‘ไอร์แลนด์’ ลุยแบนสินค้าจาก ‘อิสราเอล’ กลายเป็นชาติแรกในยุโรปที่ออกกฎหมายชัดเจน

(30 มิ.ย. 68) ไอร์แลนด์กลายเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรปที่ผ่านร่างกฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าจากพื้นที่ชาวยิวตั้งถิ่นฐาน (settlements) ของอิสราเอลในเขต West Bank และ East Jerusalem ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ต่อการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ 

ร่างกฎหมายมีชื่อว่า "Israeli Settlements (Prohibition of Importation of Goods) Bill 2025" ให้ความชัดเจนว่าห้ามนำเข้าสินค้าจากย่านเหล่านั้น เช่น ผลไม้ เครื่องสำอาง และไม้ เฉพาะสินค้าที่ผลิตในพื้นที่ที่อิสราเอลยึดครองเท่านั้น สินค้าที่ผลิตโดยชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่เดียวกันจะยังได้รับอนุญาต 

รัฐบาลไอร์แลนด์กล่าวว่า การกระทำนี้สอดคล้องกับคำปรึกษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เมื่อปีที่ผ่านมา ที่เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ หยุดสนับสนุนเศรษฐกิจจากการยึดครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รองนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ไซมอน แฮร์ริส (Simon Harris) เผยว่าการเป็นผู้นำครั้งนี้จะสร้างแรงกดดันเชิงสากลและเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่นๆ ปฏิบัติตาม

อิสราเอลตอบโต้ไอร์แลนด์อย่างรวดเร็วด้วยการปิดสถานทูตในกรุงดับลิน โดยให้เหตุผลว่าไอร์แลนด์มีพฤติกรรมเลือกปฏิบัติและขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งจริง ๆ แล้วอิสราเอลได้ดำเนินการปิดสถานทูตไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตึงเครียดยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน กลุ่มสิทธิมนุษยชนและนักวิชาการจำนวนมากออกมาแสดงการสนับสนุนกฎหมายของไอร์แลนด์ โดยชี้ว่าแนวทางนี้มีฐานทางกฎหมายรองรับอย่างชัดเจน