Friday, 27 June 2025
ค้นหา พบ 49042 ที่เกี่ยวข้อง

‘สี จิ้นผิง’ ประกาศ เตรียมจัดฟอรั่ม BRI ปี 66 ฟื้นเศรษฐกิจ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ขยายฐานลงทุน

(18 พ.ย. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งของการกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม APEC 2022 ที่ประเทศไทย ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งมีแผนจัดฟอรั่มการประชุม 'หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ครั้งที่ 3' (3rd Belt & Road Forum for International Cooperation) ในปีหน้า ซึ่งจะเป็นครั้งแรกหลังโลกผ่านพ้นการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ด้วย

โดยโครงการ Belt & Road หรือ BRI เป็นผลงานโดดเด่นที่ริเริ่มโดยประธานสี เป็นโครงการเพื่อส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาค โดย ฟอรั่มการประชุม 'หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ' เคยถูกจัดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วสองหน ในปี ในปี 2560 และ 2562

แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และมาตรการ 'โควิดเป็นศูนย์' ของจีน ทำให้ห่างหายจากฟอรั่มการประชุมดังกล่าวไป

โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ จีนได้เริ่มผ่อนปรนการใช้นโยบายปลอดโควิดที่เข้มงวด แม้จะต่อสู้กับการแพร่ระบาดที่เพิ่มสูงขึ้นในหลาย ๆ พื้นที่ โดยนักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดประเทศมากกว่านี้ที่ในช่วงเดือนมีนาคมหรือเมษายน ปี 2566

‘ตรีชฎา’ แนะ ‘ทิพานัน’ เลิกชม ‘ชายใช้รถถังยึดอำนาจ’ พร้อมชู ‘ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์’ ผู้นำที่คนไทยยกย่องจดจำ

(18 พ.ย. 65) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุว่าพรรคเพื่อไทยหวั่นไหวและหวาดกลัวกับความสำเร็จของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในการจัดการประชุมเอเปคว่า อยากให้น.ส.ทิพานันนำพาตัวเองออกมาจากฝัน และรับความจริงให้ได้ว่าหลังเป็นนายกฯ มา 8 ปี ความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างไร จากผลโพลหลายสำนักพบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แม้เพิ่งเข้าสู่การเมืองไม่นาน ยังเอาชนะใจประชาชนได้ทุกภูมิภาคของประเทศ คะแนนความเป็นผู้นำแซงพล.อ.ประยุทธ์แบบไม่เห็นฝุ่น เพราะพี่น้องประชาชนสิ้นหวังแล้ว อยากได้ผู้นำคนใหม่ที่นำพาความหวังมาสู่ประเทศไทย อยากหลุดพ้นจากวงจรแห่งความตกต่ำนี้เต็มที่แล้ว 

ส่วนที่น.ส.ทิพานันระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มาจากเผด็จการ แต่มาจากการเลือกตั้งที่มีกติกาเดียวกันกับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งปี 2562 นั้น ในคราวนั้นน.ส.ทิพานันลงสมัคร ส.ส.แต่สุดท้ายประชาชนไม่ได้เลือกเข้ามา คงยังไม่เข้าใจว่าการมีที่มาจากการเลือกตั้งอย่างสง่างามนั้นเป็นอย่างไร อาจจะยังไม่รู้ชัดแจ้งว่าแท้จริงแล้วพล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ยึดอำนาจมาจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในปี 2557 ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์มาจากการเลือกของพี่น้องประชาชนเช่นเดียวกับนายทักษิณ ชินวัตร 

น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า การเข้ามาเป็นผู้นำประเทศจากเสียงบริสุทธิ์ของประชาชน กับผู้นำซึ่งมีที่มาจากปลายกระบอกปืน แบบไหนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความสง่างามมากกว่ากัน และในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ตามกติกาในระบอบประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยต้องได้เป็นรัฐบาล แต่ภายใต้กติกาที่บิดเบี้ยว ให้อำนาจ ส.ว.ที่มาจากการสรรหาโดยหัวหน้าคณะรัฐประหาร สามารถเลือกนายกฯ ได้ แม้แต่สมาชิกของพรรคพลังประชารัฐที่น.ส.ทิพานันสังกัดอยู่ยังออกมายอมรับว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับดีไซน์มาเพื่อพวกเรา การเข้าสู่อำนาจจากกติกาที่ไม่เป็นธรรมเป็นเรื่องที่ไร้ศักดิ์ศรี น่าละอายและขายหน้าไปทั่วโลกใช่หรือไม่

รัฐบาลเผยเหตุ 'สี จิ้นผิง' ไม่จับมือนายกฯ เหตุ!! จีนเข้มมาตรการป้องโควิด-19

'โฆษกรัฐบาล' แจงปมดราม่า 'สี จิ้นผิง' เมิน จับมือ 'บิ๊กตู่' เหตุ จีนเข้มมาตรการป้องโควิด-19 

(18 พ.ย. 65) ที่ศูนย์สิริกิติ์ฯ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์กรณีที่ปรากฎภาพประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ปฎิเสธการจับมือทักทายกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่า...

ฟ้าเปิด!! สินค้าเกษตรไทย หลังปิดฉาก APEC 2022 คาด!! กลุ่มพรีเมียมมาแรง แซงป้ายเข้าตลาดจีน

เป็นข่าวดีของคนไทยที่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ประเทศจีนกับกระทรวงพาณิชย์ประเทศไทย ซึ่งจะมีการลงนามในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและสินค้าไทย สามารถเข้าถึงตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของจีนได้ 

โดยเฉพาะสินค้าเกษตรแปรรูปและผลไม้พรีเมียมของไทย ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในจีน ปัจจุบันจีนมีตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่มาก โดยปี 2564 มีมูลค่าการค้าสูงถึง 77.55 ล้านล้านบาท มียอดผู้ซื้อออนไลน์ประมาณ 842.1 ล้านคน

นี่จึงเป็นสิ่งเราต้องมาตั้งคำถามกับตัวเองแล้วว่า หากมีการลงนามเรียบร้อยแล้ว เกษตรกรไทยควรจะพัฒนาสินค้าเกษตร ที่อยู่ในมือของตัวเองอย่างไรให้พรีเมี่ยม วันนี้ทีมข่าว THE STATES TIMES จะพามารู้จักแนวคิด ต้นแบบการทำสินค้าเกษตรไทยให้พรีเมียม โดยคุณวันทนา ศรีอาคาร ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท สหพันธ์ฟู้ดส์ จำกัด ที่นำเอาปลาโอ ปลาทูน่ามาแปรรูปให้อยู่ในรูปแบบของทูน่าหยอง ยกระดับสินค้าให้พรีเมียม

โดยจุดเริ่มต้นของการทำทูน่าหยอง เริ่มจากการที่เจ้าของธุรกิจมีแพปลาเป็นของตัวเอง ซึ่งปลาที่นำมาผลิตเป็นปลาทูน่า ปลาโอของไทย และได้นำมาแปรรูปเป็นทูน่าหยองโดยจะมีลักษณะคล้าย หมูหยอง หรือ ไก่หยอง ซึ่งในทูน่าหยองนั้นจะมีโอเมก้าที่ได้จากปลา สามารถตอบโจทย์คนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้การผลิตยังใช้เนื้อปลาล้วน 100% รวมถึงแยกก้างปลาออกและเอาแค่เนื้อปลาล้วนมาแปรรูป

ทูน่าหยองถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะในไทยยังไม่เคยมีใครทำ นี่ถือว่าเป็นแบรนด์เจ้าแรก ๆ ที่เริ่มผลิตและขาย สำหรับกลยุทธ์ในการทำการตลาดนั้นจะเน้นขายออนไลน์ และเปิดตัวสินค้าตามบูธในงานแสดงสินค้าต่าง ๆ โดยทางแบรนด์ยังเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ที่ให้การสนับสนุนเรื่อง R&D แนะนำและให้องค์ความรู้ในการต่อยอดธุรกิจให้สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแนะนำเรื่องการปรับปรุงแพคเกจจิ้งให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ทำให้ตั้งแต่ได้รับคำปรึกษาและความรู้เหล่านั้น ทางแบรนด์นำมาปรับปรุงให้สินค้ายกระดับมาตรฐานให้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันทูน่าหยองมีราคากระปุกละ 65 บาท ขนาด 50 กรัม เก็บรักษาได้ประมาณ 4 เดือน

นี่เป็นแนวคิดที่น่าสนใจให้เกษตรกรไทยนำไปปรับใช้ได้ คือการมองหาสิ่งที่แตกต่าง แปลกใหม่ ดึงจุดเด่นของตัวเองที่ไม่เหมือนกับคนอื่นออกมา 

หรือจะมาดูตัวอย่างสินค้าอีกชนิดที่น่าสนใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ นั่นคือ 'มะพร้าว' คุณรู้หรือเปล่าว่าจีนปลูกมะพร้าวได้ แต่กำลังการผลิตคิดเป็น 10% ของความต้องการบริโภคเท่านั้น สถิติปี 2564 มณฑลไห่หนานมีกำลังการผลิตมะพร้าวได้ 250 ล้านลูก แต่ตลาดจีนมีความต้องการบริโภคมะพร้าวสูงถึง 2,600 ล้านลูก ยังไม่รวมความต้องการมะพร้าวเพื่อการแปรรูปอีก 150 ล้านลูก 

เมื่อมามองที่มะพร้าวไทยส่งออกไปจีน พบว่าช่วง 9 เดือนแรก ปี 2565 ประเทศจีนนำเข้ามะพร้าวทั้งกะลาจากไทยไปแล้ว 382,539 ตัน ปริมาณเพิ่มขึ้น 68.55% (YoY) รวมมูลค่า 2,169 ล้านหยวน หรือเกือบ 11,500 ล้านบาท มูลค่าเพิ่มขึ้น 64.59% (YoY) โดย ‘มะพร้าวไทย’ครองสัดส่วน 48.26% ของปริมาณการนำเข้ารวม และคิดเป็นสัดส่วน 73.38% ในแง่มูลค่าการนำเข้ารวม โดยอินโดนีเซีย (30.77%) เวียดนาม (20.59%) เป็น ‘คู่แข่ง’ ที่ต้องจับตามอง นี่จึงทำให้เห็นว่าหากเกษตรกรมาจับ ‘มะพร้าวไทย’ แล้วส่งออกไปจีน บอกเลยว่าอนาคตสดใส


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top