Monday, 9 June 2025
ค้นหา พบ 48661 ที่เกี่ยวข้อง

รุ่นใหญ่ยิ้มออก สาวใหญ่ใจดี ตัดผมฟรีสำหรับผู้ใหญ่อายุ 70 ปี ขึ้นไป เผย “เคยได้รับโอกาส ขอตอบแทนให้กับชาวบ้านสูงวัย”

ที่ร้านตัดผมชาย-หญิง ในพื้นที่ซอย 6 ต.เมืองการุ้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ของนางพันธนันท์ จุทส อายุ 52 ปี ได้เปิดตัดฟรีให้กับผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้น ส่วนคนคนทั่วไปผู้ใหญ่หัวละ 60 บาท เด็กเล็ก 20-40 บาท 

โดยนางพันธนันท์ เจ้าของร้านเปิดเผยถึงเหตุผลที่ตัดผมให้กับผู้ที่อายุ 70 ปีขึ้นไปฟรีทุกคนว่า ก่อนที่ตนจะได้เป็นช่างตัดผมก็ต้องอดทนมามาก โดยได้รับโอกาสจากคนที่สอนเรามากว่าจะได้มีวันนี้ไม่ใช้เรื่องง่าย จึงอยากจะขอตอบแทนให้กับชาวบ้านผู้สูงวัยบ้าง เนื่องจากคนที่มีอายุมากก็ไม่ค่อยจะมีงานทำ รายได้ก็ไม่ค่อยมี ถ้าเทียบกับคนบ้านๆ ตามชนบท พร้อมอยากเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของผู้สูงวัยมากกว่า ที่ไม่ต้องเครียดกับเรื่องค่าใช้จ่ายในการตัดผม ซึ่งเราอาจจะช่วยเขาเรื่องอื่นไม่ได้ แต่เราช่วยตัดผมให้กับเขาได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเลยสักบาท

เพิ่มพลังสตรีไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พปชร. ร่วมหารือเนื่องในวันสตรีสากล มุ่งสร้างพื้นที่-ขยายโอกาสสตรี-มอบสิทธิพื้นฐานเท่าเทียม

(8 มี.ค.66) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) กล่าวว่า พรรคพปชร. ได้ระดมความคิดเห็นของกลุ่มสตรีพรรคพลังประชารัฐ ‘พลังประชารัฐ เพิ่มพลังสตรีไทย’ เนื่องในวันสตรีสากล 8 มี.ค. ระดมความเห็นและรับฟังเสียงสะท้อนให้แก้ไขปัญหา และข้อเสนอของเครือข่ายองค์กรสตรี เพื่อลดช่องว่าง ความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้กับกลุ่มสตรี และเยาวชน ได้รับสิทธิเท่าเทียมในทุกมิติ โดยมีนางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ ที่ปรึกษาด้านสิทธิสตรี และว่าที่ผู้สมัครพปชร. อาทิ น.ส.ชญาภา ปรีภาพาก นางนฤมล รัตนาภิบาล น.ส.ณิรินทร์ เงินยวง น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ และ น.ส.สุชาดา เวสารัชตระกูล รวมถึงนายศันสนะ สุริยะโยธิน นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ นายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา ร่วมระดมความคิดเห็นของที่ผู้สมัครจากการลงพื้นที่ เช่น แก้ไขปัญหาความรุนแรงทุกรูปแบบ จัดตั้งศูนย์สุขภาพจิตในชุมชนเพื่อคนทุกช่วงวัย เพิ่มโอกาสการเข้าถึงสิทธิการรักษาและป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม การจัดสวัสดิการเพื่อการดูแลคุณภาพชีวิตแม่เลี้ยงเดี่ยว และยกระดับศูนย์รับเลี้ยงเด็กเล็กก่อนวัยเรียนในชุมชนเป็นต้น ให้สอดรับกับบริบทการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

ยึดหลักยุติธรรม ‘โรม’ ยื่น ก.ต. สอบผู้พิพากษา ถอนหมายจับ สว.ทรงเอ ชี้!! ต้องบังคับใช้กฎหมายเสมอภาค - ไม่แบ่งแยก

(8 มี.ค.66) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางมายื่นหนังสือถึง คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต. เพื่อให้ตรวจสอบ อธิบดีผู้พิพากษาฯ รองอธิบดีผู้พิพากษาฯ และ ผู้พิพากษา ที่นั่งบัลลังก์ ในกาพิจารณาเพิกถอนหมายจับ สมาชิกวุฒิสภา คนดัง ที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือถึง คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เป็นกรณีที่สืบเนื่องจากการอภิปรายทั่วไป 152 โดยในรอบนี้ตนเองทำตามระเบียบและพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรม มันจะเป็นไปซึ่งประโยชน์จริง ๆ อย่างที่ทุกคนทราบว่า ตนเองมีการอภิปราย 152 ข้อมูลหนึ่งที่ตนเองเปิดเผยออกมาคือ สว.ทรงเอ ซึ่งเป็นตัวละครที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและการฟอกเงิน ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ บช.ปส. ที่รับผิดชอบคดีนี้ ได้มายื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอออกหมายจับ หลังจากมาขอ ออกหมายจับ ในช่วงเช้า ของเดือนตุลาคม 2565 ศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว แต่ปรากฏว่า ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน มีการยกเลิกหมายจับ ดังกล่าว โดยสาเหตุสำคัญ ที่ปรากฏในคำอธิบายของผู้พิพากษา ที่ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาและมีการเขียนไว้ในคำสั่งเพิกถอนหมายจับ ว่าได้รับฟังคำแนะนำจากอธิบดีผู้พิพากษาฯ ว่า บุคคลที่ถูกออกหมายจับ หรือ สว.ทรงเอ เป็นบุคคลที่มีความสำคัญ และศาลไม่ทราบมาก่อน ว่า พนักงานสอบสวน มายื่นคำร้องเพื่อออกหมายจับบุคคลดังกล่าว จึงขอให้มีการถอนหมายจับ และขอให้พนักงานสอบสวน ออกหมายเรียก ก่อน

ซึ่งหากพิจารณา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา คดีที่มีอัตราโทษสูง ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและการฟอกเงิน โดยทั่วไปไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องมีการออกหมายเรียกก่อน สามารถที่จะดำเนินการออกหมายจับได้เลย และในชั้นต้น เดิมทีศาลก็คงจะเห็นด้วย ว่า บุคคลดังกล่าว เป็นวุฒิสมาชิกหรือไม่ จึงออกหมายจับให้ แต่ปัญหาในระบบกฎหมายของไทย ไม่ได้แบ่งแยกว่า การปฏิบัติกับวุฒิสมาชิก กับการปฏิบัติกับบุคคลธรรมดา ต้องมีความแตกต่างกัน เพราะหลักการของกฎหมาย ทุกคนมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน  

ต่อลมหายใจ!! ‘กบง.’ ไฟเขียว ตรึงราคา LPG-NGV ต่ออีก 3 เดือน แบ่งเบาภาระ ปชช. เริ่ม 1 เม.ย. - 30 มิ.ย. 66 นี้

(8 มี.ค 66) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติเห็นชอบการตรึงราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หรือก๊าซหุงต้ม โดยคงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG ที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนฯ ให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานกำกับดูแลสถานีบริการก๊าซ LPG ไม่ให้มีการลักลอบเติมก๊าซ LPG สำหรับรถยนต์ลงในถังก๊าซหุงต้ม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top