Wednesday, 18 June 2025
ค้นหา พบ 48864 ที่เกี่ยวข้อง

แถลงข่าว - โครงการปั่นเทิดพระเกียรติมิตรภาพไทย-มาเลเซีย

วันที่ (20 กรกฎาคม 2565) เวลา 15.30 น. มีแถลงข่าวโครงการปั่นเทิดพระเกียรติมิตรภาพไทย-มาเลเซีย ในบรรยากาศสุดอบอุ่นใต้ต้นไม้ บริเวณตรงข้ามด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก โดยนำกีฬามาเป็นสื่อ ภายใต้ความร่วมมือของสองประเทศ โดยนายวิเซษฐ์ ไทยทองนุ่ม ผู้แทนกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และนายกสมาคมการกีฬาแห่ง จ.นราธิวาส ซึ่งมีนายทศพล สวัสดิสุข รองผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส มาร่วมเป็นประธานเปิดพิธี รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะนราธิวาส และผู้ใหญ่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมเป็นเกียรติ

โครงการฯ ได้กำหนดจัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ในรัชกาลที่ 10 และส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกายมีสุขภาพกายใจที่แข็งแรง พร้อมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์เมืองน่าท่องเที่ยวที่เชิญชวนให้มาเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดนราธิวาส ภายใต้การสนับสนุนของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ นายวิเซษฐ์ ไทยทองนุ่ม ผู้แทนกองทุนกล่าวว่า นราธิวาสมีศักยภาพและมีความพร้อมสามารถเป็นโมเดลเมืองกีฬา พร้อมสนับสนุนผลักดันผ่านสามคมการกีฬาแห่งจังหวัดนราธิวาสต่อไป

ในส่วนเส้นทางการปั่นในครั้งนี้ เริ่มต้น อ.สุไหงโกลก ไปยังด่านบูเกะตาเข้าสู่อำเภอยือลี รัฐกลันตัน ร่วมทำกิจกรรมปลูกต้นไม้และพักตามอัธยาศัยที่ตลาดยือลี รวมระยะทางการปั่นไปกลับทั้งสิ้น 96 กิโลเมตร 

นายวิเซษฐ์ ไทยทองนุ่ม ผู้แทนกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และนายกสมาคมการกีฬาแห่ง จ.นราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือของทุกฝ่ายพร้อมเปิดบ้าน และสร้างความมั่นใจในการเปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยว ได้กลับมาชื่นชมบรรยากาศ และสิ่งสวยงามที่พร้อมให้มวลชนมาเยี่ยม สร้างมิตรไมตรี ที่ผู้คนพร้อมต้อนรับนักปั่นเกือบ 2000 ชีวิตที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

‘เทสลา’ เทขายบิตคอยน์ 75% ของที่ถือครอง หลังราคาทรุดหนัก ส่งผลกระทบกำไรบริษัท

บริษัทเทสลา อิงค์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ขายบิตคอยน์ในสัดส่วนสูงถึง 75% ของจำนวนบิตคอยน์ที่บริษัทถือครองอยู่ คิดเป็นมูลค่าการขาย 936 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ เทสลาได้เทขายบิตคอยน์ หลังจากมูลค่าของบิตคอยน์ทรุดตัวลงอย่างหนัก โดยร่วงลงมากกว่า 50% แล้วในปีนี้

“ณ สิ้นสุดไตรมาส 2 ปีนี้ เทสลาได้เทขายบิตคอยน์ไปประมาณ 75% ของจำนวนบิตคอยน์ที่เราถือครอง ซึ่งทำให้งบดุลบัญชีของเรามีเงินสดเพิ่มขึ้น 936 ล้านดอลลาร์”

เทสลาระบุในการแถลงผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ในวันพุธ (20 ก.ค.)

เทสลาระบุในแถลงการณ์ดังกล่าวว่า บิตคอยน์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้

ที่ผ่านมานั้น นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลาเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซี โดยเขามักจะโพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์และส่งผลให้ราคาคริปโทเคอร์เรนซีพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์และดอจคอยน์

รัฐสภา ‘ศรีลังกา’ ไม่สนใจเสียงม็อบ เทคะแนนเลือก ‘วิกรมสิงเห’ นั่งผู้นำคนใหม่

รานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรี 6 สมัย ได้รับเลือกจากรัฐสภาให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของศรีลังกาเมื่อวันพุธ (20 ก.ค.) โดยมีพรรคการเมืองของโกตาภยา ราชปักษา อดีตผู้นำที่บินหนีออกนอกประเทศให้การสนับสนุน

ก่อนการโหวตของสภา รานิล วิกรมสิงเห แถลงออกตัวว่า ตอนที่เข้าร่วมรัฐบาลของราชปักษาในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจศรีลังกาพังครืนไปแล้ว แต่นับจากนั้นเขาดำเนินการจนกระทั่งสามารถลดเวลาการดับไฟฟ้าเนื่องจากขาดแคลนเชื้อเพลิงในการผลิต จากวันละ 5 ชั่วโมง เหลือ 3 ชั่วโมง รวมทั้งสามารถแจกจ่ายปุ๋ยให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการแบนซึ่งบังคับใช้อยู่ก่อนหน้านั้น

สำหรับผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการของรัฐสภา ปรากฏว่า วิกรมสิงเหได้คะแนนจากสมาชิกสภา 134 เสียง ขณะที่คู่แข่งสำคัญคือ ดัลลัส อลาฮัปเปอรูมา ได้ 82 เสียง และตัวแทนจากพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย อนุรา ดิษนายาเก ได้แค่ 3 เสียง เท่ากับว่า วิกรมสิงเหได้เสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง และชนะแบบขาดลอยไปตั้งแต่การโหวตรอบแรก ทั้งนี้ศรีลังกาเป็นประเทศที่รัฐสภามีเพียงสภาเดียว

หลังจากนั้น วิกรมสิงเห ที่เคยล้มเหลวในการสมัครลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมา 2 ครั้ง 2 ครา กล่าวสั้น ๆ ว่า ขณะนี้ความแตกแยกจบลงแล้ว และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อนำประเทศพ้นจากวิกฤต พร้อมแสดงความหวังว่า จะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งแบบเรียบง่ายภายในอาคารรัฐสภาที่มีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดให้แล้วเสร็จภายในวันพุธเลย

'อานนท์' อัดซักฟอกไร้เนื้อหา – ปั้นน้ำเป็นตัว งัด 10 ผลงานเด่น 'รัฐบาลบิ๊กตู่' ตบหน้าฝ่ายค้าน

'อานนท์ แสนน่าน' อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดง อัดฝ่ายค้านอภิปรายไร้สาระ ใช้ข้อมูลชุดเดิม ทั้งปั้นน้ำเป็นตัว แนะเปลี่ยนจากอาชีพนักการเมืองไปเป็นพนักงานโรงน้ำแข็งดีกว่า พร้อมงัดผลงานรัฐบาลตบหน้าฝ่ายค้าน

(21 ก.ค. 65) นายอานนท์ แสนน่าน ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดง กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ของฝ่ายค้านข้อมูลมีแต่เรื่องเดิม ๆ ไร้สาระ ปั้นน้ำเป็นตัวไม่ลืมหูลืมตาเอาข้อมูลอันเป็นเท็จมาอภิปราย สงสัยต้องให้เปลี่ยนอาชีพจากนักการเมืองไปเป็นพนักงานโรงงานน้ำแข็ง เพราะชอบปั้นน้ำเป็นตัว

นายอานนท์ กล่าวว่าที่ผ่านมารัฐบาลมีผลงานเป็นจำนวนมากเข้าถึงประชาชน แก้ไขปัญหาต่าง ๆ เชื่อว่าเลือกตั้งครั้งหน้าความนิยมจากประชาชนให้กับนายกฯลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีมากกว่าเดิม ตนจึงอยากจะนำเอาความจริงการทำงานในช่วง 7 ปีก่อน ตั้งแต่เป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จนถึงรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งในปี 2562 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาให้ดูกันเอาเฉพาะคร่าว ๆ นะเพราะมีเยอะมาก การบริหารภายใต้รัฐธรรมนูญปัจจุบัน ได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่เป็นกรอบเป้าหมาย และแนวทางการพัฒนาประเทศ และพยายามพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยสรุปได้ดังนี้

1. สานต่อนโยบายการส่งเสริม 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 โดยการต่อยอด-ยกระดับ 5 อุตสาหกรรมเดิมที่ไทยมีศักยภาพ (First S-curve) ได้แก่ ยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และการแปรรูปอาหาร พร้อมต่อยอด 7 อุตสาหกรรมใหม่ (New S-curve) ที่เป็นแนวโน้มของโลกในอนาคต ได้แก่ หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม การบินและโลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ดิจิทัล การแพทย์และสุขภาพครบวงจร การป้องกันประเทศ การพัฒนาบุคลากรและการศึกษาเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ

2. โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เกิดขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่ การลงทุนและแหล่งบ่มเพาะ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ พัฒนาเมืองแห่งนวัตกรรม หรือเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ให้เป็น “ซิลิคอนวัลเลย์” ของเมืองไทย / และ “เมืองใหม่อัจฉริยะด้วยนวัตกรรม” หรือเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) ปัจจุบันการดำเนินงานมีความก้าวหน้าตามลำดับ

3. เตรียมความพร้อมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เกิดการลงทุนจริง ที่มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยของ การลงทุนของภาครัฐ ในช่วงปี 2558 – 2562 ถึง 7.9% ต่อปี ดังนี้ ทางถนน : จากปี 2557 มี 4,271 กิโลเมตร และปี 2564 เพิ่มเป็น 11,583 กิโลเมตร มอเตอร์เวย์ : สร้างเพิ่ม 3 เส้นทางสำคัญ บางปะอิน-โคราช บางใหญ่-กาญจนบุรี และพัทยา-มาบตาพุด ทางราง : จากปี 2557 ระยะทาง 4,073 กิโลเมตร ปัจจุบันมีแผนสร้างเพิ่ม ระยะเวลา 20 ปี จะมีระยะทาง 8,900 กิโลเมตร ครอบคลุม 62 จังหวัด เป็นทางคู่-ทางสาม 5,640 กิโลเมตร และสถานีกลางบางซื่อ เป็นชุมทางรถไฟขนาดใหญ่ ทันสมัยที่สุดในอาเซียน รถไฟฟ้า (กทม.และปริมณฑล) สร้างเพิ่ม 10 สาย ระยะทางรวม 204.9 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 2 สาย นอกจากนี้ ยังมีรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ทางน้ำ : เพิ่มศักยภาพรองรับปริมาณการขนส่งทางน้ำ จากเดิมปี 2557 ประมาณ 279 ล้านตัน ในปี 2564 เพิ่มเป็น 355 ล้านตัน โดยพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด และท่าเรือแหลมฉบัง เปิดเดินเรือเฟอร์รี่พัทยา-หัวหิน ใช้เวลา 2 ชั่วโมง เชื่อมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ปีละ 4,000 ล้านบาท และทางอากาศ : ปรับปรุงสนามบินทั่วประเทศ เพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสาร จากเดิมปี 57 รองรับ 118 ล้านคน ปี 64 เพิ่มเป็น 139 ล้านคน

4. โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ครอบคลุมถึงการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ทั่วประเทศ เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล โดยในปี 2564 ความเร็วเฉลี่ยอินเตอร์เน็ตบ้านของไทย ที่ 308 ล้านบิทต่อวินาที (Mbps) ถือว่าแรงเป็นอันดับ 1 ของโลก โครงการเน็ตหมู่บ้าน 74,987 หมู่บ้าน ทั้งประเทศ โครงการสายเคเบิ้ลใต้น้ำ ที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมุ่งเป้าการเปลี่ยนแปลงสู่รัฐบาลดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของภาครัฐ พัฒนาระบบ “พร้อมเพย์” เพื่อสนับสนุนการชำระเงินและโอนเงินแบบทันที พัฒนาระบบพอร์ทัลกลางเพื่อประชาชน (Citizen Portal) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ในการติดต่อขอรับบริการผ่านช่องทางออนไลน์

5. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ โดยจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง และเตรียมน้ำต้นทุน สำหรับภาคการผลิต ทั้งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม รวมทั้ง EEC รวมทั้งน้ำอุปโภค-บริโภค สำหรับทุกครัวเรือน การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง การฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ และโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ อุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ บริเวณถนนรัชดาภิเษก ผลลัพธ์ที่ได้รับตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน ได้แก่ เพิ่มการกักเก็บน้ำรวม 1,452 ล้าน ลบ.ม. พัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร 124 ล้าน ลบ.ม. ลดพื้นที่ประสบภัยแล้งลงอย่างต่อเนื่อง จาก 36,944 หมู่บ้าน ในปี 2556 และในปี 2564/65 ไม่มีประกาศภัยแล้ง

6. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้วยการศึกษา ทั้งระดับอาชีวศึกษา เน้นเรียนจบมีงานทำ และระดับอุดมศึกษา มีการปฏิรูปการอุดมศึกษาครั้งใหญ่ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นับตั้งแต่ปี 2562 ได้วางแนวทางส่งเสริมการศึกษาแบบ Lifelong Learning หรือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต

'ชญาภา' แนะ 'แรมโบ้' เอาเวลาไปเตรียมข้อมูลอภิปรายให้ 'ประยุทธ์' ตอบให้ตรงคำถามฝ่ายค้านก่อนหมดโอกาสแก้ตัว

นางสาวชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวหา ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าออกมาฟาดงวงฟาดงาใส่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะพรรคฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ไม่เข้าเป้าจึงต้องออกโรงเอง สะท้อนให้เห็นว่านายเสกสกลไม่ได้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างใกล้ชิด จึงไม่รู้ว่าจากการประเมินของหลายฝ่ายเห็นตรงกันว่า พรรคฝ่ายค้านมีมาตรฐานการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่น่าสนใจชวนติดตาม มีข้อมูลและหลักฐานที่มีน้ำหนักจนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี จนมุมกลางสภาไม่สามารถตอบประเด็นที่สังคมสงสัยได้อย่างชัดเจน แม้การตอบคำถามของรัฐบาลน่าผิดหวัง แต่ยังคงเหลือการซักฟอกรัฐบาลอีกสองวัน อยากให้ติดตามการอภิปรายอย่างใกล้ชิดเพราะข้อมูลและข้อเท็จจริงที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมนำเสนอ ยังมีหมัดเด็ดที่อาจจะสะเทือนถึงองครักษ์ที่เฝ้าพิทักษ์รับใช้ลุงตู่อยู่จนอยากจะทิ้งนั่งร้านไปเลยก็ได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top