Monday, 30 June 2025
ค้นหา พบ 49115 ที่เกี่ยวข้อง

'มาดามแป้ง' รับปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน

'มาดามแป้ง' รับปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน

'มาดามแป้ง' นวลพรรณ ล่ำซำ CEO บมจ.เมืองไทยประกันภัย, ประธานสโมสร การท่าเรือ เอฟ.ซี. และผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เข้าพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการตลาด คณะเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ที่ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 โดยมีนักฟุตบอลหญิง ได้แก่ ขวัญฤดี แสงจันทร์, อรทัย ศรีมะณี และ วารุณี เพ็ชรวิเศษ ร่วมแสดงความยินดี

“มาดามแป้ง” เป็นบุคคล ที่มีความโดดเด่นทั้งในแง่การบริหารธุรกิจ ในฐานะ CEO บมจ.เมืองไทยประกันภัย รวมถึง วงการกีฬา ในบทบาทผู้จัดการทีม ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่เคยพาทีมสร้างประวัติศาสตร์ ไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มาแล้ว 2 สมัยติดต่อกัน ในปี 2015 และ 2019 ต่อเนื่อง ถึงการเป็นผู้จัดการทีม ฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในปัจจุบัน และ งานสังคมเพื่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นการก่อตั้ง “ครัวมาดาม” ในช่วงวิกฤติโควิด-19 และ ก่อตั้ง “มูลนิธิมาดามแป้ง” ภายใต้แนวคิด ส่งต่อน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน 

ก่อนที่ล่าสุดจะมีโอกาสเข้ารับพระราชทานปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการตลาด คณะเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ต่อจากปี 2564 ที่เพิ่งเข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ จาก วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย

“ปริญญาฯ ใบนี้ นอกจากเป็นเกียรติสำหรับตัว แป้ง และ ครอบครัวแล้ว ยังถือเป็นกำลังใจ ที่จะทำให้ แป้ง มีความมุ่งมั่น และ พัฒนาตัวเองต่อไป เพื่อทำสิ่งต่าง ๆ ออกมาให้ดีที่สุด รวมถึง การช่วยเหลือ และ ตอบแทนสังคมด้วย” มาดามแป้ง กล่าวด้วยความภูมิใจ

ลอยกระทงวิถีใหม่ ชู soft power เผยแพร่ความงามสืบสานประเพณีไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สร้างมูลค่าเพิ่มฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ลอยกระทงวิถีใหม่ ชู soft power เผยแพร่ความงามสืบสานประเพณีไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สร้างมูลค่าเพิ่มฟื้นฟูเศรษฐกิจ

กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับเครือข่ายทางวัฒนธรรม จัดงานประเพณีลอยกระทง พุทธศักราช ๒๕๖๕  #ลอยกระทงวิถีใหม่สืบสานประเพณีไทยสู่ความยั่งยืน เน้นคุณค่า สาระ ถ่ายทอดความงดงามของประเพณีในรูปแบบตลาดวัฒนธรรมงานวัดย้อนยุค สู่สายตานักท่องเที่ยว คุมเข้มมาตรการความปลอดภัยทางบก-ทางน้ำ ประชาชนพร้อมใจร่วมลดขยะ มาด้วยกันใช้กระทงร่วมกัน นักท่องเที่ยวคึกคักนุ่งผ้าไทย สร้างสีสัน เผยแพร่ soft power สู่สายตาชาวโลก  

​ในพิธีเปิดงานลอยกระทง ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) ประธานกล่าวว่า

ปี ๒๕๖๕ นี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้จัดกิจกรรมลอยกระทงภายใต้แนวคิด “ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสาน ประเพณีไทย สู่ความยั่งยืน” เพื่อส่งเสริม เผยแพร่ค่านิยมและวัฒนธรรมความเป็นไทย ลอยกระทงเป็นประเพณีที่งดงาม มีคุณค่าสาระ สะท้อนภูมิปัญญาที่ให้คนตระหนักถึงความสำคัญและแสดงความกตัญญูต่อของแม่น้ำ ลำคลอง ที่ได้หล่อเลี้ยงชีวิต จึงเป็นประเพณีนิยมที่ควรอนุรักษ์ สืบสาน และต่อยอดให้เกิดความยั่งยืน สืบไป

ภายในพิธีเปิดงานได้รับเกียรติจากทูตานุทูตและผู้แทนสถานทูตประจำประเทศไทย ๑๒ ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ เวียดนาม กัมพูชา ญี่ปุ่น พม่า  สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ลาว  อินเดีย บรูไน และผู้แทนองค์กรต่างประเทศ คือ สหภาพยุโรป EU และศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี โดยมี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม พร้อมผู้บริหาร วธ. และเครือข่ายวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ร่วมงาน

กิจกรรมภายในงาน ช่วงเช้าเริ่มด้วยการประกวดประดิษฐ์กระทงในประเภทสวยงามและประเภทสร้างสรรค์ ชิงโล่รางวัลพร้อมเกียรติบัตรและเงินรางวัลจากกระทรวงวัฒนธรรม และมีการจัดแสดงนิทรรศการเผยแพร่คุณค่าสาระความสำคัญของประเพณีลอยกระทง ให้ชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ และยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ สาธิตการทำกระทง สาธิตการทำเทียนหอม สาธิตการทำต้นไม้ฟอกอากาศจิ๋ว  สาธิตการทำอาหารไทย ผัดหมี่แดงสูตรโบราณ-ข้าวคลุกกะปิ สาธิตการทำขนมไทย บัวลอยและถั่วแปบ เป็นต้น ซึ่งผู้เข้าร่วมงานและนักท่องเที่ยวยังได้เดินชมงาน สัมผัสเสน่ห์ของประเพณีวัฒนธรรมในบรรยากาศแบบย้อนยุค

โดยในพิธีเปิดงาน เวลา ๑๘.๑๐ น. เริ่มด้วยการแสดงทางวัฒนธรรม จากนั้นนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประธานกล่าวเปิดงาน และมอบโล่รางวัลพร้อมเกียรติบัตรเงินรางวัลรวม ๑๕๐,๐๐๐ บาท ในการประกวดกระทงในประเภทสวยงามและประเภทสร้างสรรค์ จำนวน ๑๒ รางวัล จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารวธ. คณะทูตานุทูต เครือข่ายหน่วยงานร่วมจัด ได้ร่วมกันลอยกระทง ณ บริเวณท่าน้ำวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร และได้เดินชมกิจกรรมสาธิตต่าง ๆ อาทิ การทำอาหาร-ขนมไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ การทำผัดไทกุ้งสด การทำเมี่ยงคำสมุนไพรเสียบไม้ การทำขนมเบื้อง เป็นต้น และเที่ยวชมผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมในงานตลาดวัฒนธรรมงานวันย้อนยุค

นอกจากนี้ ยังได้ชื่นชมมหรสพความบันเทิงแบบไทย การแสดงพื้นบ้านของไทย ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์โดยเยาวชนจากสมาคมศิลปะเพื่อเยาวชน ประกอบด้วย การแสดงชุดสืบสานแห่งสายวารี การแสดงประทีปโคมสุโขทัย และการแสดงชุดลอยกระทงวิถีไทย เพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีลูกทุ่งนำโดยศิลปินแห่งชาติ เพลิน พรหมแดน ปิดท้ายด้วยการขับร้องเพลงลูกทุ่ง โดยศิลปินลูกทุ่งรุ่นใหม่มาแรง ได้แก่  นัท มาลิสา, ปะแป้ง พลอยชมพู และ นัน ไมค์ทองคำ เป็นต้น และภายในวัดยังมีการจัดงาน “Bangkok River Festival 2022 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ครั้งที่ ๘” โดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งประชาชนสามารถเที่ยวชมร่วมกิจกรรมได้อย่างเต็มอิ่ม

ทั้งนี้ บรรยากาศภายในงานลอยกระทงวิถีใหม่ฯ คราคร่ำไปด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งมีจำนวนมากที่สวมใส่ผ้าไทย นุ่งผ้าท้องถิ่นมาร่วมงานลอยกระทงอย่างคึกคัก เป็นการสร้างสีสันความสวยงามให้กับงานลอยกระทงปีนี้ได้เป็นอย่างดี และยังได้เดินเที่ยวชมตลาดวัฒนธรรมงานวัดย้อนยุค เพลิดเพลินกับซุ้มสาธิตผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมมากมาย 

ผบ.ตร.พอใจการดูแลความปลอดภัยงานลอยกระทง

ผบ.ตร.พอใจการดูแลความปลอดภัยงานลอยกระทง ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างเข็มแข็ง สั่งดำเนินคดีคนจุดพลุ ผู้ว่าจ้าง เหตุพลุระเบิดนครพนม พร้อมถอดบทเรียน

(9 พ.ย.2565) เวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.เปิดเผยถึง การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงเทศกาลลอยกระทงเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า  “ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พอใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการ ดูแลความสงบเรียบร้อย อำนวยความสะดวกการจราจรในเทศกาลลอยประทง มีเหตุที่น่าสนใจ

เหตุพลุระเบิด บริเวณลานพนมนาคา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม  มีผู้ได้รับบาดเจ็บ  15 คน  เบื้องต้นพบว่า หลังจากเปิดงาน  มีการจุดพลุจำนวน 3 ลูก โดยพลุลูกที่ 3 ระเบิดหลุดออกจากปล่องจุด ไม่พุ่งขึ้นไปบนฟ้า แตกกระจายไปบนพื้น โดนผู้คนที่มาเที่ยวงานได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับการรักษา ทำแผลกลับบ้านหมดแล้ว ในทางคดี พบว่า การจุดพลุ ไม่ได้มีการขออนุญาตโดยถูกต้อง  พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดจำนวน 3 ราย ซึ่งเป็นคนที่จุดพลุ ผู้ว่าจ้าง และบุตรสาวของผู้ว่าจ้างทำหน้าที่ คอยส่งสัญญาณให้จุดพลุ ในข้อหา กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ของผู้อื่น กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย และ ทำให้เกิดเสียงดังจนทำให้ประชาชนตกใจหรือเกิดความเดือดร้อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 221, 390 และ 370 คดีนี้มีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 7 ปี ส่วนการจัดทำพลุหรือจัดซื้อพลุ อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลว่า ได้ซื้อมาจากที่ใด และได้รับอนุญาตให้จำหน่ายหรือไม่ ซึ่งจะมีการดำเนินคดีต่อไป สำหรับการชดใช้หรือเยียวยาค่าเสียหาย เทศบาลนครพนม ได้แสดงความรับผิดโดยการจะชดใช้และเยียวยาให้กับผู้บาดเจ็บทุกราย ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยลงไปตรวจสอบโดยละเอียดถึงสาเหตุอีกครั้ง เพื่อนำมาถอดบทเรียนในการป้องกันเหตุต่อไป

ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญหน่วยเรือสวนสนามทางเรือนานาชาติ บน ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช ณ เมืองโยโกซุกะ ประเทศญี่ปุ่น

(9 พ.ย.65) พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ หน่วยเรือสวนสนามทางเรือนานาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลประเทศญี่ปุ่น ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจสวนสนามทางเรือนานาชาติ (International Fleet Review 2022) โดยมี พล.ร.ต.โชคชัย เรืองแจ่ม ผบ.หน่วยเรือสวนสนามฯ ให้การต้อนรับ 

ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวให้โอวาทโดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า “การได้มาปฏิบัติราชการในต่างประเทศ นอกจากจะเป็นการแสดงออกถึงศักยภาพของกำลังรบทางเรือของประเทศแล้ว กำลังพลทุกนายยังได้นำพาเกียรติยศและศักดิ์ศรีของกองทัพเรือมาแสดงออกให้นานาอารยประเทศได้รับรู้ จึงขอให้กำลังพลทุกนายพึงระลึกรักษาเกียรติยศนี้ไว้” 

กระทรวงเกษตรฯ ร่วมไฮไลท์เอเปค 2022 ชู นโยบายเกษตรสร้างสรรค์ สู่ เกษตรมูลค่าสูง

กระทรวงเกษตรฯ ร่วมไฮไลท์เอเปค 2022 ชูนโยบายเกษตรสร้างสรรค์สู่เกษตรมูลค่าสูง เล็งตลาดสินค้าเกษตรคาแรคเตอร์11 ล้านล้านบาท ผนึกภาครัฐภาคเอกชนจัดงาน “ตลาดนัดสินค้าเกษตร X คาแรคเตอร์”18 - 20 พ.ย.นี้ ที่ตลาดน้ำ “อ.ต.ก.” หวังเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและชุมชนอย่างยั่งยืน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ภายหลังเป็นประธานการแถลงข่าวกิจกรรม“ตลาดนัดสินค้าเกษตร X คาแรคเตอร์” (Agriproducts X Character Market) เพื่อร่วมไฮไลท์งานการประชุมเอเปค 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ร่วมกับ นายโฆษิต สุวินิจจิต ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนธุรกิจเกษตรฯ นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.)

ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ นางดวงใจ คูห์ศรีวินิจ นายกสมาคม TCAP และผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

โดยนายอลงกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ นโยบาย “ตลาดนำการผลิต”และนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0” ของดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงมุ่งพัฒนาการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเพื่อให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลกและยกระดับสู่เกษตรมูลค่าสูงตามหมุดหมายใหม่ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่13โดยใช้แนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในรูปแบบคาแรคเตอร์มาเพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตรของเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์และสถาบันเกษตรกรรวมทั้งการส่งเสริมสตาร์ทอัพเกษตรรุ่นใหม่

คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนธุรกิจเกษตร (Agribusiness) ของกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ โดยความร่วมมือของ กรมส่งเสริมการเกษตร องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ สมาคม TCAP จึงร่วมมือกันจัดงาน“ตลาดนัดสินค้าเกษตร X คาแรคเตอร์” ( Agriproducts X Character Market ) ระหว่าง วันที่ 18 – 20 พฤศจิกายน 2565 ณ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาสินค้า เกษตรให้เป็นอัตลักษณ์ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร เพิ่มโอกาสทางด้านการตลาดให้กับเกษตรกร และสินค้าเกษตร ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และเป็นการส่งเสริมและสร้างช่องทางในการนำคาแรคเตอร์ (character) ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในวงกว้าง ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม พัฒนาเกษตรกร/ผู้ประกอบการ ส่งเสริมให้เกิดการนำกระบวนการคิดเชิงสร้างสรรค์ไปใช้ในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์และสร้างนวัตกรรม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สนับสนุนเพื่อให้เกิดการใช้งานคาแรคเตอร์ (character) กับสินค้าเกษตรและสินค้าชุมชนทั่วประเทศ

นายอลงกรณ์กล่าวต่อไป ว่าจากข้อมูลของสมาคมลิขสิทธิ์นานาชาติหรือ LIMA ระบุว่า สำหรับปี 2021 จากภาพรวมของสินค้าและบริการที่นำเอาลิขสิทธิ์ของผลงานสร้างสรรค์ในรูปแบบต่าง ๆ มาใช้ในโลก ที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ มีมูลค่า 315.5 พันล้าน เหรียญสหรัฐ โดยเพิ่มขึ้นมาจากปี 2019 ที่มีมูลค่า 292.8 พันล้านเหรียญ คือ ภายในสองปีเพิ่มขึ้นมาร้อยละ 7.75 แม้จะเป็นช่วงที่มีสถานการณ์ระบาดของโคโรนาไวรัสทั่วโลกก็ตาม

ข้อมูลดังกล่าวยังระบุอีกว่า มูลค่าของค่าลิขสิทธิ์ผลงานสร้างสรรค์ในช่วงเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 โดยมีมูลค่าราว 17.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยจาก 10 ประเภท ของผลงานสร้างสรรค์ที่ถูกจำแนกไว้นั้น ประเภทที่มูลค่าสูงสุดถึง 129.9 พันล้านเหรียญ หรือคิดเป็นร้อยละ 41 ของทุกประเภท ก็คือ คาแรคเตอร์นี่เอง เพราะคาแรคเตอร์เป็นผลงานสร้างสรรค์ที่นำเอาไปใช้ได้ง่าย และเข้าถึงผู้บริโภคได้หลากหลายวิธีที่สุด ทั้งในรูปแบบการผลิตเป็นของเล่น เป็นภาพหรือลวดลายกราฟิกส์ที่เกี่ยวข้องบนเสื้อผ้าแฟชั่น หรืออยู่บนข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทั่วไปรอบตัวเรา ที่น่าสนใจ คือ ในประเทศไทยมูลค่าการใช้คาแรคเตอร์สูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก ราวร้อยละ 20 (ร้อยละ 62 ของมูลค่ารวมโดยประมาณ) ติดต่อกันมาอย่างต่อ เนื่องหลายปีมาก ซึ่งจะสังเกตจากภาพการใช้คาแรคเตอร์มาส่งเสริมการขายและการตลาดของภาคธุรกิจในประเทศไทยได้ไม่ยากเลยในหลากหลายประเภทสินค้าที่ อยู่ในร้านสะดวกซื้อ ตามกิจกรรมการตลาดที่ประชาสัมพันธ์ออกมาตามสื่อต่าง ๆ หรือในการนำไปผลิตเป็นสินค้า ตลอดจนใช้ในการประชาสัมพันธ์การบริการต่าง ๆ ซึ่งเกือบทั้งหมดก็จะเป็นคาแรคเตอร์ชั้นนำ ที่ได้รับความนิยมจากต่างประเทศที่เรา รู้จักกันดีโดยแทบจะไม่มีคาแรคเตอร์ไทยไปแชร์ส่วนแบ่งตรงนี้ได้

โดยผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถาม เพื่อซื้อหรือขอใช้ลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ไปใช้ในการพัฒนาสินค้า โดยกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ จะขยายผลความร่วมมือนี้ให้กระจายไปสู่พี่น้องเกษตรกรและผู้ประกอบการ ทั่วประเทศต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตทางด้านการเกษตร โดยการเชื่อมโยงสตาร์ทอัพด้านการเกษตรของประเทศไทย ที่มีนวัตกรรมด้านการเกษตร ที่สามารถส่งเสริมให้เกษตรกรโดยเฉพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer, Smart Farmer ที่มีศักยภาพสามารถประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ รวมถึงสนับสนุนการขยายผลการใช้งานไปทั่วประเทศและภูมิภาคอาเซียน พร้อมทั้งวางบทบาทให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่ สำคัญสำหรับสตาร์ทอัพด้านการเกษตรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และขยายสู่ระดับโลกต่อไปโดยภายในงานมีสตาร์ทอัพ 3 ราย ที่จะนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์การสร้างรูปแบบตลาดใหม่ให้กับชีวิตคนเมือง พร้อมสร้างคุณค่าใหม่ให้กับสินค้าเกษตรได้อย่างยั่งยืน ได้แก่

“ส่งสด”เป็นการรวบรวมสินค้าเกษตรคุณภาพดีจากตลาดสด ให้ได้ของสด ของดี มีคุณภาพครบส่งตรงถึงครัวคุณ ร้านอาหาร และทุกธุรกิจที่ต้องการสินค้าเกษตร เป็นการเพิ่มช่องการขายสินค้าเกษตรให้ถึงมือผู้ใช้งาน

“วาริชธ์ “ที่มีบริการด้านการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรที่มีครบถ้วนทุกมาตรฐานการผลิต ในการสร้างช่องทางตลาดออนไลน์ จนถึงการส่งออกไปต่างประเทศ ดังนั้นสินค้าเกษตรที่จะล้นตลาด สามารถมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าและมีตลาดให้เกิดขึ้นอย่างชัดเจน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top