Friday, 9 May 2025
ค้นหา พบ 47953 ที่เกี่ยวข้อง

ลุยต่อเนื่อง!!! สืบนครบาลลาดตระเวนออนไลน์ตะครุบมิจฉาชีพทางโซเชี่ยล 2 ราย ความเสียหาย10.5 ล้านบาท

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.  และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  PCT ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริต พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. กับ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้สืบนครบาล IDMB ลาดตระเวนออนไลน์ปราบปรามมิจฉาชีพทางโลกโซเชี่ยล

คดีที่ 1 บุกจับ 'หนุ่มหลอกขายสินค้าไอที' ผู้เสียหายกว่า 280 คน มูลค่า 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 มี.ค.66 เวลาประมาณ 13.00 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา
สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการที่ 4 นำหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 147/2566 เข้าตรวจค้นบ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 1 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานีได้ร่วมกันจับกุมตัว นายณิชพน (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 39/280 หมู่ที่ 1 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาพระโขนง ที่ 96/2566 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน' มีหมายจับติดตัวอีก 5 หมาย

1. หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 73/2566 ลงวันที่ 27 มกราคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ร่วมกันฉ้อโกง'
2. หมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 98/2566 ลงวันที่ 30 มกราคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกง' 
3. หมายจับศาลแขวงนครราชสีมา ที่ 570/2565 ลงวันที่ 27 กันยายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ร่วมกันฉ้อโกง'
4. หมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ 824/2565 ลงวันที่ 15  ธันวาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกง'
5. หมายจับศาลแขวงดอนเมือง ที่ 360/2565 ลงวันที่  30 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกง และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์'

‘บิ๊กตู่’ สั่ง ผบ.ตร. ลุยสอบสวนปม ‘ซีเซียม-137’ พร้อมย้ำ!! ดูแลความปลอดภัย-สุขภาพ ปชช.

(24 มี.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณีที่สารซีเซียม-137 หลุดหายจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนของบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ต่อมาซึ่งพบว่าอยู่ที่โรงงานหลอมโลหะแห่งหนึ่งใน อ.กบินทร์บุรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ดังกล่าว และได้ประสานงานพร้อมกับติดตามข้อมูลต่าง ๆ อีกทั้งได้มอบหมาย นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ประชุมร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ นายธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และนายพงษ์แพทย์ เพ่งวาณิชย์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมนิวเคลียร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าร่วมประชุม

นายอนุชา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายกฯ ได้ให้ความสำคัญกับการสอบสวนเรื่องนี้ในทุกมิติ อาทิ วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 สูญหายได้อย่างไร สถานที่ที่รับซื้อวัสดุดังกล่าว ตลอดจนต้องมีผู้รับผิดชอบต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสารกัมมันตรังสีด้วยหรือไม่ และประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นายกฯ จึงสั่งการให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงพื้นที่สอบสวนหาหลักฐาน เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ ขณะเดียวกันต้องมีมาตรการออกมารองรับ โดยเฉพาะในเรื่องสารกัมมันตรังสี อีกทั้งนายกฯ ให้ความสำคัญกับประสิ่งแวดล้อม จึงยกมาเป็นวาระแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ ขณะที่รัฐบาลจะนำข้อมูลและผลการประชุมมาเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบต่อไป

ด้าน นายรณรงค์ กล่าวว่า การประชุมร่วมกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีขึ้นเพื่อประสานงานการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยตนได้รายงานในที่ประชุมว่าช่วง 2 - 3 วันที่ผ่านมา มีสิ่งที่เราเป็นห่วงมากที่สุดอันดับแรก คือเรื่องสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานในโรงงงานหลอมเหล็กที่มีประมาณ 70 คน โดยการตรวจครั้งแรกเป็นการตรวจภายในและนอกโรงงาน รวมถึงตรวจพนักงานแต่ละคนด้วย ก็ไม่พบว่ามีการปนเปื้อนสารดังกล่าว จากนั้นได้มีการตรวจครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการตรวจภายในร่างกายของพนักงาน โดยตรวจเลือดและปัสสาวะ ผลออกมาเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ไม่พบว่ามีสารนี้ปนเปื้อนในร่างกาย จึงขอให้มั่นใจว่าร่างกายพนักงานของโรงงานแห่งนี้ทั้ง 70 คน ไม่พบสารดังกล่าว แต่ด้วยความเป็นห่วงประชาชนที่อยู่ข้างใกล้เคียงโรงงานว่าจะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ เราจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตระเวนออกตรวจสอบสถานที่ ดิน น้ำ อากาศ และสภาพแวดล้อมในพื้นที่ระยะวงรอบ 5 กิโลเมตร และ 10 กิโลเมตร โดยตรวจวัดหลายครั้งก็ไม่พบการปนเปื้อนสารดังกล่าว

นายรณรงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ประชุมร่วมกับตัวแทนประชาชนในหลายหมู่บ้านที่อยู่ข้าง โดยตนได้เล่าถึงสถานการณ์การดูแล การป้องกันตัว การขอรับความช่วยเหลือต่างๆ ขณะเดียวกัน เราส่งแถบฟิล์มวัดปริมาณรังสีเคลื่อนที่ประจำตัวบุคคลไปให้จิตอาสาของแต่ละหมู่บ้านหรือชุมชน นำไปติดบนตัว โดยใช้เวลาตรวจวัดประมาณ 15 - 30 วัน แล้วกลับมาตรวจอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชน และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าพื้นที่บริเวณนั้นไม่มีสารปนเปื้อน ไม่มีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงไม่มีผลกระทบกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนพืชผลผลิตทางการเกษตร ตนจึงเชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ไปตรวจสอบทั่วพื้นที่ในหมู่บ้านต่างๆ และพื้นที่เกษตรว่ามีสารปนเปื้อนหรือไม่ พร้อมกับสอบถามข้อมูลจากเกษตรกรในพื้นที่ด้วย โดยมีสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์อยู่ตลอด ทั้งนี้ เมื่อผลออกมาว่าไม่พบสารซีเซียมปนเปื้อน ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของ ปส., นายอำเภอ และบรรดาผู้นำชุมชน ได้ร่วมกันรับประทานผักและผลไม้ที่ปลูกในพื้นที่เหล่านี้ เพื่อการันตีว่ามีความปลอดภัยสูงสุด จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนกลับมาท่องเที่ยวและจับจ่ายซื้อสินค้าในพื้นที่ต่าง ๆ ของ จ.ปราจีนบุรี

แห่พัดยศ!! เเต่งตั้งเลื่อนสมณศักดิ์ 'พระวินัยธรยุทธนา' พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ร่วมแสดงมุทิตา

คณะศิษยานุศิษย์ วัดมหาวงษ์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จัดพิธีขบวนแห่พัดยศและใบตราตั้งฐานานุกรม ในโอกาสที่พระวินัยธรยุทธนา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาวงษ์ ได้รับการแต่งตั้งเลื่อนสมณศักดิ์ดำรงตำแหน่งฐานานุกรมที่ พระครูปลัดจริยวัฒน์

ในโอกาสที่พระเดชพระคุณพระธรรมวชิราจารย์ รองเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม ราชวรวิหาร พระอารามหลวง มีเมตตาแต่งตั้งให้ พระวินัยธรยุทธนา ภฺททญโณ (น.ธ.เอก.พธ.ม.) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาวงษ์ ดำรงตำแห่นงฐานานุกรมที่ พระครูปลัดจริยวัฒน์ โดยได้รับความเมตตาจาก ท่านพระครูวิมลศุภการ เจ้าคณะอำเภอเมืองสมุทรปราการ เจ้าอาวาสวัดด่านสำโรง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พระครูพุทธิสารโสภิต.เจ้าคณะตำบลสำโรงเหนือ เจ้าอาวาสวัดบางโปรง

'บิ๊กป้อม' จัดคณะกรรมการ 5 ชุด สู้ศึกเลือกตั้ง 66  ‘สนธิรัตน์’ ผงาดนั่ง ปธ.ฝ่ายกลยุทธ์การเมือง

(24 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค.66 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงนามคำสั่งพรรค แต่งตั้งคณะกรรมการ จำนวน 5 คณะ เพื่อให้การดำเนินงานของพรรค ในด้านประสานงานและสนับสนุนการดำเนินการของคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ รวมทั้งดูแลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์และบริหารการเลือกตั้งของพรรค เป็นไปด้วยความถูกต้อง มีประสิทธิภาพ บรรลุตามวัตถุประสงค์ และนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ 

โดยคณะกรรมการทั้ง 5 ประกอบด้วย 
1.คณะกรรมการฝ่ายอำนวยการ มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นประธานกรรมการ กรรมการ 6 คน ได้แก่ นายวราเทพ รัตนากร พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายวิเชียร ชวลิต พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ นายณรงค์ โยธนัง 

2.คณะกรรมการฝ่ายกฎหมาย มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานกรรมการ กรรมการ 5 คน ได้แก่ นายประสาร หวังรัตนปราณี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นายวิเชียร ชวลิต นายภาส ภาสัทธา นายทศพล เพ็งส้ม

ม.แม่โจ้ จัดงานนิทรรศการแสดงผลิตภัณฑ์นำเสนอ Pitching ผลิตภัณฑ์ และประกาศผลรางวัลสุดยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน ECON BIZ#2

คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดงานนิทรรศการแสดงผลิตภัณฑ์นำเสนอ Pitching ผลิตภัณฑ์ และประกาศผลรางวัลสุดยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน ECON BIZ#2ภายใต้โครงการยกระดับวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ (SMATI)

วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2566  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวุฒิ ดุษฎี รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการแสดงผลิตภัณฑ์นำเสนอ Pitching ผลิตภัณฑ์ และประกาศผลรางวัลสุดยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน ECON BIZ#2 ภายใต้โครงการยกระดับวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ (SMATI)โดยมีรองศาสตราจารย์ ว่าที่ร้อยตรี ดร.สุรชัย กังวล คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวรายงาน พร้อมด้วยคณบดี ผู้บริหาร คณาจารย์และบุคลากร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้ประกอบการ และวิสาหกิจชุมชน เข้าร่วมกิจกรรม ณ อาคารแผ่พืชน์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ณัฐวุฒิ ดุษฎี รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า  กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนมหาวิทยาลัยแม่โจ้สู่มหาวิทยาลัยกลุ่ม 2 กลุ่มการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ดำเนินงานโครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย (Reinventing University) ตามนโยบายการพลิกโฉมระบบอุดมศึกษาของประเทศไทย กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มหาวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนงบประมาณโครงการยกระดับวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการใหม่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ MJU Enhancing SMEs and New Entrepreneurs with Smart and Modern Agricultural Technology Innovation (SMAT) มุ่งหวังให้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งมีอัตลักษณ์ ความเชี่ยวชาญ องค์ความรู้ด้านนวัตกรรมเกษตร ความพร้อมในด้านทรัพยากรบุคคล เครือข่ายความร่วมมือ และปัจจัยเกื้อหนุนต่าง ๆ เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางและมีระบบนิเวศที่เอื้อต่อการขับเคลื่อนนวัตกรรม อันจะนำไปสู่การยกระดับและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร สอดคล้องกับแนวคิดหลักของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งผู้ประกอบการ (Entrepreneurial University) ซึ่งกิจกรรมในวันนี้อันประกอบด้วยนิทรรศการจากผู้เข้าร่วมโครงการ หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ การจัดประกวดรางวัลสุดยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน 

กิจกรรมการบรรยายพิเศษและการเสวนาในหัวข้อที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนอันจะผลักดันไปสู่การเป็นผู้ประกอบการที่จะเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการดำเนินงานโครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย(Reinventing University) ตามนโยบายการพลิกโฉมระบบอุดมศึกษาของประเทศไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เป็นอย่างดี ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนในการร่วมขับเคลื่อนการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการพัฒนาเทคโนโลยีและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม(TechnologyDevelopment and Innovation) และร่วมขับเคลื่อนการสร้างผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
 
ด้านรองศาสตราจารย์ ว่าที่ร้อยตรี ดร.สุรชัย กังวล คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า ตามที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้มีการดำเนินโครงการยกระดับวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ (SMATI) ภายใต้โครงการพลิกโฉมระบบอุดมศึกษาของประเทศไทย (Reinventing University System) โดยคณะเศรษฐศาสตร์ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างผู้ประกอบการใหม่ แนะแนวทางการส่งเสริมการตลาด และขณะนี้ คณะเศรษฐศาสตร์ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนผลผลิตการดำเนินงานสำเร็จลุล่วงด้วยดี อันจะนำไปสู่การยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร สอดคล้องกับแนวคิดหลักและแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งผู้ประกอบการ ตามนโยบายการพลิกโฉมระบบอุดมศึกษาของประเทศไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top