Sunday, 22 June 2025
ค้นหา พบ 48945 ที่เกี่ยวข้อง

‘ตำรวจ’ เปิดปฏิบัติการ ‘ชัตดาวน์บ่อขยะเถื่อน’ ลุยตรวจ 16 จุดทั่วกรุงฯ รวบผู้ทำผิดได้ 7 คน

วันที่ (1 ธ.ค. 65) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. สั่งการให้พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม), พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ท.เอกพล ปัญจมานนท์ สว.กก.1 บก.ปทส. นำกำลัง เปิดปฏิบัติการ SHUT DOWN!! บ่อขยะเถื่อนทั่วกรุง Season 2 เข้าตรวจสอบเป้าหมายในเขตต่าง ๆ 16 จุดทั่วกรุงเทพฯ ได้แก่ เขตลาดกระบัง 3 จุด, เขตสะพานสูง 3 จุด, เขตประเวศ 1 จุด, เขตมีนบุรี 2 จุด, เขตคลองสามวา 1 จุด, เขตบึงกุ่ม 1 จุด, เขตบางแค 1 จุด, เขตหนองแขม 2 จุด, เขตสวนหลวง 2 จุด ที่มีการลักลอบเปิดบ่อขยะเถื่อน ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนเป็นมลพิษทางอากาศ ซึ่งจากการกำจัดขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกวิธี อีกทั้งยังกลายเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรครวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไปสู่แหล่งน้ำและพื้นที่ใกล้เคียง 

ส่วนผลปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดได้ 7 คน คือนายพัฒพร ถาวร อายุ 29 ปี, น.ส.บัวไทย นนเทศา อายุ 40 ปี, นายป่าน ภาคแก้ว อายุ 61 ปี, นายอภิสิทธิ์ กิจเกียรติ์ อายุ 27, ปี น.ส.นงค์ลักษณ์ สงเมือง อายุ 28 ปี, นายกิตติศักดิ์ สิริกิตติสุนทร อายุ 42 ปี และน.ส.ชัญญา สอนพ่วง อายุ 48 ปี 

รู้จัก ‘สุนทร ปานแสงทอง’ รัฐมนตรีใหม่ป้ายแดง จากโควตาบ้านใหญ่สมุทรปราการ

รู้จัก ‘สุนทร ปานแสงทอง’ รัฐมนตรีใหม่ป้ายแดง จากโควตาบ้านใหญ่สมุทรปราการ

‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้ง นายสุนทร ปานแสงทอง เป็นรัฐมนตรีช่วย (รมช.) ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่ามกลางเสียงถามอื้ออึงว่า ‘สุนทร ปานแสงทอง’ เป็นใคร มาจากไหน

หลังนายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณปรับ ครม.ก็มีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า กลุ่มปากน้ำได้โควตารัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง และส่งชื่อไปให้นายกรัฐมนตรีแล้ว ‘เป็นผู้ชาย และเป็นคนนอก’

รัฐมนตรีใหม่ป้ายแดงคนนี้ มีตำแห่นงทางการเมืองก่อนหน้านี้ เป็น รองนายก อบจ.สมุทรปราการ ที่มี ‘ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย’ เป็นนายกฯ อบจ. ภายใต้การสนับสนุนของ ‘ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม’ บ้านใหญ่ปากน้ำ

ตามประวัติไม่เคยผ่านการเป็น ส.ส.มาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ข้องแวะเพียงแค่การเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 สมุทรปราการ เมื่อปี 2548 ให้กับ ‘พรรคมหาชน’ และเป็นผู้สมัครเขต 4 สมุทรปราการ ในนามพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งปี 2562 เท่านั้น

ในทางการเมือง ถือเป็นคนที่มีโปรไฟล์ชัด มาจากบ้านใหญ่ อัศวเหม 

ซึ่งเรื่องนี้ สอดคล้องกับที่เจ้าตัวออกมาขอบคุณ หลังได้รับโปรดเกล้าฯ

“ขอบคุณกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ที่นำโดย นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ที่สนับสนุนการทำงานและผลักดัน ให้รับหน้าที่ในตำแหน่ง”

ดังนั้น เมื่อ นายชนม์สวัสดิ์ สนับสนุน โควตานี้ก็ถือเป็นของพรรคพลังประชารัฐ ตามที่ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ เคยรับปากกับ ‘กลุ่มปากน้ำ’ ไว้

ทั้งนี้ หากจำกันได้ การรับปากดังกล่าว เกิดขึ้นจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจในรอบที่ผ่านมา ที่ ส.ส.กลุ่มปากน้ำไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

6 ส.ส.กลุ่มปากน้ำ อันประกอบด้วย นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ส.ส.บัญชีรายชื่อ กับอีก 5 ส.ส.สมุทรปราการ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก, นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ, น.ส.ภริม พูลเจริญ, นายยงยุทธ สุวรรณบุตร, นายอัครวัฒน์ อัศวเหม ออกมาเขย่าเก้าอี้ ‘มท.1’ ของ ‘บิ๊กป๊อก’ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ให้เสียวสันหลังวาบ

ด้วยการโหวตสวนมติพรรคตัวเอง ลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ พร้อมๆ กับการเรียกร้องให้ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค มานั่งในตำแหน่ง มท.1 แทนด้วย

โดย นายกรุงศรีวิไล เรียกการโหวตสวนในคราวนั้นว่า เป็นการกระตุกหนวดเสือ

‘อิ๊ง’ เตรียมโชว์วิสัยทัศน์ ลุยแลนด์สไลด์ทั่วประเทศ ภายใต้แคมเปญ ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’

วันที่ (1 ธ.ค. 65) เวลา 10.15 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวประกาศเปิดการรณรงค์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ พรรคเพื่อไทยจะจัดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี ภายใต้ชื่องาน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) และกรรมการสรรหาแทนตำแหน่งที่ว่างลง นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมที่สำคัญคือการเปิดรณรงค์การเลือกตั้ง ประกาศคิกออฟแคมเปญการเลือกตั้งปี 2566 ของพรรคเพื่อไทย

'สุรเชษฐ์' โอด!! 'สภาปัดถก-ปิดประตูคำตอบ' กรณีส่วนต่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม 68,613 ล้านบาท

‘สุรเชษฐ์’ ผิดหวัง ไม่ได้คำตอบกรณีส่วนต่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม 68,613 ล้านบาท เตรียมส่งจดหมายถามครม.

(1 ธ.ค. 65) สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่าตนได้ติดตามกรณี แถลงข่าวความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีส้มมาโดยตลอด หลังพบความผิดปกติทั้งการฮั้วประมูล เปลี่ยนเกณฑ์การประมูลอย่างมีผลต่อการแพ้ชนะ ซึ่งความผิดปกตินี้จะทำให้รัฐเสียหายสูงถึง 68,613 ล้านบาท และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สุรเชษฐ์ได้ยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อขอตรวจสอบความผิดปกติดังกล่าว แต่ก็ล่มไปด้วยการโหวตของคว่ำของส.ส.ฝั่งรัฐบาล

สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า ตนผิดหวังที่สภาปัดตกไม่ให้มีการพูดคุยถึงกรณีส่วนต่างดังกล่าว สุรเชษฐ์ ยังย้ำอีกว่า พรรคก้าวไกลและตนได้ยื่นหนังสือไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบข้อเท็จจริง กรณีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ว่าจะมีความเสียหาย 68,000 ล้านบาท 

สุรเชษฐ์ ยังกล่าวย้ำว่า ตนจะส่งหนังสือไปยังรัฐมนตรีรายบุคคลว่า ควรอ่านรายละเอียดของกรณีรถไฟฟ้าสายสีส้ม หรือต่อให้ไม่ว่างจริงๆ ก็ควรที่จะให้ทีมงานช่วยอ่านให้ฟัง เพราะกรณีนี้สร้างความเสียหายต่อรัฐอย่างมาก และก็ได้มาแถลงต่อหน้าสื่อมวลชน ว่าจะมอบหนังสือเพื่อตรวจสอบกรณีรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยมีเนื้อหา ทั้งหมด 7 ประเด็น ที่ทำให้คณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต้องออกมาชี้แจงด้วยตนเอง ดังนี้...

ประเด็นที่ 1 การเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลกลางอากาศที่มีนัยสำคัญต่อการแพ้ชนะต่อการประมูล 

ประเด็นที่ 2 การยกเลิกการประมูลครั้งก่อนเมื่อ 2563 ที่ศาลปกครองระบุแล้วว่า เป็นการยกเลิกมิชอบด้วยกฎหมาย

‘บิ๊กโจ๊ก’ ชี้!! คดีทุนจีนสีเทา คืบหน้ากว่า 90% ลั่น!! ไม่มีมวยล้ม แม้ต้องสู้กลุ่มอำนาจเงิน

(1 ธ.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการดำเนินคดีกลุ่มทุนจีนผิดกฎหมาย ว่า เรื่องดังกล่าวตนรายงานพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งผบ.ตร. จะเป็นผู้รายงานนายกรัฐมนตรี โดยเรื่องนี้ นายกฯ ได้กำชับครั้งล่าสุดในที่ประชุม ก.ตร. ว่าให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันเราทำงานยึดหลักกฎหมายตรงไปตรงมา สาวถึงใครก็ว่าไปตามนั้น ถ้าไม่ถึงก็ต้องให้ความเป็นธรรม 

รองผบ.ตร. กล่าวว่า อย่างไรก็ตามการดำเนินคดีนี้ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่เพราะเราใช้กำลังเยอะมาก ทำให้ต้องใช้เวลาเยอะ เช่น กรณีวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ใช้เวลาทั้งวัน ค้น 3-4 จุด ยึดทรัพย์ 4,000 กว่าล้านบาท ที่เป็นวัตถุทั้งบ้าน รถ เครื่องบิน และต้องนำทรัพย์ที่ยึดมาได้มาโยงเส้นทางการเงิน และยังต้องไล่ต่อว่ายังมีเงินสดอีกหรือไม่แล้วอยู่ที่ไหน

เมื่อถามว่า ปัจจุบันยังมีกลุ่มทุนผิดกฎหมายอยู่ในเมืองไทยอีกหรือไม่ รองผบ.ตร. กล่าวว่า คิดว่าวันนี้หนีออกไปเยอะแล้ว กลุ่มเหล่านี้หลบหนีจากจีนมาอยู่กัมพูชา เมื่อถูกกวาดล้างหนักก็หนีมาอยู่ไทยและสปป.ลาว เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนได้คุยกับ ผบ.ตร.สปป.ลาว เมื่อเราจับมือกันแบบนี้ คนสองสัญชาติ ก็ต้องไม่มีแผ่นดินอยู่ ไปอยู่ที่อื่น

วันนี้กลุ่มคนที่อยู่แบบผิดกฎหมายที่ไม่ใช่กลุ่มทุนจีนที่มีปัญหา เขาก็หนีไปเป็นร้อยคนแล้ว เพราะเขาก็กลัวจึงออกไปก่อนดีกว่า แต่หลังจากนี้เราต้องเข้มงวดตั้งแต่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และการให้วีซ่า อย่างกรณีการจับกุม นายโทนี่ หรือนายเฉิน จ้าวฮุ้ย ที่ถือวีซ่าธุรกิจ ก็ต้องตรวจสอบว่าออกได้อย่างไร ถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกก็ต้องเพิกถอน หากใครเกี่ยวข้องกับการให้วีซ่าที่ไม่ถูกกฎหมายต้องถูกดำเนินคดีหมด เช่นวีซ่านักเรียนที่ให้กับคนอายุ 57 ปี แบบนี้ออกมาได้อย่างไร ต้องถูกดำเนินคดีแน่ไม่ปล่อยไว้ เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาเพื่อลงทุน แต่มาก่ออาชญากรรม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top