Friday, 16 May 2025
ค้นหา พบ 48144 ที่เกี่ยวข้อง

การประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ USO Nat

การติดตามและประเมินผลตามนโยบาย กสทช.โดยมีตัวแทนกสทช.คณะกรรมการติดตามประเมินผลปฏิบัติงาน NIDA สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ โดยมีพลเรือเอก ประสาน สุขเกษตร ประธานคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฎิบัติงาน เป็นประธานกล่าวเปิดงานในพิธี

โดยการประชุมจัดขึ้นที่โรงเเรมทวารวดี ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการบรรยายและการประชุมในครั้งนี้โดยมีประชาชนทั่วไป ผู้พิการทางการได้ยินและทางด้านสายตา รวมแล้วมากกว่า 150 คน โดยมีหัวข้อการบรรยายความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ (ปี พ.ศ.2562-2580) นโยบายระดับชาติ แผนงานสำคัญปี 2565 ของสำนักงาน กสทช.( 8 ข้อ ) ปัญหาระดับชาติที่ กสทช.ต้องแก้ไขตามอำนาจหน้าที่ วิสัยทัศน์ กตป.ด้านการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เป้าหมายของ กตป. ด้านการส่งเสริมและเสรีภาพของประชาชน แนวทางในการดำเนินการของ กตป.การส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน

โดยปัญหาระดับชาติที่ กสทช.ต้องแก้ไขตามอำนาจหน้าที่
1.นำระบบ 5G มาใช้ในด้านอุตสาหกรรมและการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ
2.การโฆษณาอาหารและยาที่ไม่เป็นจริง อันตรายต่อสุขภาพ
3.การใช้วิทยุกระจายเสียงชุมชน ต้องไม่กระทบต่อความมั่นคง แต่ใช้เพื่อเศรษฐกิจชุมชน
4.การละเมิดสิทธิข้อมูลส่วนบุคคล
5.ติดตามการพัฒนาอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียม (กระทบต่อค่ายมือถือ)
6.เยียวยาผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการตามกฎหมาย
7.ใช้ประโยชน์จากดาวเทียมในการสื่อสารและพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ
8.การสร้างเสาสัญญาณแล้วคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากระทบต่อสุขภาพของประชาชนและเอาสายลงดิน
9.แก้ปัญหาคลื่นรบกวน
10.การแก้ปัญหาแก๊ง Call Center และมิจฉาชีพ Online หลอกลวงประชาชนให้เสียหายและติดตามเอาเงินคืนไม่ได้
11.การแก้ปัญหามิให้ประชาชนถูกเอาเปรียบหลังควบรวมทรู-ดีแทค
12.การดำเนินการเรื่องอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง

เบื้องต้นทางกาทช.และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยงข้องได้ลงพื้นที่ติดตามการขยายโครงข่ายและบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่หมู่บ้านห่างไกล จำนวน 44,352 หมู่บ้าน ในพื้นที่ห่างไกลโซน C และโซน C+ หมายของพื้นที่ห่างไกลโซน c และโซน c+ นั้นเป็นพื้นที่ไม่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์และไม่มีบริการ อีกทั้งยังมีอุปสรรคทางด้านกายภาพในการเข้าถึงและอุปสรรคในการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรศัพท์คมนาคม

โดยวัตถุประสงค์โครงการเพื่อที่จะจ้างที่ปรึกษาดำเนินการติดตามและประเมินผลตามนโยบายกสทช. เพื่อรวบรวมวิเคราะห์สรุปผลและจัดทำรายงานการติดตามและประเมินผลตามนโยบาย และการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกลโซน c และพื้นที่ชายขอบโซน c+ เพื่อนำเสนอผลการติดตามและประเมินผลการนโยบายกสทช.ที่สำคัญในด้านการส่วนสูงสิทธิและเสรีภาพของประชาชนกสทช.

ทัพใหญ่ 'พปชร.' ปราศรัยหนุนผู้สมัคร ส.ส.กทม.33 เขต ลั่น!! พปชร. เป็นรัฐบาล 'ขจัดฝุ่นพิษ-ปลดหนี้-เพิ่มรายได้' ทันที

(18 มี.ค.66) พรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดเวทีปราศรัยที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม.ภายใต้ชื่อ 'พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ' นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก, นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง, นายอุตตม สาวนายน ประธานจัดทำนโยบาย และ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์

โดย พรรคพลังประชารัฐได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต ประกอบด้วย...
เขต 1 พระนคร สัมพันธวงศ์ ดุสิต บางรัก นายสฤษดิ์ ไพรทอง
เขต 2 สาทร ราชเทวี ปทุมวัน นายพณิชย์ วิทยาภัทร์
เขต 3 บางคอแหลม ยานนาวา น.ส.ชญาภา ธารดำรงค์ 
เขต 4 คลองเตย วัฒนา นายภูวกร ปรางภรพิทักษ์ 
เขต 5 ห้วยขวาง วังทองหลาง นายกานต์ กิตติอำพน 
เขต 6 ดินแดง พญาไท ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร  
เขต 7 บางซื่อ ดุสิต ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช 
เขต 8 จตุจักร หลักสี่ นายรังสรรค์ กียปัจจ์ 
เขต 9 บางเขน จตุจักร หลักสี่ นายปราโมทย์ เพ็ชรฤทธิ์ 
เขต 10 ดอนเมือง ภญ.สุชาดา เวสารัชตระกูล
เขต 11 สายไหม น.อ. บัญชาพล อรัณยะนาค
เขต 12 บางเขน สายไหม ลาดพร้าว ภญ.นพวรรณ หัวใจมั่น 
เขต 13 ลาดพร้าว วังทองหลาง นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ  
เขต 14 บางกะปิ วังทองหลาง น.ส. นฤมล รัตนาภูบาล  
เขต 15 คันนายาว บึงกุ่ม น.ส.ณิรินทร์ เงินยวง 
เขต 16 คลองสามวา นายกิติภูมิ นีละไพจิตร
เขต 17 หนองจอก คลองสามวา นายศิริพงษ์ รัสมี
เขต 18 หนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง นายพีระพงษ์ รัสมี 
เขต 19 มีนบุรี สะพานสูง นางนาถยา แดงบุหงา 
เขต 20 ลาดกระบัง นายบุญรุ่ง เต๋งจงดี
เขต 21 ประเวศ สะพานสูง น.ส.แพรว กิจสุวรรณ
เขต 22 สวนหลวง ประเวศ  นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ 
เขต 23 พระโขนง บางนา นายตรีสิทธิ์ ศิริวรรณ
เขต 24 คลองสาน ธนบุรี ราษฎรบูรณะ นายศันสนะ สุริยะโยธิน 
เขต 25 ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ นายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา 
เขต 26 จอมทอง บางขุนเทียน นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ 
เขต 27 บางบอน บางขุนเทียน นายสาโรจน์ ซึ้งไพศาลกุล  
เขต 28 หนองแขม บางบอน จอมทอง นายมานพ มารุ่งเรือง 
เขต 29 บางแค หนองแขม นายเอกชัย ผ่องจิตร์ 
เขต 30 บางแค ภาษีเจริญ นายสิทธิโชค คล้อยแสงอาทิตย์
เขต 31 ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน น.ต.นิธิ บุญยรัตกลิน 
เขต 32 บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน ธนบุรี น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ 
และเขต 33 เขตบางพลัด บางกอกน้อย นายคมสัน พันธุ์วิชาติกุล

จากนั้นเมื่อเวลา 17.20 น.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ ได้กล่าวปราศรัยว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองที่ตนก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 61 และ คน กทม. ก็ให้ความไว้วางใจกับพรรคของเรา การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐได้คัดสรรผู้สมัครคุณภาพทั้ง 33 เขต มาผสมกับผู้สมัครรุ่นเก๋าที่จะมาร่วมใจกันเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานครให้ดีขึ้น ครั้งนี้ถือเป็นเวทีเป็นไม้แรก ของขุนพลพลังประชารัฐ กทม. ซึ่งในวันนี้เป็นวันที่ประกาศเปิดตัวทั้ง 33 เขต มั่นใจถึงความพร้อมทั้งตัวบุคคลและนโยบาย ตนขึ้นเวทีเป็นคนแรกเพื่อบอกว่า พปชร.ในอดีตที่พี่น้องกทม.ให้ความไว้วางใจ มี ส.ส.กทม.12 คน ตนจึงเป็นสัญลักษณ์ว่าในอดีตที่พี่น้องให้กำลังใจนั้น วันนี้มาเชื่อมโยงให้การเลือกตั้งครั้งนี้สำเร็จ ซึ่งพรรคคัดผู้สมัครคุณภาพ 33 เขต ผสมผสานระหว่างผู้สมัครตัวเก๋า และ รุ่นใหม่ที่จะเป็นขวัญใจพี่น้องกทม. 

"แน่นอนว่า ปัญหาของ กทม. ที่นับวันจะรุนแรงขึ้น คือเรื่องมลภาวะทางอากาศ หรือฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังสร้างปัญหาให้กับผู้สูงอายุรวมไปถึงเด็ก ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยทางระบบหายใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นพรรคประชารัฐจะนำอากาศบริสุทธิ์ กลับคืนมาให้กับคนไทยทุกคน เรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 คือปัญหาเร่งด่วน เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญของคนทุกชนชั้น ขอให้ทุกคนไว้วางใจผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ เลือกพวกเขาเข้ามาเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนทุกคนทั้ง 33 เขต เพราะพลเอกประวิตรหัวหน้าพรรคของเรา ได้ประกาศเอาไว้แล้วว่า หากได้เข้ามาเป็นรัฐบาลปัญหาฝุ่น PM 2.5 จะต้องได้รับการแก้ไขทั้งพื้นที่ กทม.และทั่วประเทศ" สนธิรัตน์ กล่าว

ต่อมาในเวลา 17.30 น. นายอุตตม สาวนายน ประธานจัดทำนโยบาย กล่าวปราศรัยว่า "วันนี้เรามาเพื่อแสดงเจตจำนงว่า เราจะทำงานอย่างมุ่งมั่น เพื่อพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพและทุกจังหวัดของประเทศไทย กทม.ต้องเป็นหัวขบวน เพื่อเป็นศูนย์กลางของเกือบทุกกิจกรรม ถ้าให้นำไปเทียบกับนานาประเทศแล้ว ต้องบอกว่ากรุงเทพของเราไม่น้อยหน้าประเทศไหน

"ขอพูดถึงนโยบายเพื่อชาว กทม.อย่าง กรุงเทพ +5 คือพื้นที่ กทม.บวกกับ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานีสมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา และ กรุงเทพฯต้องเป็นศูนย์กลางพัฒนา 360 องศา รวมถึงการกระจายความแออัดจาก กทม.ไปยังจังหวัดปริมณฑลที่มีของดีไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงแหล่งอาหารขนาดใหญ่ ที่เตรียมรอให้เราไปพัฒนา ทั้งนี้ เราจะสร้างเศรษฐกิจย่าน กทม.10 ย่านนำร่องไม่ว่าจะเป็นเขตลาดพร้าว เขตประเวศ เพื่อยกระดับและพัฒนาศักยภาพของพื้นที่ โดยการดึงจุดเด่นของแต่ละพื้นที่ออกมา โดยมีการเชื่อมโยงการคมมนาคมที่สะดวกและรวดเร็ว เพื่อเป้าหมายในการเติมเต็มความสุขให้กับคนเมืองให้ได้" นายอุตตม กล่าว

นายอุตตม กล่าวอีกว่า พรรคพปชร. จะตั้งกองทุนประชารัฐ เพื่อปลดภาระ เพิ่มรายได้ และสร้างโอกาส แก้หนี้ให้เบ็ดเสร็จ เติมทุนใหม่ แล้วเสริมทักษะ ในกรอบวงเงิน 300,000 ล้านบาท เพื่อนำมาแก้หนี้ให้เบ็ดเสร็จ โดยกองทุนจะมีการให้กู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพยกตัวอย่างเช่น การกู้เงินจำนวน 50,000 บาท จะใช้เวลาผ่อน 7 ปี ซึ่งจะตกวันละ 24 บาท โดยดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 5 

‘กสทช.’ ยืนยันไม่ซื้อลิขสิทธิ์ ‘ซีเกมส์ 2023’ ไม่ผิด เล็งแก้กฎ ‘มัสต์แฮฟ’ หลังเป็นมีปัญหาตามมาเพียบ

ความคืบหน้าเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคมนี้ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำลังเตรียมเจรจากับเจ้าภาพกัมพูชา ให้ลดค่าลิขสิขสิทธิ์ที่ตั้งไว้สูงถึง 800,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 27.6 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เรียกร้องให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทบทวนยกเลิกกฎ "มัสต์แฮฟ" (Must Have) 

เพราะเห็นว่าเป็นต้นตอปัญหาในการดึงภาคเอกชนร่วมลงทุนในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬา 7 รายการที่คนไทยต้องดูฟรี ประกอบด้วย ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชียนเกมส์, เอเชียนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์ และฟุตบอลโลกนั้น

ล่าสุด นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. ระบุว่า กรณีของการพิจารณาประเด็นปัญญาของกฎ "มัสต์แฮฟ" ที่ขัดแย้งกับธุรกิจกีฬาโลกนั้น บอร์ด กสทช. มีความเห็นให้ตั้งคณะทำงาน 1 ชุด โดยมี น.ส.มณีรัตน์ กำจรกิจการ รักษาการรองเลขาธิการ กสทช. เป็นประธานเพื่อศึกษาข้อมูลต่าง ๆ อย่างรอบด้าน ซึ่งคณะกรรมการชุดใหญ่รอฟังข้อสรุปก่อนจะพิจารณาตัดสินใจต่อไป

ด้าน น.ส.มณีรัตน์ กำจรกิจการ รักษาการรองเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ประเด็นเรื่องที่ กกท. ระบุว่า กสทช. บีบบังคับให้ กกท. ดำเนินการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชานั้น น่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกัน เพราะก่อนหน้านี้ กสทช. เชิญ กกท. และคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ มาหารือและชี้แจงทำความเข้าใจกฎ ‘มัสต์แฮฟ’ และ ‘มัสต์ แครี่’ 

ซึ่งทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันว่า สำหรับการบังคับใช้ของกฎ ‘มัสต์ แฮฟ’ และ ‘มัสต์ แครี่’ จะเริ่มต้นก็ต่อเมื่อ ลิขสิทธิ์ถูกซื้อมาดำเนินการในประเทศไทย แต่ตราบใดที่ไม่มีการซื้อเข้ามา กฎดังกล่าวก็ไม่ได้บังคับใช้ หรือสรุปง่ายๆ ว่า ถ้าประเทศไทยไม่ซื้อถือว่า ไม่ได้มีความผิดอะไร แต่ถ้าซื้อมาแล้ว ต้องถ่ายทอดสดให้คนไทยได้รับชมตามช่องทางต่าง ๆ ที่ระบุไว้แบบไม่เสียเงินค่ารับชม อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่าทาง กกท. จะดำเนินการซื้อลิขสิทธิ์หรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของ กกท. ซึ่งแจ้งไว้คร่าว ๆ ว่า กำลังหางบประมาณ และจะขอจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

‘สันติ’ ชูนโยบาย ยกระดับคุณภาพชีวิตคนในเมือง ผุด ‘รถไฟฟ้า-ดูแลสตรี-หนุนเยาวชนเรียนภาษาที่ 2’

(18 มี.ค.66) เวลา 17.50 น. ที่ลายคนเมือง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพปชร. กล่าวปราศรัยว่า พรรคพปชร. ก้าวข้ามความขัดแย้ง มีนัยยะสำคัญ ที่จะนำไปสู่ความสามัคคี ลดความเหลื่อมล้ำทุกรูปแบบ โดยพรรคพปชร. ตั้งใจส่งผู้สมัครเป็นตัวแทนครบทุกเขต เพื่อให้ผู้สมัครของพรรค ลงไปทุกพื้นที่ทั้ง 33 เขต เพื่อรับทราบข้อคิดเห็นและรับใช้คนกทม. ตลอดจนส่งเสริมและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ทันยุคสมัย พรรค

พปชร.ตั้งใจพัฒนากทม.ให้ก้าวทันนวัตกรรมของโลก โดยปัญหาความแออัดในกทม.มาจากการบริหารจัดการเมืองที่ไม่เป็นสัดส่วน ทำให้การพัฒนาไปคนละทิศทาง ดังนั้นการส่งผู้สมัครไปในแต่ละเขต ลงไปดูปัญหาเพื่อจะทำให้เกิดการสร้างรายได้ ลดต้นทุนดำรงชีวิต 

เช่น การเดินทางในชีวิตประจำวัน หากผู้สมัครพปชร.ได้รับเลือกเข้ามา จะทำนโยบายเรื่องการเดินทางให้มีรถไฟฟ้า มีชัตเทิลบัสผ่านหมู่บ้าน เพื่ออำนวยความสะดวก ลดการใช้รถยนต์ เป็นการกระจายความเจริญไปรอบนอก 

คลี่ประวัติศาสตร์ผ่านดนตรี แสง สี เสียง ในบรรยากาศสุดคลาสสิคที่ 'หัวลำโพง'

วันนี้ (18 มี.ค.66) ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ได้ร่วมกับ Lighting Designers Thailand ที่มาร่วมออกแบบแสงไฟ (Lighting Installation) เพื่อช่วยสร้างเรื่องราวและขับเน้นความงดงามของสถาปัตยกรรม พร้อมกับจัดการแสดงดนตรีที่ได้รับการคัดสรรมาให้สอดคล้องกับการที่สถานีรถไฟหัวลำโพงเป็นชุมทางของคนเดินทาง

พื้นที่สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือ หัวลำโพงสุดคลาสสิก เคยเป็นชุมทางของการเดินทางจากผู้คนทั่วประเทศมายังกรุงเทพมหานคร แม้ปัจจุบันจะลดความคับคั่งลงเหลือเพียงการเดินรถไฟไม่กี่สาย แต่สถานีรถไฟหัวลำโพงยังคงมีความสำคัญในฐานะอาคารทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ทั้งด้านสถาปัตยกรรม และความทันสมัยด้านระบบคมนาคมของประเทศไทย

ในวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 126 ปีการรถไฟแห่งประเทศไทยในวันที่ 26 มีนาคม 2566 ชวนคุณมาร่วมสีสันไปพร้อมกับการเปิดมุมมองใหม่ที่เปี่ยมเสน่ห์ของสถานีรถไฟกรุงเทพ ใน 'Unfolding Bangkok' สอดรับกับบทบาทที่เปลี่ยนไปของสถานีรถไฟหัวลำโพง จึงเป็นโอกาสในการทดลองปรับพื้นที่ของสถานีรถไฟให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับการส่งเสริมสถาปัตยกรรม การเรียนรู้และสันทนาการของผู้คน

ทั้งนี้ Unfolding Bangkok ได้ประสบความสำเร็จกับกิจกรรมหลายครั้งก่อนหน้านี้ อาทิ โรงปั้นของมหาวิทยาลัยศิลปากร หรือพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวัง

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวในงานว่า "ทุกวันนี้จำนวนผู้เข้าใช้บริการในการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้นมีเยาวชนมากกว่า 50% ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่จะได้สอดแทรกประวัติศาสตร์อันดีงามของการรถไฟ พร้อมทั้งประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากการเดินทางซึ่งได้รับความนิยมในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นรถทัวร์ รถยนต์ หรือเครื่องบิน และงานนี้จะเป็นต้นแบบให้องค์กรต่าง ๆ ร่วมกันส่งเสริมให้เห็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของชาติต่อไป"

ผู้สนใจเข้าร่วมชมงานฯ สำหรับวันที่ 18-26 มีนาคม 2566 นี้ เป็นงานแสงสีเสียง  และดนตรี ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงร่วมฉลองครบ 126 ปี การรถไฟแห่งประเทศไทย ในวันที่ 26 มีนาคมนี้ โดยรายละเอียดกิจกรรมงาน Living Old Building แสงสีเสียงหัวลำโพงนี้ มี 3 ส่วนคือ...


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top