Sunday, 29 June 2025
ค้นหา พบ 49086 ที่เกี่ยวข้อง

‘รุสลัน เจ๊ะมะ’ จากมหาบัณฑิต สู่ ‘เกษตรกร’ สายผสมผสาน แสวงสุขที่แท้จริง ตามรอยหลัก ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ 

อย่างที่เราทราบกันดี ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย 

ซึ่งแนวคิดนี้ตั้งอยู่บนรากฐานของวัฒนธรรมไทย เป็นทางสายกลางที่เหมาะสมกับการยึดถือในการดำเนินชีวิต โดยมีหลักความไม่ประมาท คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเอง ตลอดจนใช้ความรู้และคุณธรรม เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต ที่สำคัญจะต้องมี ‘สติ ปัญญา และความเพียร’ ซึ่งจะนำไปสู่ ‘ความสุข’ ในการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง

แน่นอนว่า พระองค์ไม่ได้พระราชทานปรัชญานี้สำหรับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนชนชั้นใด ก็สามารถประยุกต์เอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิตได้

เช่นเดียวกันกับ ‘รุสลัน เจ๊ะมะ’ อดีตเยาวชนสานใจไทยสู่ใจใต้ รุ่นที่ 1 ชาว อ.บันนังสตา จ.ยะลา ผู้มีความเชื่อมั่นต่อปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 แม้ว่าเขาจะจบการศึกษา มหาบัณฑิตด้านนิติศาสตร์อิสลาม จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติมาเลเซีย แต่เขาก็กลับมาที่ประเทศไทย ซึ่งเป็น ‘บ้านเกิด’ เพื่อทำเกษตรผสมผสานตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

“เคยมีคนถามเยอะเลยครับว่าเรียนจบสูง ทำไมไม่ทำในด้านที่จบมา ผมก็เลยบอกว่า บางคนถนัดไปเรียนด้านนี้ แต่กลับมาทำด้านอื่นได้ เพราะว่า ความรู้ที่ได้มา ก็เอามาทำในส่วนนี้ก็ได้เหมือนกัน”

หาก ‘รุสลัน’ เลือกที่จะทำงานตามสายที่จบมา เขาอาจจะได้มีโต๊ะนั่งทำงานที่สบายกว่านี้ แต่เขากลับเลือกที่จะเดินตามพระประสงค์ของพระเจ้าที่เขาศรัทธาและเดินเข้าสวนเกษตรที่เป็นมรดกตกทอดจากพ่อของเขา 

“ผมจบนิติศาสตร์อิสลามที่ประเทศมาเลเซียครับ เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว ส่วนตอนนี้ก็ทำสวน เป็นเกษตรกร ใช้เศรษฐกิจพอเพียง มีปลูกข้าวโพด ข่า ขมิ้น สัปปะรด และอีกหลายๆ อย่าง เป็นเกษตรผสมผสาน ทำมาประมาณ 2 ปีแล้วครับ”

‘อลงกรณ์’ รวมพลคนปศุสัตว์ตั้งทีมพัฒนาโคขุน โคนม โคพื้นเมืองและวัวลานแบบครบวงจรสู่มาตรฐานใหม่พร้อมดึงโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ ศูนย์ AIC และคณะทำงานฮาลาลเสริมทัพ เพิ่มการแปรรูปและส่งออกเพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกรอย่างยั่งยืนภายใต้ ‘5 ยุทธศาสตร์ เฉลิมชัย’

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ภายหลังเป็นประธานการประชุมการพัฒนาโคขุน โคนม โคพื้นเมือง และวัวลานกีฬาประเพณีวิถีไทยครั้งที่ 1/2565 ว่าการจัดระดมพลคนปศุสัตว์กลุ่มโคโดยผนึกความร่วมมือทุกภาคส่วนมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการปศุสัตว์อย่างเป็นระบบครบวงจรและยกระดับรายได้ของเกษตรกรให้สูงขึ้นอย่างยั่งยืนเป็นการพัฒนาอาชีพปศุสัตว์สู่เกษตรมูลค่าสูงตามหมุดหมายใหม่ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และแนวทาง ‘เพชรบุรีโมเดล’

นับเป็นก้าวใหม่ที่จะสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อุปสงค์และอุปทาน หากมีการยกระดับการพัฒนาจะเพิ่มศักยภาพเพิ่มโอกาสให้เกษตรกรมากขึ้นและเพิ่มช่องทางใหม่ ๆ ให้กับเพชรบุรี ซึ่งเลี้ยงและจำหน่ายโคกว่า140,000 - 150,000 ตัวต่อปี โดยจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการจากทุกภาคส่วนเป็นกลไกการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นระบบต่อไป

ทั้งนี้ จังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดที่มีการเลี้ยงโคขุน โคนม และโคพื้นเมืองมากที่สุดจังหวัดหนึ่งของประเทศ รวมทั้งวัวลานกีฬาประเพณีวิถีไทยถือเป็นฐานอาชีพสร้างรายได้สำคัญของเกษตรกร จึงมีความพร้อมที่จะเดินหน้าต่อยอดยกระดับการพัฒนาแบบครบวงจร ตั้งแต่ พันธ์ุโค อาหารสัตว์ มาตรฐานฟาร์มการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) มาตรฐานฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) มาตรฐานฟาร์มปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย (FMD) คอกกักมาตรฐานเอกชนสำหรับการนำเข้า การส่งออก และปลอดโรค FMD การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม การสร้างแบรนด์ การตลาดแบบออฟไลน์และออนไลน์ และการเจรจาการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ เช่น กรณีของวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคและพรีเมี่ยมบี๊ฟ (Premium Beef) สามารถแปรรูปผลิตภัณฑ์จำหน่ายได้มากกว่า 30 ผลิตภัณฑ์ เช่น สันนอก สเต็กแช่แข็ง ลิ้นแองกัสสไลด์แช่แข็ง เนื้อหมักกระเทียมพริกไทยเสียบไม้ เนื้อแดดเดียวท่าแร้ง เนื้อตุ๋นสมุนไพร ลูกชิ้นเนื้อ เป็นต้น ตลอดจนการส่งออกโคไปต่างประเทศสู่ตลาดมาเลเซีย เวียดนาม และจีนซึ่งจะได้เจรจากับประเทศลูกค้ารวมทั้งการส่งเสริมการค้าการลงทุนกับซาอุดีอาระเบียและดูไบในโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่มีมติเห็นชอบสนับสนุนเมื่อเร็วๆนี้

สำหรับแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ โคขุน มุ่งการพัฒนาระบบมาตรฐานฟาร์ม โดยพัฒนากลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงโคเนื้อโคขุน เข้าสู่ระบบมาตรฐานฟาร์ม (GAP) ฟาร์มที่มีระบบป้องกันโรค (GFM) และเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ เป็นฟาร์มตัวอย่างให้เกษตรกรและประชาชนที่สนใจ ส่งเสริมรูปแบบการเลี้ยงที่ทันสมัย ประหยัด ลดต้นทุนการผลิต และการขยายตลาด สนับสนุนและยกระดับฟาร์มให้มีรูปแบบการผลิตเนื้อโคขุนที่มีคุณภาพ เพื่อส่งตลาดทั่วไปและตลาดพรีเมี่ยม เป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า ส่งเสริมให้มีตลาดกลางปศุสัตว์โค เพื่อเพิ่มช่องทางการซื้อขายให้เกษตรกร ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ส่งเสริมการแปรรูปเนื้อโค สร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์เนื้อของเพชรบุรี รวมทั้งสนับสนุนให้มีการเลี้ยงโคไทยวากิวโดยมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ศูนย์ AIC จังหวัดนครราชสีมาสนับสนุน ทั้งนี้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรีรายงานว่า ปัจจุบันมีจำนวนเกษตรกร 5,571 ราย โค 80,717 ตัว

ส่วนแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม มีการพัฒนาระบบมาตรฐานฟาร์ม พัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม เข้าสู่ระบบมาตรฐานฟาร์ม GAP ฟาร์มปลอดโรค ส่งเสริมเกษตรกรโคนมรุ่นใหม่ เพื่อปรับปรุงรูปแบบ เทคนิคการเลี้ยงที่ทันสมัย เช่น การปรับปรุงพันธุ์ การขุนโคนมเพศผู้ ในด้านการส่งเสริมการตลาด มีการส่งเสริมการแปรรูป เพิ่มชนิดผลิตภัณฑ์เช่น เนย โยเกิร์ต ชีสและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมของเกษตรกรและผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงเกษตร ส่งเสริมให้มีการเพิ่มแนวทางการเลี้ยงโคนมนอกจากผลิตน้ำนมโคแล้วจะมีการผลิตโคขุนจากโคนมด้วย ทั้งนี้จะให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศูนย์ความเป็นเลิศโคนมและเป็นศูนย์ AIC จังหวัดสระบุรีมาสนับสนุนด้วย ปัจจุบันมีจำนวนเกษตรกร 370 ราย โค 13,840 ตัว

ไทยเบฟ...รวมใจต้านภัยหนาว ปีที่ 23 มอบผ้าห่มกันหนาว 15,000 ผืน แก่ชาวเพชรบูรณ์

ที่โรงเรียนบ้านโคกมน อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ นายราม สิงหโศภิษฐ์  นายอำเภอน้ำหนาว พร้อมด้วย คุณธารทิพย์ ศิรินุพงศ์ ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชุมชน บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) ร่วมมอบผ้าห่มกันหนาว โครงการ ‘ไทยเบฟ...รวมใจต้านภัยหนาว’ ปีที่ 23 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมมอบผ้าห่มให้ประชาชนที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่อำเภอน้ำหนาว

คุณธารทิพย์ ศิรินุพงศ์  ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชุมชน บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยเบฟเป็นองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนตระหนักถึงความสำคัญต่อการดำเนินกิจการ และกิจกรรมที่สร้างสรรค์ประโยชน์ในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่กันไป  การดำเนินโครงการ ‘ไทยเบฟ...รวมใจต้านภัยหนาว’ เป็นการมอบผ้าห่มกันหนาวรักษ์โลก ด้วยการนำขวดพลาสติกบรรจุเครื่องดื่มที่ใช้แล้ว นำกลับมาผ่านกระบวนทำความสะอาด ทำเป็นเส้นใยคุณภาพสูง ถักทอเป็นผ้าห่มปีละ 200,000 ผื่น สามารถลดปัญหา ขวดพลาสติกที่นำกลับมาใช้ได้ถึง 7,600,000 ขวด และยังช่วยลดการใช้พลังงานในการผลิตอีกด้วย ซึ่งในวันนี้เป็นการส่งมอบผ้าห่มให้กับพี่น้องจังหวัดเพชรบูรณ์ ใน 11 อำเภอ จำนวน 15,000 ผืน นับเป็นการส่งมอบผ้าห่มให้พี่น้องจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นครั้งที่ 10 รวมการส่งมอบสะสมทั้งสิ้น จำนวน 147,000 ผืน 

‘เชียราย’ ตม.จว.เชียงราย กวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมายทุกรูปแบบ

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองระดมกวาดล้างอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าวทุกรูปแบบ เพื่อรองรับก่อนการประชุม APEC 2022 พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงได้สั่งการให้หน่วย

งานในสังกัดเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้ามาพำนักในราชอาณาจักร ไม่ให้เข้ามากระทำผิดกฎหมาย หรือแอบแฝงเข้ามาอยู่โดยไม่ตรงกับวัตถุประสงค์การนี้ พล.ต.ต.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทำการปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าวในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อตรวจสอบการพักอาศัยการอยู่ใน

ราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต (Overstay) การกระทำผิดกฎหมายต่างๆและตรวจสอบลักษณะหรือพฤติการณ์ต้องห้ามมิให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง 

ตม.จว.เชียงรายโดย พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภาเกษม ผกก.ตม.จว.เชียงรายได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปราม นำโดย พ.ต.ท.มนตรี อินเปรี้ยว สว.ตม.จว.เชียงราย บูรณาการร่วมกับ สถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2565 : หลวงตามหาบัว ญาณสมุปนฺโน

ยึดในสิ่งใด...
ย่อมตกเป็นทาสของสิ่งนั้น
เมื่อไม่ยึดก็ไม่ทุกข์
เมื่อไม่ถือก็ไม่หนัก
เหตุของความทุกข์ก็มีเพียงเท่านี้
รู้แล้ว..วางเป็น ..ก็เย็นสบาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top