Tuesday, 17 June 2025
ค้นหา พบ 48864 ที่เกี่ยวข้อง

ทะลุเป้าปี 65!! ททท. ฉลองต่างชาติเที่ยวไทยครบ 10 ล้านคน พร้อมเดินหน้าดันยอดสู่ 20 ล้านคนในปี 66

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่งการบ้านรัฐบาล จัดงาน ‘Amazing Thailand 10 Million Celebrations’ เฉลิมฉลองโอกาสสำคัญ
ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ครบ 10 ล้านคน (ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ตามเป้าหมายส่งเสริมตลาดต่างประเทศของปี 2565 ของ ททท. ณ ท่าอากาศยานสำคัญ 7 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ สนามบินสมุย และด่านพรมแดนทางบก 2 แห่ง ได้แก่ ด่านพรมแดนสะเดา และด่านพรมแดนหนองคาย 

อีกทั้ง เป็นการขอบคุณนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่ให้ความเชื่อมั่นในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และประกาศความสำเร็จแบรนด์ Amazing Thailand ตอกย้ำความเชื่อมั่นประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในใจนักท่องเที่ยว เตรียมเดินหน้าดันยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติสู่ 20 ล้านคนในปี 2566

ทั้งนี้ การจัดงาน ‘Amazing Thailand 10 Million Celebrations’ ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้รับเกียรติจาก นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท. นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ททท. นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเชียงใหม่ นายณัฐวุฒิ ทาอินต๊ะ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายปฏิบัติการ) นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวเพ็ญภัสสร คงสิริ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และนายพรเทพ อรรถกิจไพศาล ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ เข้าร่วมให้การต้อนรับและมอบของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยวเวียดนาม จำนวน 180 คน ที่เดินทางด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 907 จากเมืองดานัง ถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 12.30 น. และนักท่องเที่ยวฮ่องกง จากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง จำนวน 180 คน ที่เดินทางด้วยสายการบินฮ่องกงเอ็กซเพรส เที่ยวบิน UO 754 จากฮ่องกง ถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 18.50 น. ซึ่งวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง

‘นิด้าโพล’ เผยผลสำรวจ ‘6 พรรคกับโอกาสได้เป็น รบ.’ ชี้!! ‘เพื่อไทย’ พุ่งอันดับ 1 ส่วน ‘ก้าวไกล’ ครองอันดับ 2

(11 ธ.ค. 65) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง ‘6 พรรคกับโอกาส ได้เป็นรัฐบาล’ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7-9 ธันวาคม 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับ 6 พรรคกับโอกาสได้เป็นรัฐบาล การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ ‘นิด้าโพล’ สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูล ด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

จากการสำรวจเมื่อให้ประชาชนวิเคราะห์ถึงโอกาสที่พรรคการเมือง ทั้ง 6 พรรค ซึ่งกำลังมีกระแสข่าวการไหลเข้า-ออก ของนักการเมือง จะได้เป็นรัฐบาล ภายหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า พบว่า

1. พรรคเพื่อไทย (นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว/น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) 

ร้อยละ 40.38 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก 

ร้อยละ 32.44 ระบุว่า ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน

ร้อยละ 16.88 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างน้อย

ร้อยละ 8.24 ระบุว่า ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน 

ร้อยละ 2.06 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

2. พรรคก้าวไกล (นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์) 

ร้อยละ 31.45 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างน้อย 

ร้อยละ 30.23 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก

ร้อยละ 23.66 ระบุว่า ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน

ร้อยละ 11.00 ระบุว่า ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน 

ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

3. พรรคพลังประชารัฐ (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) 

ร้อยละ 33.51 ระบุว่า ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน 

ร้อยละ 32.60 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างน้อย

ร้อยละ 20.38 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก 

ร้อยละ 10.76 ระบุว่า ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน 

ร้อยละ 2.75 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

4. พรรครวมไทยสร้างชาติ (นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค/พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) 

ร้อยละ 43.12 ระบุว่า ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน 

ร้อยละ 31.45 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างน้อย

ร้อยละ 15.73 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก

ร้อยละ 5.73 ระบุว่า ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน 

ร้อยละ 3.97 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

5. พรรคภูมิใจไทย (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) 

ร้อยละ 39.16 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างน้อย 

ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน

ร้อยละ 21.60 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก

ร้อยละ 4.96 ระบุว่า ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน

ร้อยละ 3.44 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

6. พรรคประชาธิปัตย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) 

ร้อยละ 40.69 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างน้อย 

ร้อยละ 38.93 ระบุว่า ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน

ร้อยละ 13.20 ระบุว่า โอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก

ร้อยละ 4.58 ระบุว่า ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน 

ร้อยละ 2.60 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อกระแสข่าวข้อตกลงการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย ภายหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 45.65 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย เพราะ เป็นเพียงแค่กระแสข่าวลือ โอกาสเป็นไปได้ยาก เนื่องจากอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกัน

รองลงมา ร้อยละ 29.24 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ เพราะ ทั้งสองพรรคต่างต้องการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้ การนำของตนเองจึงไม่น่าจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลได้

ร้อยละ 16.64 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ เพราะ การเมืองเป็นเรื่องของการหาผลประโยชน์ จึงมีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองพรรคจะตกลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน

ร้อยละ 5.19 ระบุว่า เชื่อมาก เพราะ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทยเคยมีความสัมพันธ์กันในอดีต จึงอาจมีการหารือเพื่อตกลงเรื่องผลประโยชน์หากได้เป็นรัฐบาลร่วมกัน และร้อยละ 3.28 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่แน่ใจ

‘พ่อค้าร้านบะหมี่’ ยืนป้อนบะหมี่หนุ่มพิการจนอิ่มท้อง ชาวโซเชียลแห่ชื่นชม ชี้!! คนแบบนี้ที่สังคมต้องการ

เมื่อวานนี้ (10 ธ.ค. 65) สมาชิก TikTok @joy32538 โพสต์คลิปที่ดูแล้วทำให้รู้สึกอิ่มใจ เพราะสิ่งที่พ่อค้าร้านบะหมี่ทำ มันเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำใจ โดยระบุข้อความว่า ‘คนเราเลือกเกิดไม่ได้ #ฟลุ๊คบะหมี่เกี๊ยว #สมุทรปราการ’ และ ‘เห็นแล้วยิ้มตามเลย พ่อค้าร้านบะหมี่’

โดยในคลิป พ่อค้าร้านบะหมี่ กำลังป้อนบะหมี่ให้กับหนุ่มพิการแขนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพ่อค้าลอตเตอรี่ นั่งอยู่บนรถสามล้อไฟฟ้า หลังเรียกให้จอดแล้ว นำบะหมี่ไปให้รับประทาน โดยป้อนอย่างไม่เร่งรีบ

หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ก็มีคนเข้ามาชื่นชมพ่อค้าร้านบะหมี่เป็นจำนวนมาก เช่น

-มากกว่าการได้ขาย คือการมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ ขอให้ค้าขายเจริญๆๆ

-สุดเลยพ่อค้า นายมันแน่ นับถือ เฮงๆ รวยๆ ไม่มีวันหยุดนะครับ เห็นแล้วชุ่มใจมากๆ🥰🥰

-น้ำใจงามมาก ทำต่อไปนะครับ ขอให้กิจการเจริญรุ่งเรือง.. 🤟🙏🤟🙏🤟🙏

นอกจากนี้ยังชื่นชมว่ามีจิตใจประเสริฐ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และอยากไปอุดหนุนบะหมี่ร้านนี้

‘อุ๊งอิ๊ง’ ปลื้ม!! ร้านบะหมี่ในกรุงเก่า ขานรับขึ้นค่าแรง ‘เศรษฐา’ ชง เป็นนโยบายสร้างแรงบันดาลใจและความหวัง

(11 ธ.ค. 65) จากรณีที่พรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายแบบคิดใหญ่ ปรับค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท ภายในปี 2570 ทำให้เป็นกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น ทั้งสนับสนุนและไม่เห็นด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีร้านก๋วยเตี๋ยว บะหมี่เกี๊ยวเย่หลิว สาขาอยุธยา โพสต์รูปภาพป้ายหน้าร้านขนาดใหญ่ผ่านทวิตเตอร์ โดยมีข้อความในป้ายดังกล่าว ว่า พร้อมจ่ายค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท ภายในปี 2570

ล่าสุด ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร โพสต์ข้อความทวิตเตอร์ส่วนตัว @ingshin ระบุว่า...อมยิ้มแล้ว 1

จากนั้นนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ทวีตข้อความ น.ส.แพทองธาร พร้อมระบุข้อความว่า “คนเราอยู่ได้เพราะมีความหวัง หน้าที่ผู้นําคือสร้างแรงบันดาลใจที่มีความเป็นไปได้ให้เขาลุกขึ้นมาทำงานทุกวัน ค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้นเป็นหนึ่งในหลาย ๆ วิธีที่จะลดความเหลื่อมล้ำที่ถ่างขึ้นทุก ๆ วัน ผมมีความหวังครับ และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจ”

ทั้งนี้ มีชาวทวิตเตอร์เข้ามาขอให้นายเศรษฐา ขยายความประโยชน์ที่ว่า ‘พร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจ’ ตามที่ทวีตข้อความ โดยนายเศรษฐาตอบว่า ‘CEO แสนสิริ มีเครือข่ายเยอะครับ’

‘ตร.- ปคม.’ บุกทลายร้านสปาย่านเมืองนนท์ รวบ ‘สองผัวเมีย’ ค้ากามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี

เมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. ที่สภ.บางศรีเมือง พ.ต.อ.นภธร วาชัยยุง ผกก.สภ.บางศรีเมือง, พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บางศรีเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์, กองกำกับการสืบสวนจังหวัดนนทบุรี ร่วมกันเข้าจับกุม นาย วิทยา อิ่มหนำ กับ น.ส. ธนภร ชัยมูลวงศ์ สามีและภรรยา เป็นเจ้าของร้าน ถูกจับและตั้งข้อหาจำนวน 10 ข้อหา จะเน้น 2 ข้อหาหลักคือ 

1.ร่วมกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี 

2. ร่วมกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์ อายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี พร้อมด้วยเยาวชนหญิงอายุ 15-17 ปี จำนวน 8 คน ที่ร้านนวดดีน่าสปา ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

โดยใช้วิธีการล่อซื้อบริการทางเพศกับเยาวชนกลุ่มดังกล่าว พบว่ามีการซื้อบริการทางเพศจริงภายในร้านดังกล่าว ลักษณะร้านเป็นตึกแถว 3 ชั้น แต่ละชั้นจะมีห้องรับรองแขกจำนวน 2-3 ห้อง หลังจากการตรวจสอบทราบว่าเด็กเยาวชนทั้งหมดเดินทางจากบ้านเกิดที่จังหวัดอุดรธานี มาทำงานในร้านดังกล่าวในจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากมีเพื่อนแนะนำมา ในการใช้บริการทางเพศจะมีราคา 500 บาท 800 บาท และ 1,000 บาท ในระยะเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, บ้านพักเด็กและครอบครัว เพื่อทำหนังสือส่งตัวเยาวชนทั้งหมดไปที่บ้านพักเด็ก จ.นนทบุรี และจะทำการติดต่อผู้ปกครองของเด็กทุกคน ซึ่งผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่ามีการมาทำงานขายบริการทางเพศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top