Saturday, 14 June 2025
ค้นหา พบ 48795 ที่เกี่ยวข้อง

อารยธรรมโบราณ!! พบ ‘ภาพเขียนสี’ แห่งใหม่ ถ้ำหินเพิง จ.นครราชสีมา ชี้ เป็นภาพเขียนยุคก่อนประวัติศาสตร์

ฮือฮา! ค้นพบภาพเขียนสียุคก่อนประวัติศาสตร์แห่งใหม่ ซึ่งเป็นแห่งที่ 4 ของจังหวัดนครราชสีมา บริเวณถ้ำหินเพิง เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าเขาภูหลวง 

เฟซบุ๊ก "กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา" ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า "เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา นักโบราณคดี จากกลุ่มโบราณคดี นายช่างศิลปกรรม จากกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน เเละเจ้าหน้าที่จากฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า สังกัดเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าเขาภูหลวง อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ร่วมเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เพื่อร่วมกันสำรวจ "ภาพเขียนสีพบใหม่" ณ ถ้ำหินเพิง เทือกเขาโซ่ โดยผลจากการสำรวจพบภาพเขียนสีรูปบุคคล สัตว์ เเละลายเส้นเรขาคณิตกระจายตัวอยู่หลายจุดทั่วเพิงหิน ซึ่งกลุ่มโบราณคดีของเรา จะนำเสนอองค์ความรู้ผลการสำรวจในโอกาสต่อไป"
.
นายชัยพร ทับทิมทอง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง จังหวัดนครราชสีมา ระบุผ่านทางเฟสบุ๊ก "ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ว่า สืบเนื่องจากการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ในการตรวจสอบแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า บริเวณเพิงถ้ำ ชุดลาดตระเวนตรวจพบร่องรอยภาพเขียนสีบริเวณผนังถ้ำ และรายงานให้หน่วยงานทราบต่อมาเขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง จึงได้ประสานสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมาเข้าตรวจสอบภาพเขียนสีดังกล่าว และเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา นักโบราณคดี จากกลุ่มโบราณคดี นายช่างศิลปกรรม จากกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน เเละเจ้าหน้าที่จากฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา พร้อมคณะเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง ร่วมเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เพื่อร่วมกันสำรวจ "ภาพเขียนสีพบใหม่" ณ ถ้ำหินเพิง เทือกเขาโซ่ ผลจากการสำรวจพบภาพเขียนสีรูปบุคคล สัตว์ เเละลายเส้นเรขาคณิตกระจายตัวอยู่หลายจุดทั่วเพิงหิน
.

 

เทใจให้ลุง!! คนสงขลา หนุน 'บิ๊กตู่' นั่งนายกฯต่อ แต่เชียร์ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ทั้งเขตและปาร์ตี้ลิสต์

5 มี.ค. 2566 -ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “คนสงขลาเลือกพรรคไหน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17-23 กุมภาพันธ์ 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดสงขลา กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,100 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคนจังหวัดสงขลาเลือกพรรคไหน การสำรวจอาศัย การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 95.0
.
จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่คนสงขลาจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 26.00 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ) เพราะ ซื่อสัตย์สุจริต มีความเด็ดขาด กล้าตัดสินใจ ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ และต้องการให้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง อันดับ 2 ร้อยละ 18.46 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย นโยบายของพรรคเพื่อไทยสามารถแก้ไขปัญหาราคาสินค้าทางการเกษตรได้ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบผลงานของตระกูลชินวัตร อันดับ 3 ร้อยละ 11.36 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ ต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เป็นคนมีวิสัยทัศน์ ชื่นชอบนโยบายและอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคก้าวไกล อันดับ 4 ร้อยละ 10.36 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 5 ร้อยละ 7.18 ระบุว่าเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคชาติพัฒนากล้า) เพราะ เป็นคนมีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และชื่นชอบนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า
.
อันดับ 6 ร้อยละ 6.73 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะ สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา ขณะที่บางส่วนระบุว่า เป็นคนใต้เหมือนกัน อันดับ 7 ร้อยละ 4.64 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ มีผลงานชัดเจน มีประสบการณ์ด้านการบริหารประเทศ และชื่นชอบนโยบายพรรคภูมิใจไทย อันดับ 8 ร้อยละ 4.18 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะ เป็นคนพูดจริงทำจริง ตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์สุจริต และชื่นชอบวิธีการทำงาน อันดับ 9 ร้อยละ 3.18 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะ ต้องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารประเทศ มีประสบการณ์ด้านการบริหาร และชื่นชอบนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย อันดับ 10 ร้อยละ 1.91 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ อันดับ 11 ร้อยละ 1.27 ระบุว่าเป็น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) เพราะ มีประสบการณ์ในการทำงาน และช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง อันดับ 12 ร้อยละ 1.09 ระบุว่าเป็น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) เพราะ เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต และตรงไปตรงมา และร้อยละ 3.64 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์(พรรคสร้างอนาคตไทย) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (พรรคไทยศรีวิไลย์) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ (พรรคพลังประชารัฐ) นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) และดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
 

3 หมื่นคนต้อนรับจุรินทร์ นำประชาธิปัตย์บุกพัทลุงเปิดตัว 3 ผู้สมัครส.ส. ขอทวงเก้าอี้คืน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า 4 มี.ค.2566 เมื่อเวลา 18.00 น. ที่สนามหน้าโรงเรียนพัทลุง จ.พัทลุง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำขุนพลปักษ์ใต้ ตั้งแต่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมช.มหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค นายชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรค นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย นายสาธิต วงค์หนองเตย ร่วมกันเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พัทลุง ทั้ง 3 เขต พร้อมกับปราศรัย ประชาธิปัตย์ ยุคใหม่ โอกาสใต้บ้านเรา ที่สนามโรงเรียนพัทลุงต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง โดยผู้สมัครเขต 1 น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.พัทลุง 2 สมัย  ผู้สมัครเขต 2 ดร.เดย์ ปิยะกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี ผู้สมัครเขต 3 นายร่มธรรม ขำนุรักษ์


ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ได้ปราศรัยตอนหนึ่งว่า เลือกตั้งเที่ยวนี้ พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่สุดพรรคหนึ่งในประวัติศาสตร์จังหวัดพัทลุง เพราะอย่างน้อยที่สุดเลือกตั้งเที่ยวหน้าจะเป็นการผนึกกำลังกันของ 4 ตระกูลสำคัญในจังหวัดพัทลุง 1. ตระกูลธรรมเพชร 2. ตระกูลขำนุรักษ์ 3. ตระกูลสุพรรณชนะบุรี และ 4. ตระกูลพัทลุงสามัคคี ซึ่ง 4 ตระกูลนี้ จะทำให้การเลือกตั้งเที่ยวหน้า ประชาธิปัตย์ยกทีม


และขอบคุณทุกกำลังใจ และอยากบอกว่าเลือกตั้งเที่ยวหน้ามีความหมายอย่างยิ่ง เพราะเป็นการกู้ศักดิ์ศรีของคนพัทลุงคืนมา ผมอยากจับมือกับพี่น้องทุกคน สู้กับสิ่งที่เราจำเป็นต้องสู้ในการเลือกตั้ง เพื่อพิสูจน์ว่าคนพัทลุงยังมีศักดิ์ศรี และคนพัทลุงจะไม่เลือกเงิน เพราะเชื่อว่า เงิน จะเป็นสิ่งที่เราต้องสู้ต่อไป และคนพัทลุงจะกินเหยื่อแต่ไม่กินเบ็ด เพราะถ้าเราเลือกเงิน เราก็จะได้แต่เงิน ไม่มีวันได้ผู้แทนที่มีคุณภาพ และเราจะไม่มีทางกู้ศักดิ์ศรีของคนพัทลุงคืนมาได้ ถ้าเลือกเงิน เราก็จะได้การเมืองแบบถอนทุนคืน เราจะได้การเมืองคอร์รัปชั่นทำลายประเทศและทำลายพัทลุง ที่เป็นอนาคตของพวกเราทุกคน
 วันนี้ขอแรงคนพัทลุงทุกคนมาจับมือกับประชาธิปัตย์ช่วยสนับสนุนคนดี ช่วยสนับสนุนนักการเมืองคุณภาพทั้ง 3 คน ที่เสนอตัวรับใช้พี่น้อง และมาช่วยกันสนับสนุนการเมืองสะอาด ประชาธิปไตยสุจริต ด้วยการเลือกทั้งคนทั้งพรรคของประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

รองโฆษก ตร. เตือนประชาชนระวังโจรออกอุบาย “เวียนเทียนออนไลน์” หลอกติดตั้งแอปดูดเงิน ย้ำตรวจสอบบัญชี “ทำบุญ” ก่อนโอนเงิน

วันนี้ (5 มี.ค.66) เวลา 08.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ดร.ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ระวังมิจฉาชีพใช้โอกาสวัน “มาฆบูชา” หลอกลวงออนไลน์

รองโฆษกฯ เปิดเผยสถิติคดีอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนร้องเรียนผ่านแจ้งความออนไลน์ เว็บไซต์ thaipoliceonline.com ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีจำนวนถึง 21,760 คดี ยอดความเสียหายรวมสูงกว่า 1,771 ล้านบาท โดย 5 ลำดับสูงสุด ได้แก่ 1) หลอกลวงซื้อขายสินค้า 2) หลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม 3) หลอกลวงทางโทรศัพท์เป็นขบวนการ (Call Center) 4) หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน และ 5) หลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณฯ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกลุ่มโจรออนไลน์มักจะอาศัยจังหวะวันสำคัญทางศาสนา และเทศกาลต่างๆ ฉวยโอกาสหลอกลวงประชาชน ในช่วงวันมาฆบูชานี้ จึงขอแจ้งเตือนถึงรูปแบบอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ที่โจรออนไลน์อาจใช้ในการหลอกลวงประชาชน ดังนี้ 
1. “เช่าวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลังออนไลน์” หลอกให้โอนเงินก่อน แต่ไม่จัดส่งสินค้า ส่งสินค้าปลอม ไม่ตรงปก 
2. “เวียนเทียนออนไลน์” หลอกติดตั้งแอปฯ รีโมท เพื่อทำการดูดเงิน 
3. “ทำบุญออนไลน์” หลอกให้โอนเงินทำบุญ ด้วยการให้หมายเลขบัญชีปลอม 
4. “ใบอนุโมทนาบัตรออนไลน์ ลดหย่อนภาษี” หลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัว 
5. “สะเดาะเคราะห์ แก้กรรม ดูดวงออนไลน์” หลอกเอาข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด รูปถ่าย 

 

หยุมหยิมไร้สาระ!! 'โบว์ ณัฏฐา' ซัด กกต. ออกระเบียบหยุมหยิม เปิดช่องฟ้องร้องคดีรกศาล – ชี้กฎบางข้ออาจขัด รธน.

โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง กล่าวให้ความเห็นในรายการ Ringsideการเมือง ถึงกรณีการร้อง MV เช้าวันใหม่ ของพรรคประชาธิปัตย์อาจเข้าข่ายผิดระเบียบการหาเสียงเลือกตั้ง ว่า ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้งนั้น ยาวมากเป็นร้อย ๆ หน้า และมีกฎจำนวนมากที่หยุมหยิมไร้สาระ อย่างเรื่องห้ามการแสดงต่างๆ ก็เป็นอย่างหนึ่งที่ไร้สาระ ตั้งต้นจากความคิดแบบดูถูกประชาชน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎข้อที่ว่าห้ามไม่ให้ดารา-นักร้อง หาเสียง โดยการแสดงที่มีอุปกรณ์ประกอบ ซึ่งดูแล้วไม่สมเหตุสมผล เป็นกฎที่ดูถูกประชาชนที่เป็นผู้ใช้สิทธิ์ ขณะที่อาชีพหมอ ซึ่งมีความน่าเชื่อถือในสังคมมากกว่าดารา-นักร้องด้วยซ้ำ กลับไม่ถูกห้าม 

อีกทั้ง มองว่า กฎระเบียบของกกต. ข้อดังกล่าว อาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญอีกด้วย เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดชัดว่า ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งการที่นักแสดง ดารา - นักร้อง ซึ่งเป็นอาชีพที่ติดตัวมาก่อนจะสมัครรับเลือกตั้ง เหตุใดจึงห้ามไม่ให้ใช้วิชาชีพที่ติดตัวมาในการร้องเพลงให้คนฟัง

กฎหลายข้อเปิดช่องให้คนจับผิดกันตลอดเส้นทางการหาเสียงเลือกตั้ง เกิดคดีรกโรงรกศาลในกระบวนการ สิ้นเปลืองทรัพยากรมากมาย สภาพการเมืองไทยดูไม่สร้างสรรค์ ส่วนหนึ่งก็เกิดจากผู้ออกกฎตั้งต้นมาอย่างไม่สร้างสรรค์ด้วย

กกต.นอกจากจะออกกฎที่ไม่เข้าท่าแล้ว ก็ยังหลีกเลี่ยงการชี้แจงอธิบายความเมื่อสื่อขอสัมภาษณ์ คงหลงผิดคิดว่าตัวเองเป็นศาล ซึ่งไม่ใช่ การจัดการเลือกตั้งที่ดีต้องเริ่มจากที่ทุกคนเข้าใจกติกาตรงกัน ไม่ใช่รอให้เกิดเหตุ เขาจับผิดกัน แล้วค่อยรอดำเนินคดีรกๆ มากมาย เริ่มต้นก็ไม่โปร่งใสแล้ว

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top