Thursday, 19 June 2025
ค้นหา พบ 48881 ที่เกี่ยวข้อง

'อัษฎางค์' เปิดถ้อยคำทูตสหรัฐฯ คนใหม่ "สหรัฐฯ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย"

(19 ก.ค. 2565) อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ระบุว่า “ความพยายามในการทำให้การละเมิดกฎหมาย เป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” ของฝ่ายที่เรียกตนเองว่า ฝ่ายปฏิรูป

ข่าวที่นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค Robert F. Godec เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่ ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภาสหรัฐ

ไม่มีประเด็น ม.112 แต่อย่างใด

แต่ที่เกิดประเด็นขึ้นนั้น เกิดมาจากการตีไข่ใส่ซีอิ๊วน้ำปลาของพวกที่ต่อต้าน ม.112 และเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น

อย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี ที่ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว

กล่าวคือ ฝ่ายที่ต่อต้าน 112 และสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ตีปีกฮึกเหิมว่าอเมริกาแสดงท่าทีเข้าข้างพวกตน ส่วนฝ่ายที่จงรักภักดีก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ว่าสหรัฐฯ ก้าวก่าย

ซึ่งข่าวนี้ได้รับการยืนยันจากวงในว่า ไม่มีอะไรในกอไผ่ มีแต่การบิดเบือนสาระสำคัญจากถ้อยคำของเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ของฝ่ายปฏิกษัตริย์นิยมเท่านั้น

ท่านทูตโกเดคกล่าวเพียงว่า

“The United States respects the institution of the Thai monarchy and we understand the esteem with which the Thai people hold the royal family.

สหรัฐฯ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย และเรา (สหรัฐฯ) เข้าใจดีว่าคนไทยเทิดทูนราชวงศ์

Freedom of expression is critical.

เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นนั้นเป็นเรื่องสำคัญ

and I would emphasize both publicly and privately the importance of allowing people to freely express their ideas without threat of arrest.”

และผมเน้นย้ำทั้งต่อสาธารณะและโดยส่วนตัวถึงความสำคัญในการให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี โดยปราศจากการข่มขู่ว่าจะจับกุม

จะเห็นได้ว่า ท่านทูต เกริ่นมาตั้งแต่ต้นว่า

สหรัฐฯ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย และสหรัฐฯ เข้าใจดีว่าคนไทยเทิดทูนราชวงศ์

ดังนั้น ในเมื่อคนไทยเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วจะมีเหตุผลใดที่คนไทยจะใช้ความมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเพื่อทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์

ในทางเดียวกัน จะมีเหตุผลใดที่รัฐหรือสถาบันพระมหากษัตริย์จะข่มขู่ว่าจะจับกุมคนไทยซึ่งเทิดทูนสถาบันฯ

ยิ่งไปกว่านั้น สหรัฐอเมริกาได้ชื่อว่าเป็นประเทศผู้นำของโลกเสรีนิยม ซึ่งสนับสนุนให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี “ภายใต้กรอบของกฎหมาย” โดยปราศจากการข่มขู่ว่าจะจับกุม

‘แอนโทนี่’ รุดเยี่ยม ให้กำลังใจ ครอบครัว ‘ปานเพชร’ หัวหน้าค่าย เผยนักชกฝรั่งเศส ช็อกถึงขั้นร้องไห้คนเดียว

‘แอนโทนี่’ รุดเยี่ยม ให้กำลังใจ ครอบครัว ‘ปานเพชร’ หัวหน้าค่ายเผย นักชกชาวฝรั่งเศส ช็อกหนัก ซึมเศร้า-ร้องไห้คนเดียว หลัง ‘ปานเพชร’ สมองตาย อาการโคม่า

จากกรณีช็อกในวงการมวย ในการชก “ศึกมวยไฟเตอร์ X” เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่เวทีมวยเยาวชนกองทัพอากาศ ในคู่ระหว่าง ปานเพชร ผดุงชัยมวยไทย ชกกับ แอนโทนี่ ทีเอฟซี มวยไทย นักชกชาวฝรั่งเศส

ผลปรากฏว่า ปานเพชร โดนศอกกลับแพ้น็อกไป ซึ่งจังหวะดังกล่าว ปานเพชร หลับกลางอากาศหัวฟาดพื้นอย่างแรงจนเลือดคั่งในสมอง ซึ่งขณะนี้ ปานเพชร ยังอยู่ในอาการโคม่าจากภาวะสมองตาย

ล่าสุด วันที่ 19 ก.ค. 65 เพจ TFC Muaythai Gym ทีเอฟซีมวยไทยยิม ได้โพสต์ข้อความว่า จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (15 กรกฎาคม) ปานเพชร ผดุงชัยมวยไทยยิม พลาดท่าโดนศอกกลับของ แอนโทนี่ ทีเอฟซีมวยไทยยิม เป็นเหตุทำให้ปานเพชรหมดสติและล้มลงหัวฟาดพื้น ซึ่ง ณ ขณะนี้ น้องปานเพชรยังโคม่า และมีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด

ทางค่ายติดตามข่าวสารอาการของปานเพชรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพยายามหาช่องทางการติดต่อไปยังภรรยาของปานเพชร

ทางหัวหน้าค่ายมวยทีเอฟซี และทุกคนในค่ายรวมทั้ง แอนโทนี่ รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง

แอนโทนี่ มีอาการซึมเศร้า ร้องไห้คนเดียว ทุกคนในค่ายรู้สึกเเย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวมถึงตัวผมด้วย

นายกฯ ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง เก่งทุกเรื่อง ไม่ได้ฉลาดที่สุด เหมือนบางคนที่ท่านบอกฉลาดที่สุด ตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้

นายกฯ ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง เก่งทุกเรื่อง ไม่ได้ฉลาดที่สุด เหมือนบางคนที่ท่านบอกฉลาดที่สุด ตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
กล่าวเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2565

'บิ๊กตู่' สวนแรง!! 'หมอชลน่าน' ฉลาดกว่า แต่โชคดีที่ไม่เคยรักษาด้วย เพราะเหมือนพิการทางสมอง

ท่านเป็นบุคลากรทางการแพทย์อยู่แล้ว (นพ.ชลน่าน) ฉลาดกว่าผมอยู่แล้ว โชคดีที่ผมไม่ได้ไปรักษาอะไรกับท่าน เพราะท่านว่าผมมีอาการพิการทางสมอง ผมก็โชคดีถ้าผมเป็น ผมก็รักษากับท่านไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
กล่าวโต้ตอบ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน

บิ๊กตู่จัดให้!! มติ ครม. 18 ก.ค. 2565

>> ครม.เห็นชอบ ร่างความตกลงด้านความปลอดภัยนิวเคลียร์ไทย-สหรัฐฯ 
ครม.เห็นชอบการจัดทำความตกลงระหว่างสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติแห่งประเทศไทย กับ คณะกรรมาธิการกำกับดูแลนิวเคลียร์แห่งสหรัฐอเมริกา (USNRC) เพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการและความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์  ซึ่งฉบับเดิมสิ้นสุดไปเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา 

สำหรับร่างความตกลงฉบับใหม่ยังคงหลักการเดิม โดยเป็นเอกสารสัญญาที่กำหนดขอบข่ายและแนวทางการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงเทคนิค เกี่ยวกับกฎ ระเบียบ มาตรฐานที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแลความปลอดภัย ความมั่นคง การพิทักษ์ ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ มีระยะเวลา 5 ปี ที่จะขับเคลื่อนภายใต้ขอบเขตข้อตกลง คือ 
1. การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการที่ไม่เป็นความลับที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์และวัสดุกัมมันตรังสี 
2. ความร่วมมือในการวิจัยความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ 
และ 3. การฝึกอบรมและการมอบหมายหน้าที่ โดยจะขับเคลื่อนผ่านการ

ทั้งนี้ไทยจะได้รับประโยชน์จากร่างความตกลงดังกล่าว ทั้งได้รับการสนับสนุนในด้านการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อสนับสนุนและฝึกอบรมในหัวข้อที่ไทยขาดความเชี่ยวชาญ โครงการฝึกอบรมด้านการประเมินความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์แบบเครื่องปฏิกรณ์วิจัยและแบบเครื่องปฏิกรณ์กำลังเพื่อการอนุญาตและตรวจสอบ การก่อสร้าง สำหรับใช้ในการประเมินและตรวจสอบแบบก่อสร้างของโครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยรังสีรักษาจากโบรอนจับยึดนิวตรอนและโครงการจัดตั้งสถานประกอบการอื่นๆ ในอนาคต เป็นต้น

>> ครม.เห็นชอบ ร่างถ้อยแถลง รมต.อาเซียนด้านสตรี หนุน ความเท่าเทียมระหว่างเพศ หนุน ดิจิทัลเสริมศักยภาพสตรีสู่ธุรกิจ
ครม.เห็นชอบ ร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสตรี ครั้งที่ 4 ตามที่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอ มีสาระสำคัญ
1. เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ การเสริมพลังสตรีและเด็กหญิงในภูมิภาคอาเซียน ตามวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ปี 2568 โดยตระหนักถึงผลกระทบด้านเพศภาวะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อสตรีและเด็กหญิง 
2. สถานะของสตรีที่มีแนวโน้มอยู่ด้อยกว่าบุรุษ และกลุ่มสตรีที่อาศัยในชนบทที่ยากจน กลุ่มสตรีชาติพันธุ์ สตรีพิการ สตรีย้ายถิ่นฐาน ต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะถูกละทิ้งไว้ข้างหลัง และมุ่งให้ความสำคัญในการสร้างโอกาสการเข้าถึงของสตรีผ่านการปฏิวัติทางดิจิทัล เช่น  การส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีดิจิทัลและการสร้างความเข้มแข็งในการแข่งขันทางดิจิทัล เพื่อให้สตรีของอาเซียนปรับตัว พัฒนา และประสบความสำเร็จภายหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในภูมิภาคอาเซียน 

สำหรับสาระสำคัญของร่างถ้อยแถลงร่วม ยืนยันถึงการส่งเสริมสตรีใน 2 ด้าน คือ 
1. ส่งเสริมสตรีในเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการปรับปรุงการเข้าถึงการสนับสนุนและข้อมูลด้านการเงิน การฝึกอบอรม เสริมสร้างศักยภาพ โอกาสด้านการตลาดและความเชื่อมโยงนโยบายอื่น 
2. การมีส่วนร่วมของสตรีในกระบวนการตัดสินใจและการกำหนดนโยบาย โดยรับฟังเสียงและความต้องการของสตรี เพื่อประกันว่าการดำเนินนโยบายและแผนงานมีมุมมองมิติเพศภาวะ ทั้งนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะแจ้งผลการรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ไปยังสำนักเลขาธิการอาเซียนต่อไป

>> ครม.ไฟเขียวคุมรถป้ายแดง กำหนดอายุใบอนุญาต 5 ปี   
ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาตขับรถยนต์หรือให้ผู้อื่นขับรถยนต์ที่มีไว้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อม และกำหนดแบบใบอนุญาตสมุดคู่มือประจำรถ และลักษณะเครื่องหมายพิเศษ พ.ศ.... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ 

โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาตขับรถยนต์หรือให้ผู้อื่นขับรถยนต์ที่มีไว้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อม โดยกำหนดอายุของใบอนุญาตและเงื่อนไขให้ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องรายงานการใช้เครื่องหมายพิเศษ(ป้ายแดง) ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งปรับปรุงแบบใบอนุญาตคู่มือประจำรถและลักษณะเครื่องหมายพิเศษเพื่อให้ทางราชการสามารถควบคุม กำกับ ดูแลการใช้เครื่องหมายพิเศษ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดปัญหาการหลีกเลี่ยงการใช้รถโดยไม่จดทะเบียน   

สำหรับรายละเอียดการปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงฉบับนี้ มีสาระสำคัญ เช่น กำหนดอายุของใบอนุญาต สมุดคู่มือประจำรถและเครื่องหมายพิเศษให้ชัดเจน(จากเดิมไม่ได้กำหนดไว้) โดยกำหนดให้ใบอนุญาต (ใบอนุญาตขับรถยนต์หรือให้ผู้อื่นขับรถยนต์ที่มีไว้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อม) คู่มือประจำรถ(ที่นายทะเบียนออกให้แก่ผู้ได้รับอนุญาต) และเครื่องหมายพิเศษ (ป้ายแดงที่นายทะเบียนออกแก่ผู้ได้รับใบอนุญาต) มีอายุ 5 ปี นับแต่วันออกใบอนุญาต  

รวมทั้งมีบทเฉพาะการกำหนดให้บรรดาใบอนุญาต สมุดคู่มือประจำรถและเครื่องหมายที่จัดทำไว้แล้วก่อนวันที่กฎกระทรวงมีผลบังคับ ซึ่งนายทะเบียนจะออกให้หรือได้ออกให้แล้วแก่ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ใช้ได้ต่อไปไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ 

>> ครม.ไฟเขียวกนอ.ร่วมทุนพัฒนาท่าเทียบเรือสาธารณะมาบตาพุดรองรับสินค้าตู้คอนเทนเนอร์
ครม. เห็นชอบให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ดำเนินโครงการบริหารจัดการท่าเทียบเรือสาธารณะเพื่อขนถ่ายสินค้าทั่วไป ตามพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โดยท่าเทียบเรือที่มาบตาพุด ประกอบด้วยผู้ได้รับสัมปทานหลายบริษัท แต่ที่หมดสัญญาสัมปทาน คือ บริษัท ไทย คอนเน็คทิวิตี เทอมินอล จำกัด ซึ่ง ครม. เห็นชอบให้กนอ. เดินหน้าทำสัญญาใหม่ มีระยะเวลาอีก 30 ปี โดยจะเป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างกนอ. และบริษัท ไทย คอนเน็คทิวิตี เทอมินอล จำกัด โดยมีมูลค่ารวม 3,221 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง

การลงทุนใหม่ที่จะเกิดขึ้นนั้น ได้มีการพิจารณาหลายทางเลือก ซึ่งแนวทางเลือกที่กนอ. เสนอให้ครม. เห็นชอบ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะว่าทางกนอ. ไม่มีความเสี่ยง และไม่ต้องลงทุนเพิ่ม สำหรับสาระที่ได้ไปพิจารณามา คือ จะมีการเก็บค่าเช่าพื้นที่ ค่าตอบแทนคงที่ 15 ล้านบาทในปีแรก และปรับเพิ่มขึ้น 5% ทุก 5 ปี รายได้มาจากค่าภาระเรือเข้าท่าทั้งหมด ส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินกิจการ 5%

โดยการลงทุนในท่าเทียบเรือของบริษัท ไทย คอนเน็คทิวิตี เทอมินอล จำกัด เดิมเป็นท่าเทียบเรืออเนกประสงค์ที่เป็นการขนถ่ายสินค้าทั่วไป สินค้าเทกอง แต่ในการทำสัญญาใหม่นั้น จะให้บริการเกี่ยวกับสินค้าตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้น ระยะเวลาตามสัญญา คือ 30 ปี

อย่างไรก็ตาม แม้จะบอกว่าเป็นการลงทุนของภาครัฐและเอกชนร่วมกัน แต่ในทางปฎิบัติภาครัฐไม่ต้องลงทุนเพิ่มในลักษณะตัวเงิน แต่ประเมินในลักษณะทรัพย์สินค่าที่ดินที่มีมูลค่า 963 ล้านบาท ส่วนภาคเอกชนต้องลงทุนอีก 2,257 ล้านบาท

>> ครม.ไฟเขียว ขสมก.กู้เงินเสริมสภาพคล่อง 7,516 ล้านบาท 
ครม. มีมติอนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ประจำปีงบประมาณ 2566 รวมจำนวน 7,516 ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กำหนดวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆในการกู้เงิน โดยกระทรวงคมนาคมรายงานว่า ขสมก.ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากผลประกอบการที่ขาดทุนและไม่ได้รับเงินชดเชยผลการขาดทุนตามจำนวนที่เกิดขึ้นจริง
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top