Tuesday, 29 April 2025
ค้นหา พบ 47744 ที่เกี่ยวข้อง

14 มิถุนายน พ.ศ. 2130 ‘พระเจ้าตาก’ เปิดยุทธการทุบหม้อข้าว นำทัพบุกตีเมืองจันทบูร

วันนี้เมื่อ 255 ปีก่อน สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สั่งทุบหม้อข้าวก่อนบุกตีเมืองจันทบูร นับเป็นยุทธการที่ลือลั่นจวบจนถึงทุกวันนี้

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2310 ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ คือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ยกทัพ บุกตีเมืองจันทบูร และได้ปลุกขวัญกำลังใจเหล่าทหารด้วยการ ทุบหม้อข้าว หมายจะได้กินข้าวเช้าในเมืองจันทบูร หากตีเอาเมืองไม่ได้ ก็ให้ตายด้วยกันเสียให้หมด ถือว่าเป็นกลศึกที่ปลุกขวัญกำลังใจแก่ทหารกล้าเป็นอย่างมาก และเป็นยุทธวิธีอันลือลั่นมาจนถึงทุกวันนี้

จากเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว 2 เดือนเจ้าตากเดินทัพจากระยองผ่านแกลงเข้าบางกระจะ มุ่งยึดจันทบุรี เจ้าเมืองจันทบุรีไม่ยอมสวามิภักดิ์ เจ้าตากต้องการยึดเมืองจันทบุรีไว้เป็นที่มั่นเพื่อรวบรวมกำลังมาตีพม่า จึงสั่งทหารทุกคนว่า

"เราจะตีเมืองจันทบุรีในค่ำวันนี้ เมื่อกองทัพหุงข้าวเสร็จแล้ว ทั้งนายไพร่ให้เททิ้งอาหารที่เหลือและต่อยหม้อเสียให้หมด หมายไปกินข้าวเช้าด้วยกันที่ในเมืองเอาพรุ่งนี้ ถ้าตีเอาเมืองไม่ได้ในค่ำวันนี้ ก็จะให้ได้ตายเสียด้วยกันให้หมดทีเดียว"

ในวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2310 ครั้นถึงเวลา 19.00 น. เจ้าตากจึงได้สั่งให้ทหารไทยและจีนลอบเข้าไปอยู่ตามสถานที่ที่ได้วางแผนไว้แล้ว ให้คอยฟังสัญญาณเข้าตีเมืองพร้อมกัน จึงให้โห่ขึ้นให้พวกอื่นรู้ เมื่อเวลา 03.00 น. เจ้าตากก็ขึ้นคอช้างพังคีรีบัญชร ให้ยิงปืนสัญญาณพร้อมกับบอกพวกทหารเข้าตีเมืองพร้อมกันส่วนเจ้าตากก็ไสช้างเข้าพังประตูเมืองจนทำให้บานประตูเมืองพังลง ทหารเจ้าตากจึงกรูกันเข้าเมืองได้ พวกชาวเมืองต่างพากันละทิ้งหน้าที่หนีไป ส่วนพระยาจันทบุรีก็พาครอบครัวลงเรือหนีไปยังเมืองบันทายมาศ เจ้าตากตีเมืองจันทบุรีได้ เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 7 แรม 3 ค่ำ จุลศักราช 1129 ปีกุน นพศก เพลา 3 ยามเศษ ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2310 เวลาประมาณ 03.00 น. หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว 2 เดือน

‘หมอธีระวัฒน์’ เปิดงานวิจัยมีเซ็กซ์ 21 ครั้ง/เดือน ช่วยท่านชายปลอดมะเร็งต่อมลูกหมาก

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เปิดงานวิจัยจากต่างประเทศ เผยว่ามีเซ็กซ์ 21 ครั้งต่อเดือน ปลอดมะเร็งต่อมลูกหมาก นอกจากนี้พบคนกลุ่มนี้ไม่ค่อยเป็นกลุ่มรักสุขภาพนัก กินเยอะ ดื่มเยอะ

วันนี้ (13 มิ.ย.) เฟซบุ๊ก ‘ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha’ หรือ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ออกมาโพสต์งานวิจัยจากต่างประเทศ โดยระบุว่า ปั่มปั๊ม 21 ครั้งต่อเดือน ปลอดมะเร็งต่อมลูกหมาก

ชายเราถึงอายุหนึ่งจะมีปัญหาเรื่อง ‘ฉี่’ กล่าวคือ ยืนตั้งนานไม่ออกสักที ออกก็ไม่ค่อยจะพุ่ง เสร็จแล้วก็เหมือนไม่เสร็จ มีปัญหาจนไม่ค่อยอยากจะฉี่ ยอมอดน้ำเลยลุกลามไปจนเลือดข้นหนืด ไปมีปัญหาต่อไต ต่อหัวใจ อัมพฤกษ์ต่อ

สำหรับบุรุษเพศสาเหตุใหญ่สำคัญคือ ต่อมลูกหมากโต และมีเยอะที่เป็นมะเร็ง ถ้ายังไม่เป็นและยังไม่อยากผ่าตัด คว้านต่อม ก็มียาซึ่งเดิมเป็นยาลดความดัน แต่ความที่ทำให้หูรูดในการฉี่บานได้ เลยเอามาใช้ในการนี้ แต่ควรต้องระวังความดันตก หน้ามืด ยาประเภทนี้ออกฤทธิ์ต้าน alpha receptor

ยาอีกกลุ่มทำให้ต่อมลูกหมากเล็กลง ผ่านกระบวนการยับยั้งฮอร์โมน DHT ที่มาจากฮอร์โมนเพศชาย (5-Alpha Reductase Inhibitor) เช่น ยา Finasteride (Proscar) Dutasteride (Avodart) แต่แถมผลข้างเคียง คือ ลดความต้องการทางเพศ ไม่ค่อยแข็งตัว การขับเคลื่อนน้ำกาม (ejaculation) แปรปรวน แต่ที่ต้องระวังเป็นสำคัญคือยากลุ่มหลังนี้ทำให้การตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมากที่ชื่อว่า PSA ได้ค่าลดลงจนถึงตรวจไม่เจอ เลยตายใจว่าไม่เป็นมะเร็งทั้ง ๆ ที่เป็น

รายงานในปี 2011 พบว่าแม้ยากลุ่มหลังนี้จะลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้บ้าง แต่ถ้าเป็นแล้วยากลุ่มนี้อาจกลับทำให้เป็นมะเร็งแบบชนิดที่มีความรุนแรงลุกลามมากขึ้น อาหารเสริมที่อ้างว่าทำให้ต่อมเล็กลงชื่อ Saw Palmetto สกัดจากผลของ Serenoa Repens พบว่าไม่มีประสิทธิภาพจริงและอาจทำให้การตรวจค่ามะเร็ง PSA ได้ผลลบปลอม

ถึงตอนนี้มาถึงคำโบราณที่พูดกันมาในกลุ่มผู้ชายทั้งหลายว่า หนทางสุขภาพ รวมทั้งกันต่อมลูกหมากโต กันมะเร็ง คือปฏิบัติการ “ล้างท่อบ่อยๆ” (keep the pipes clean!) และเป็นที่มาของการศึกษาฮือฮาทั่วโลก นับแต่มีการเสนอผลงานในที่ประชุมประจำปีของสมาคมระบบทางเดินปัสสาวะของอเมริกา และตีพิมพ์ในวารสาร European Urology (29 มีนาคม 2016)

ผลการศึกษาจากการติดตามโดยคณะศึกษาทางระบาดวิทยามะเร็งที่บอสตัน ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 31,925 คน ตั้งแต่ปี 1992 จนถึงปี 2010 โดยที่ ณ ปี 1992 อายุเกณฑ์เฉลี่ยอยู่ประมาณที่ 59 ปี ในช่วง 18 ปีของการติดตามมี 3,839 รายเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก และ 384 รายรุนแรงถึงชีวิต ขั้นตอนในการวิเคราะห์เจาะลึกตั้งแต่เริ่มต้นในปี 1992 มีการให้รายงานปริมาณจำนวนของการขับเคลื่อนน้ำกาม (แทนในที่นี้ด้วยปั่มปั๊ม) ในช่วงเวลาตั้งแต่อายุ 20-29, 30-39, 40-49 และ 50 เป็นต้นไป ทั้งนี้มีการวิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจมีส่วนให้เกิดมะเร็ง

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมขับเคลื่อนการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ

เชียงใหม่ - พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามนโยบายรวมไทยสร้างชาติและขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน (Stronger Together) ของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งการบูรณาการความร่วมมือของส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนทุกภาคส่วน รวมพลังกันเพื่อทำนุบำรุงสถาบันหลักของชาติ ได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตอบสนองความต้องการและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในทุกมิติ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยดำเนินโครงการ “สร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล เพื่อสนับสนุนการป้องกันอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามนโยบายขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน (Stronger Together)” โดยมีเป้าหมาย “เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเสนอและแก้ไขปัญหา ชุมชนสังคมมีความสงบเรียบร้อย ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ ส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เพื่อความผาสุกของประชาชนอย่างยั่งยืน” โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข และ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ   

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า ในวันนี้ ตนได้เดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อขับเคลื่อนและตรวจติดตามผลการดำเนินการ ให้คำปรึกษาและเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องการดำเนินการตามโครงการฯ ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 โดยได้ร่วมประชุมสรุปผลการดำเนินการร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 ทั้ง 8 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน พร้อมหัวหน้าสถานีตำรวจและข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.จว.เชียงราย และตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีการอบรมเครือข่ายประชาชนที่เป็นผู้นำ และผู้มีบทบาทในสังคมทุกสาขาอาชีพ จาก 159 สถานีตำรวจ สถานีตำรวจละ 50 คน รวม 7,950 คน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ถึงปัจจุบัน ได้รับรายงานปัญหาที่ประชาชนเดือนร้อน จำนวน 640 เรื่อง และได้ติดตามขับเคลื่อนและเร่งรัดให้หน่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้นแล้ว 608 เรื่อง ได้แก่ ปัญหาด้านสังคม จำนวน 476 เรื่อง ปัญหาด้านเศรษฐกิจ จำนวน 21 เรื่อง ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม จำนวน 80 เรื่อง และปัญหาความขัดแย้ง จำนวน 31 เรื่อง และอยู่ระหว่างหน่วยดำเนินการแก้ไข โดยคาดว่าจะแก้ไขได้ จำนวน 32 เรื่อง

จากนั้น พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้เดินทางลงพื้นที่พบปะเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย เยี่ยมเยียนและพบปะประชาชนทั้งในพื้นที่และผ่านทางแอปพลิเคชันคลับเฮาส์การมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านโพธนาราม และมอบสิ่งของให้กับประชาชนที่ได้รับการช่วยเหลือตามโครงการฯ สอบถามและรับฟังความคิดเห็น รับทราบสภาพปัญหาและความต้องการ ตลอดจนข้อเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาจากเครือข่ายภาคประชาชนในชุมชนบ้านโพธนารามและชุมชนบ้านสันกอง พร้อมทั้งตรวจติดตามผลการแก้ไขปัญหาของทุกชุมชนใน อ.แม่จัน จ.เชียงราย

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวต่อว่า ผลการปฏิบัติของ สภ.แม่จัน ในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนตามโครงการฯ ในพื้นที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่น่าพอใจในห้วงเวลาที่ผ่านมา เช่น...

1.ด้านเศรษฐกิจ ประสานสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอแม่จัน ดำเนินโครงการจัดหาแหล่งน้ำ พร้อมการบริหารจัดการเส้นทางน้ำอย่างยั่งยืน และประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอแม่จัน ดำเนินโครงการขยายไฟฟ้าเพื่อการเกษตรของหมู่บ้านเพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพผลผลิต ประสานเกษตรอำเภอแม่จันส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเพื่อเพิ่มรายได้และกำหนดราคาที่คุ้มทุนได้ ลดการกู้หนี้นอกระบบและลดปัญหาหนี้สิน

2.ด้านสิ่งแวดล้อม แก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบ่อยครั้งบนถนนทางการเกษตรและถนนสาธารณะ และจัดชุดจิตอาสา สภ.แม่จัน ร่วมกิจกรรมปรับปรุงเส้นทางร่วมกับชาวบ้านในชุมชนจนแก้ไขปัญหาได้สำเร็จลุล่วง

3.ด้านสังคม ติดตั้งเครื่องหมายและสัญลักษณ์จราจรแจ้งเตือน ประสานเทศบาลตำบลสันทราย เพื่อทาสี ตีเส้นบนผิวทางและเสาไฟฟ้าเพื่อลดอุบัติเหตุ แก้ไขปรับปรุงระบบไฟฟ้าส่องสว่างในชุมชน วางระบบป้องกันภัยหมู่บ้าน และติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดทั่วพื้นที่ชุมชน

4.ด้านความขัดแย้ง ได้ดำเนินโครงการวางท่อระบายน้ำและทำพนังกั้นน้ำ เพื่อแก้ปัญหาข้อขัดแย้งเรื่องการใช้น้ำจากแม่น้ำห้วยน้ำขุ่นเพื่อการเกษตร ระหว่างชาวบ้านสันกอง และกลุ่มชาติพันธุ์ได้สำเร็จ

5.จัดตั้งแอปพลิเคชันคลับเฮาส์ของทุกชุมชน เป็นช่องทางในการสื่อสารสภาพปัญหาและความต้องการของเครือข่ายภาคประชาชนกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อลดขั้นตอน อำนวยความสะดวกและความรวดเร็วในการเข้าถึงและแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งให้ความรู้ทางกฎหมายและแนวทางการระวังป้องกันตนเองในอาชญากรรมรูปแบบใหม่ เช่น แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งสามารถสร้างการรับรู้ได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง 

พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดชุมชนสัมพันธ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ประสานงานเครือข่ายของ 8 จังหวัดในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 และทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ ให้เร่งประสานงานกับเครือข่ายภาคประชาชนที่ได้รับการคัดเลือก ให้สะท้อนสภาพปัญหาและความต้องการของชุมชนและประชาชนในพื้นที่ เพื่อประสานหน่วยงานผู้รับผิดชอบ เข้าช่วยเหลือและทำการแก้ไข พร้อมทั้งเร่งรัดการแก้ไขปัญหาของคณะกรรมการในแต่ละระดับ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น อำเภอ และจังหวัด สำหรับสถานีตำรวจที่ยังมีผลการปฏิบัติน้อย ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับลงไปตรวจสอบ กำชับและกำกับดูแล ให้มีผลการปฏิบัติเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการและแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน

'จีน' สั่งแบน!! ปลาเก๋านำเข้าจากไต้หวัน ฟากรัฐบาลไทเปสู้กลับ ขู่ฟ้อง WTO

ความตึงเครียดระหว่างจีน และไต้หวัน ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง และเมื่อวันศุกร์ (10 มิ.ย. 65) ที่ผ่านมา กรมศุลกากรจีนแถลงว่า ตรวจพบสาร Oxytetracycline ในปลาเก๋าที่นำเข้าจากไต้หวัน ซึ่งเป็นสารเคมีต้องห้าม ทำให้ทางการจีนออกคำสั่งแบนการนำเข้าปลาเก๋าจากไต้หวันทันที มีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป 

แน่นอนว่าเรื่องนี้ได้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในไต้หวัน เนื่องจากพอทางการไต้หวันได้นำปลาเก๋ามาตรวจเอง ก็ไม่พบสารเคมีอันตราย หรือต้องห้ามแต่อย่างใด และเชื่อว่าคำสั่งห้ามนำเข้าปลาเก๋าจากไต้หวันของจีน จึงน่าจะเป็นการกดดันทางการเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลจีนก็เคยแบนผลผลิตทางการเกษตรของไต้หวันมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่สับปะรด และแอปเปิ้ล ที่เป็นผลไม้ขึ้นชื่อจากไต้หวัน ที่จีนสั่งห้ามนำเข้าและตีกลับทั้งล็อต จนรัฐบาลไทเปต้องเร่งออกแคมเปญขนานใหญ่ ทำการตลาดหาผู้ซื้อรายใหม่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และมาคราวนี้เป็นปลาเก๋า ที่เพาะเลี้ยงจากบ่อในไต้หวันอีก

แม้ว่าปลาเก๋าไต้หวันกว่า 90% จะบริโภคกันเองในประเทศเป็นหลัก และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ส่งออก ทำให้ผลกระทบกับตลาดปลาเก๋าไต้หวันค่อนข้างน้อย แต่ทว่าจำนวนปลาเก๋าที่ส่งออกทั้งหมดนั้น ถูกส่งเข้าตลาดจีนถึง 90% หรือคิดเป็นปริมาณถึง 6 พันตันต่อปี

นั่นจึงสร้างปัญหาให้แก่ผู้ส่งออกชาวไต้หวันไม่น้อย ที่ต้องเร่งหาตลาดแหล่งใหม่ระบายปลาเก๋าในส่วนของตลาดจีนโดยทันที 

คริปโตระเนระนาด ตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ป่วนหนัก หลังเงินเฟ้อพุ่ง และประธานเฟดกำลังจะคุมไม่อยู่

(14 มิ.ย.65) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นักเศรษฐศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตลาดพันธบัตรสหรัฐปั่นป่วนหนัก!!!

ไม่ใช่ตลาดหุ้น ตลาดคริปโตเท่านั้นที่ระเนระนาด ตลาดพันธบัตรก็ถูกกระทบหนักเช่นกัน ในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงแค่ 3 วัน ดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐ 2 ปี เพิ่มขึ้น +0.58% สูงสุดในรอบ 14 ปี เป็น 3.354% รับกับดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐในอายุอื่น ๆ ที่พุ่งขึ้นเช่นกัน นำมาซึ่งความเสียหายกับผู้ที่ได้ลงทุนในกองพันธบัตรสหรัฐต่าง ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น ดอกเบี้ยพันธบัตรระยะสั้นเช่น 2 ปี ได้เริ่มพุ่งไปอยู่ระดับที่สูงกว่าดอกเบี้ยระยะยาว 10 ปี 30 ปี ทำให้เริ่มเข้าสู่ภาวะ Inverted Yield Curve เป็นรอบที่สองของปี สะท้อนสัญญาณว่าจะมี Recession ในอนาคต 12-24 เดือนข้างหน้า

ภาวะเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดคิดว่า เฟดต้องขึ้นดอกเบี้ยไปจัดการปัญหาระยะสั้น และนำมาซึ่งเศรษฐกิจที่ซบเซาหรือถดถอย (Recession) จนท้ายสุดเฟดต้องลงดอกเบี้ยมาในระยะยาว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง

ทั้งหมดนี้ เป็นผลมาจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ ที่ออกมาว่า เงินเฟ้อที่คิดกันว่าผ่านจุดสูงสุดแล้ว ยังสามารถสูงขึ้นได้อีก Inflation is alive and well ดื้อยา กว่าที่คิด ซึ่งมีนัยยะต่อไปกับการประชุมของเฟดในคืนวันอังคารและคืนวันพุธ ว่า กรรมการจะตัดสินใจอย่างไร

แต่ที่แน่ ๆ สูตรยาโดยรวมจะต้องแรงขึ้น โดยตลาดคิดว่า จะต้องเพิ่มไปอีกอย่างน้อย .50% จากแนวทางเดิมที่ท่านประธานเฟดเคยประกาศไว้เมื่อการประชุมครั้งที่แล้ว เพียงแค่ว่าจะเป็นแบบ ทำเลย หรือ Front Load คือ ขึ้น +0.75% ในรอบนี้เลย หรือ ค่อยเป็นค่อยไป คือ ยังขึ้น +0.5% ในรอบนี้ และประกาศว่าจะขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีไปอีก 3-4 ครั้ง ปรับเพิ่มจากแนวทางเดิม ที่เหลืออยู่อีก 1-2 ครั้งเท่านั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top