Saturday, 5 July 2025
ค้นหา พบ 49200 ที่เกี่ยวข้อง

ปักหมุดลงทุน 1.9 แสนล้านบาทในไทย หวังช่วยยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย

AWS ประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ในไทย มูลค่ามากกว่า 5 พันล้าน ดอลลาร์ หรือ 1.9 แสนล้านบาท ในระยะเวลา 15 ปี ด้วยการเปิดตัว Region แห่งใหม่ ที่มีชื่อว่า AWS เอเชียแปซิฟิค (กรุงเทพฯ) 

อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือ Amazon.com, Inc. ประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ ด้วยการเปิดตัว Region ในประเทศไทย ที่จะมีชื่อว่า AWS Asia Pacific (Bangkok)

โดย Regionแห่งใหม่นี้จะประกอบด้วย Availability Zone สามแห่ง ซึ่งเพิ่มเติมจาก Availability Zone ของ AWS ที่มีอยู่แล้ว 87 แห่งใน 27 ภูมิภาคทั่วโลก และ AWS ได้ประกาศแผนที่จะสร้าง Availability Zone ทั่วโลกอีก 24 แห่งและ AWS Region อีก 8 แห่งในออสเตรเลีย แคนาดา อินเดีย อิสราเอล นิวซีแลนด์ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงประเทศไทย

AWS Region ที่กําลังจะมีขึ้นในประเทศไทยจะช่วยให้นักพัฒนา สตาร์ทอัพ และองค์กรต่างๆ รวมถึงภาครัฐ การศึกษา และองค์กรไม่แสวงผลกําไร สามารถเรียกใช้แอปพลิเคชันของตนและให้บริการผู้ใช้ปลายทางจากศูนย์ข้อมูล AWS ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการเก็บข้อมูลของตนไว้ในประเทศไทยสามารถทําได้

นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่ AWS มีต่อภูมิภาคนี้ AWS วางแผนที่จะลงทุนมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ (หรือ 1.9 แสนล้านบาท) ในประเทศไทยในระยะเวลา 15 ปี

นายปราสาท กัลยาณรามัน รองประธานฝ่ายบริการโครงสร้างพื้นฐานของ AWS เผยว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทย ผ่านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในประเทศและการนำเสนอบริการใหม่ ๆ ที่รวดเร็ว

ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าในประเทศไทยสามารถใช้ศักยภาพทั้งหมดของคลาวด์เพื่อเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานและนำเสนอบริการต่าง ๆ

AWS Asia Pacific (Bangkok) region จะช่วยให้องค์กรสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยการใช้ประโยชน์จากบริการที่หลากหลายและเชี่ยวชาญของ AWSเช่น แมชชีนเลิร์นนิ่ง การวิเคราะห์ และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง ด้วยเครื่องมือใหม่เหล่านี้ AWS ยังช่วยให้ลูกค้าภาครัฐสามารถมีส่วนร่วมกับพลเมืองได้ดียิ่งขึ้น องค์กรต่างๆ สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการเติบโตในระยะต่อไป รวมถึงสร้างธุรกิจและแข่งขันในระดับโลก

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าวว่า แผนของ AWS ในการสร้างศูนย์ข้อมูลหรือดาต้า เซ็นเตอร์ในประเทศไทยถือเป็นก้าวสําคัญที่จะนำบริการการประมวลผลบนระบบคลาวด์ขั้นสูงมาสู่องค์กรจำนวนมากขึ้น และช่วยให้เราบรรลุเป้าหมาย Thailand 4.0 ในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีมูลค่า

ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าที่บังคลาเทศ ฝีมือคนไทย ที่น้อยคนอาจจะไม่เชื่อ

หากย้อนไปเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 จะมีหนึ่งข่าวปรากฏอยู่ตามหน้าสื่อประปราย นั่นก็คือข่าวที่บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หน่วยงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า Dhakha Metro Rail Project CP03 & CP04 ณ กรุงธากา ได้มีโอกาสต้อนรับ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ นางมาฆวดี สุมิตรเหมาะ พร้อมเจ้าหน้าที่สถานทูต รวมจำนวน 5 ท่าน ที่มาเยี่ยมชมโครงการ โดยมีเจ้าของงาน (DMTCL) และที่ปรึกษาโครงการ (NKDM) ร่วมต้อนรับ โดยได้เยี่ยมชมโครงการและถือโอกาสพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องคนไทยที่ทำงานในโครงการ รวมทั้งเพื่อสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-บังกลาเทศ ในโอกาสครบรอบ 50 ปี 

สำหรับโครงการรถไฟฟ้า Dhakha Metro Rail Project Line-6 สัญญาที่ CP03 & CP04 ณ กรุงธากา สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศนี้ ถือเป็นรถไฟฟ้าสายแรกของบังกลาเทศ ดำเนินการโดย บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทคนไทย ประกอบไปด้วยการก่อสร้างทางรถไฟ และสถานีที่มีมาตรฐานระดับสากล

ข่าวนี้ถ้าดูผ่าน ๆ ก็เหมือนกับงานก่อสร้างที่บริษัทไทยไปบิดงานได้ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วงานที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้า ตัวเส้นทาง และสถานีรถไฟฟ้า ถือเป็นงานยากที่มาตรฐานของโลกมักกระจุกตัวอยู่กับญี่ปุ่น ยุโรป และจีน

อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าว ที่บริษัทไทยได้เข้าไปก่อสร้างให้กับบังคลาเทศนั้น ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้ที่ได้ทราบข่าวว่า คนไทยเป็นคนสร้างจริงหรือ!!

“เราภูมิใจที่มาสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย คาดว่าน่าจะเสร็จ 2 เดือนข้างหน้า เปิดใช้รถไฟฟ้าสายแรกภายในสิ้นปีนี้” และ “รถไฟฟ้าสายนี้ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและบริษัทอิตาเลียนไทยที่ประสบความสำเร็จได้มาสร้างรถไฟฟ้า สายแรกในบังกลาเทศ” คือเสียงจากบรรดาวิศวกรของโครงการที่รู้สึกภูมิใจกับการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอันยิ่งใหญ่ในบังกลาเทศ

ตอนนี้คนบังคลาเทศ คงรู้สึกปลื้มใจที่จะได้มีรถไฟฟ้าสายแรกใช้ในประเทศ ภายใต้คนไทยที่เป็นผู้สร้างให้ ซึ่งแน่นอนว่า ภารกิจในครั้งนี้ได้โชว์ให้เห็นว่า ไม่เพียงแค่ประเทศไทยจะพัฒนาสถานีรถไฟฟ้าหลายสายภายในประเทศได้เองเท่านั้น แต่เรายัง Export ความสามารถในการก่อสร้างไปสู่ประเทศอื่น ๆ ได้อีกด้วย

จากช่อง YouTube ละโบยบิน – Laboibin ได้มีการเผยแพร่คลิปความยาว 19.40 วินาที ซึ่งมีหลากมุมมองที่ทำให้คนไทยรู้สึกยืดได้เต็มอกกับโครงการรถไฟฟ้าในบังคลาเทศด้วยว่า...

สำหรับสถานีรถไฟฟ้าสายแรกของบังกลาเทศ จะมีสถานีอุตตระเหนือ (Uttara North Metro Station) เป็นสถานีแรกของรถไฟฟ้าสายนี้ ซึ่งบรรยากาศของสถานีนั้น มีความสวยงามและมอลังการอย่างมาก ภายใต้ความคิด การออกแบบ การลงเข็ม งานฐานราก เสา โครงหลังคา บันไดเลื่อน และทุกอย่างที่ทำให้เกิดขึ้นมาเป็นหนึ่งสถานีที่งดงาม จากฝีมือสร้างของคนไทย หลาย ๆ อย่างก็เลยจะดูคล้าย ๆ โครงสร้างรถไฟฟ้าที่ประเทศไทยไปในตัว (รถไฟที่ลาว หลาย ๆ อย่างจะมีรูปลักษณ์ออกไปทางจีน)

โดยล่าสุดตัวสถานีแห่งนี้ ได้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% เหลือแค่เก็บรายละเอียดเล็กน้อยก็จะเปิดใช้งานได้ภายในปลายปีนี้ (2565)

ทั้งนี้หากฟังเสียงจากวิศวกรคนไทย ที่ได้ร่วมโปรเจกต์นี้ ต่างกล่าวถึงความภูมิใจที่ได้ร่วมสร้างสถานีรถไฟฟ้าและโครงการรถไฟฟ้าแห่งแรกของบังคลาเทศจนสำเร็จ และพวกเขามองว่า นี่ไม่ใช่แค่งานก่อสร้างให้ต่างชาติ แต่เป็นการก่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีศักยภาพด้านโครงการรถไฟฟ้าให้ทั่วโลกได้ตระหนัก 

ยิ่งไปกว่านั้น หากมองในมุมของคนไทย ก็รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ชาวบังคลาเทศได้ใช้รถไฟฟ้าสายนี้อย่างเป็นทางการในอีกไม่นาน และอนาคตก็คาดว่าจะมีการขยายสายรถไฟฟ้าใหม่ๆ อีกเรื่อย ๆ โดยแว่วมาว่าจะมีการเปิดประมูลรถไฟฟ้ายกระดับอีก1 สาย และจะเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินอีก 1 สาย ซึ่งก็ต้องรอดูว่าคนไทยจะได้ไปโชว์ฝีมือกันอีกหรือไม่

ฟังเสียงจากมุมวิศวกรผู้ร่วมสร้างโครงการแล้ว ก็ข้ามมาฟังเสียงจากคนเวียดนามคู่แข่งที่น่าจับตาของประเทศไทยในช่วงระยะหลัง โดยคนเวียดนามจำนวนมาก ไม่เชื่อว่าผลงานนี้เป็นฝีมือคนไทย เพราะพวกเขายังติดภาพว่า การจะสร้างโครงการระดับนี้ได้ต้องเป็นญี่ปุ่น, จีน หรือกลุ่มประเทศในยุโรป และชาติตะวันตกที่มีความล้ำสมัยเท่านั้น แต่ขอโทษตอนนี้คนไทยทำมันแล้ว คนไทยออกมาสร้างสถานีรถไฟฟ้านอกประเทศได้แล้ว

เสียงจากชาวเวียดนามยังระบุอีกด้วยว่า ที่ประเทศเวียดนาม ยังกำลังสร้างโครงการรถไฟฟ้าอยู่เลย และยังไม่มีโอกาสได้ใช้งาน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าปีหน้าจะได้ใช้งานหรือไม่ด้วย 

ถัดไปยังฟากของผู้คนในโลกโซเชียล เมื่อได้เห็นคลิปความคืบหน้าโครงการดังกล่าว ต่างก็ยินดีกับประเทศบังคลาเทศและประชาชนชาวบังคลาเทศ อีกทั้งยังภูมิใจแทนคนไทยทั้งประเทศอย่างมาก ที่มีบริษัทคนไทยเก่ง ๆ สามารถสร้างทางรถไฟฟ้าสายนี้ได้อย่างงดงาม และชาวบังคลาเทศคงพูดไปชั่วลูกชั่วหลาน ว่ารถไฟฟ้าสายนี้คนไทยเป็นคนสร้างให้

นี่แหละหนา ไอ้คำว่าคนไทยไม้แพ้ชาติใดในโลก มันไม่ได้ไกลเกินจริง แต่มันอยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นค่าคนไทยกันเองหรือไม่เท่านั้น!!

ใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า!! ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ | THE STATES TIMES Y WORLD EP.17

ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ศูนย์ประชุมแห่งชาติ แห่งเดียวในไทย เปิดตัวแบบอลังการ ใหญ่กว่าเดิมถึง 5 เท่า!! จุคนได้เป็นแสน พร้อมรองรับการจัดงานทุกรูปแบบ และทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง!

.

ตามไปดูความอลังการได้ใน THE STATES TIMES Y World

รอง โฆษก ตร. เผย กองทะเบียนประวัติอาชญากร ขยายเวลา เปิด - ปิด ตรวจสอบประวัติบุคคล เริ่ม 7 พ.ย. นี้

วันนี้ (4 พ.ย.65) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่าที่ พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า กองทะเบียนประวัติอาชญากร ตร.ได้ขยายเวลา เปิด-ปิด ศูนย์บริการตรวจสอบประวัติบุคคล จากเวลาเดิมตั้งแต่ 08.30 – 15.30 น.เป็นเวลา 07.30 – 16.30 น. 

รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ศูนย์บริการตรวจสอบประวัติบุคคล กองทะเบียนประวัติอาชญากร เป็นสถานที่ให้บริการประชาชน หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่มาติดต่อขอตรวจสอบประวัติบุคคลและขอดูข้อมูลข่าวสารราชการท่านสามารถ ตรวจสอบประวัติด้วยชื่อ-ชื่อสกุลโดยทำการยื่นคำร้องขอตรวจสอบประวัติผ่านทางเว็บไชต์ www.crd-check.com หรือตรวจสอบประวัติด้วยการพิมพ์ลายนิ้วมือ กรณีในเขต กทม. สามารถมาใช้บริการได้ที่ศูนย์บริการฯ กองทะเบียนประวัติอาชญากร โดยจองคิวผ่าน www.crdqonline.com  ก่อนเข้ามาใช้บริการ กรณีพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถใช้บริการได้ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1-10 หรือ พิสูจน์หลักฐานจังหวัดได้ทั่วประเทศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top