขตทั้ง 9 เขตเป็นวันแรก ในการเปิดรับสมัคร ณ อาคารศูนย์กีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยมีกรรมการสาขาพรรคทั้ง 9 เขต พร้อมแกนนำพรรค  เดินทางมาให้กำลังใจแก่ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้ง 9 เขตอย่างเนืองแน่น บริเวณอาคารศูนย์การกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งผลการรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายสรรเพชญ บุญญามณี หมายเลข  4

 

เขต 2 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร หมายเลข 4  
เขต 3 นายสมยศ พลายด้วง หมายเลข 4
เขต 4 นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว หมายเลข 6
เขต 5 นายเดชอิศม์ ขาวทอง หมายเลข 3
เขต 6 นางสาวสุภาพร กำเนิดผล หมายเลข 2
เขต 7 นายศิริโชค โสภา หมายเลข 2
เขต 8 พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ หมายเลข 7
เขต 9 นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง หมายเลข  1

จาก 'อนาคตใหม่' ถึง 'ก้าวไกล' บทพิสูจน์ว่า 'ของจริง' แค่ไหน ในเลือกตั้ง66

เลือกตั้ง 24 มีนาคม 62 พรรคอนาคตใหม่ กวาดเก้าอี้ในสภาได้เกินคาดถึง 81ที่นั่ง ได้คะแนนรวมกว่า 6 ล้านเสียง กลายเป็นพรรคอันดับ 3 ในสภา จากระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ที่ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ส่งให้พรรคอนาคตใหม่ ได้จำนวน ส.ส. ทะลุเป้า ทั้งที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งมาก่อนเลย 

พรรคอนาคตใหม่เริ่มนับหนึ่ง โดยมีนักธุรกิจหมื่นล้านอย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ ปิยบุตร  แสงกนกกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เป็นผู้ร่วมกันปลุกปั้น โดยมี 'ช่อ' พรรณิการ์ วานิช อดีตบรรณาธิการและพิธีกรรายการข่าว วอยซ์ทีวี เข้ามารับบทบาทเป็นโฆษกพรรค ขณะที่กลุ่มผู้ก่อตั้งพรรค ที่ส่วนใหญ่เป็นนักกิจกรรมทางสังคมและคนรุ่นใหม่ เป็นส่วนผสมที่โดนใจกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก จำนวนกว่า 7 ล้านคน

แต่เส้นทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ ก็ถูกสังคมจับจ้อง ด้วยภูมิหลังของ 'ธนาธร' ตั้งแต่ นามสกุล 'จึงรุ่งเรืองกิจ' ของเขา บทบาทนายทุนนิตยสารฟ้าเดียวกัน รวมถึงการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงในปี 2553 ไม่ต่างจาก 'ปิยบุตร' ที่เคยมีบทบาทเป็นหนึ่งในนักวิชาการกลุ่ม 'นิติราษฎร' ที่ออกมาจุดประเด็นในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ทำให้ด้านหนึ่ง พวกเขาถูกโจมตีในฐานะบุคคลอันตราย แต่อีกด้าน ก็ทำให้พวกเขาและพรรคอนาคตใหม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในช่วงเวลาไม่นาน

พรรคอนาคตใหม่ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน หลายจุดยืนและวิธีคิดของพรรคอนาคตใหม่ ก็ถูกตั้งคำถามจากสังคม ทำให้พรรคอนาคตใหม่ ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหา ถูกร้องในหลายกรณี ซึ่งมีไม่น้อยที่มีความผิดถึงขั้นยุบพรรค 

ย้อนไปในวันที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก หลังเลือกตั้ง 62  ยังไม่ทันได้เริ่มต้นทำหน้าที่ 'ธนาธร' ก็ต้องเดินออกจากที่ประชุมสภา เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่กรณีถือหุ้นสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดีย ก่อนมีคำวินิจฉัยให้พ้นสภาพ ส.ส. ในวันที่ 20 พ.ย.62

ห่างจากนั้นไม่ถึง 2 เดือน 21 ม.ค.63 พรรคอนาคตใหม่รอดพ้นจากการถูกยุบพรรค หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยปมอิลลูมินาติ ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง 

กระทั่งเดินมาถึงจุดพลิกผันสำคัญ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของ กกต. กรณีที่ 'ธนาธร' ให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงินจำนวน 191.2 ล้านบาท ซึ่งในที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ 'ยุบพรรค' ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่จำนวน 16 คน ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง  10 ปี 

จุดสิ้นสุดของพรรคอนาคตใหม่ นำมาสู่การตัดสินใจแยกสายกันเดิน โดยที่ ธนาธร ปิยบุตร และ ช่อ พรรณิการ์ แยกไปตั้ง 'คณะก้าวหน้า' เดินหน้าทำงานการเมืองท้องถิ่น หวังผลักดันการกระจายอำนาจ แต่ประสบความล้มเหลวในการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดในปี 2563 เพราะใน 42 จังหวัดที่คณะก้าวหน้า ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งนายก อบจ. สอบตกทั้งหมด แต่ยังได้เก้าอี้สมาชิก อบจ. 57 คน จาก 20 จังหวัด 

ส่วนงานในสภาฯ ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่เดิม ที่เหลือ 55 คน หลังบางส่วนแยกตัวไปอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล ประกาศสานต่อนโยบายเดิม ด้วยการพากันย้ายไปบ้านใหม่ ที่ชื่อ 'พรรคก้าวไกล' โดยมี 'ทิม' พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รับไม้ต่อเป็นหัวหน้าพรรค 

ด้านหนึ่งต้องยอมรับว่าพรรคก้าวไกลมีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน หยิบยกประเด็นสำคัญขึ้นมาตั้งกระทู้ หรืออภิปรายตรวจสอบรัฐบาล อย่างไรก็ตาม บางจุดยืนที่แข็งแรงของพรรคอนาคตใหม่ที่ส่งต่อมายังพรรคก้าวไกล เช่น ประกาศเป็นขั้วตรงข้ามกับรัฐประหาร จุดยืนเรื่องการแก้ 112 และปฏิรูปสถาบัน ล้วนแต่เป็นยาขมของพรรคการเมืองอื่น และเริ่มกลายเป็นเค้าลางว่าเส้นทางของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งจะไม่ราบเรียบเหมือนปี 62

พรรคก้าวไกล กำลังเผชิญกับทั้ง 'ศึกนอก' ทั้งระบบการเลือกตั้งที่จะกลับมาใช้บัตร 2 ใบ เป็นระบบที่เอื้อ 'พรรคใหญ่' ที่มีกลุ่ม 'บ้านใหญ่' ทำให้พรรคใหม่อย่างก้าวไกลคาดหวังเก้าอี้ในสภาได้น้อยกว่าปี 62 ขณะเดียวกัน ยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ของ 'พรรคเพื่อไทย' หวังเก็บกวาดคะแนนเสียงจากฝั่งประชาธิปไตยไปทั้งหมดเพื่อตั้งรัฐบาลให้ได้ เป็นการส่งนัยถึงการโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกลไว้ข้างหลัง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top