‘อดีตบิ๊กศรภ.’ ฟันธง!! ยอดมวลชน ‘อนุสาวรีย์ชัยฯ’ เมื่อวานนี้ ทะลุห้าหมื่น ชี้!! ประสบความสำเร็จ แม้จะเป็นการชุมนุมนัดแรก และมีฝนตกกระหน่ำ

(29 มิ.ย. 68) พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง “เมื่อวานนี้มีคนออกมาไล่ นายกฯอิ๊ง และ ฮุนเซน กี่คนกันแน่!” ระบุว่า ตั้งแต่เข้ารับราชการเป็นทหาร ผมก็อยู่ในกองที่ทำงานสืบสวนคลุมพื้นที่กรุงเทพ และ ปริมฌฑล (กอง ที่ทำงานสืบสวนใน ศรภ.นั้นมีกำลังพลเกิน 100 คนขึ้นไปทุกกอง บางกองไปถึงกว่า 500 คน) ดังนั้น พื้นที่ไหนในกรุงเทพ บรรจุคนได้เท่าไร การประเมินของหน่วยข่าว จึงไม่ค่อยผิดพลาด ครับ ยกเว้นแต่เจ้านายจะเอาไปแก้ ให้น้อยลง

เมื่อวานนี้ผมมาถึงอนุสาวรีย์ชัย ประมาณ 16.00 น. ได้ พอมาถึงก็เดินเข้าหาที่ชุมนุมทันที ทักทายผู้คนทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักมาตั้งแต่อยู่บนรถไฟฟ้าแล้ว ระหว่างทางเกิดพายุฝนหนักหนามาก จนดูเหมือนฟ้ากับดินประสานเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อมาถึงบริเวณอนุสาวรีย์ ผมก็กลายเป็น ลูกหมาตกน้ำ ไปแล้ว หลายกลุ่มที่นัดหมายพบกันไว้ก็ผิดพลาดกระจัดกระจายกันไปหมด เช่น กลุ่มเชียงใหม่  รศ.ธีระฯ  คุณ กุ๊ก และ รศ.อัศวนีย์, กลุ่มพิษณุโลก อ.จักษ์, กลุ่มปากช่อง เฮียเกรียง, กลุ่ม สตูล บังโต, กลุ่มเพชรบุรี  หมีเซี้ย ฯลฯ ส่วนกลุ่มภูเก็ตมาเจอตอนขากลับ ก็ขออภัยด้วยครับ แต่เชื่อเถอะมันคงต้องมีเรื่องมาให้พบกันแบบนี้อีก แน่นอน

พอฝนหยุดตกสักพัก ผมก็มายืนร้องเพลงชาติ อยู่ที่หัวมุมถนน ทุกคนร้องกันสุดเสียง เหมือนต้องการระบายอะไรในใจออกไป จากนั้นผมก็ไปขอพักอยู่กับ กลุ่มสุขุมวิทย์ ของ พี่แอ๊ว พี่แดง ที่ห้องอาหารชั้น 3 พงหลี  พอตัวแห้งดีแล้ว ก่อนกลับก็ลงมาสำรวจพื้นที่อีกที

คนดูเหมือนจะเต็มลานอนุสาวรีย์  เว้นแต่พื้นที่เล็กๆ 3 แห่งที่มีน้ำฝนขังเป็นแอ่งน้ำไว้มาก ผู้ชุมนุมจึงขยายตัวเข้าไปในถนนทางไปดินแดงและพหลโยธิน (ทุกถนนที่แยกจากอนุสาวรีย์มีคนทั้งนั้นแต่ไม่มากเหมือนทางพหลโยธิน ส่วนทางดินแดง มีจักรยานยนต์จอดอยู่ช่วงกลางถนน น่าจะเป็นของผู้มาร่วมชุมนุมและสำหรับให้บริการรับส่งเข้า-ออกพื้นที่ชุมนุม  ส่วนอีก 2 ถนน เป็นที่ขึ้นลงรถไฟฟ้า เป็นจุดหลักให้ผู้คนเข้ามาร่วมชุมนุม ซึ่งมีการเดินเข้าตลอดเวลาแม้จะใกล้ช่วงปิดงาน)

บน Skywalk ผู้ชุมนุมจัดระเบียบกันเอง แถวหน้าสุด นั่งกับพื้นหรือใช้เก้าอี้ตัวเล็กๆนั่ง แถว 2 ยืนเบียดกันค้ำหัวแถวแรก แถว 3-4 เป็นช่องทางเดินสวนกันไปมาแน่นเอียดเหมือนไหลไป แถว 5 ปีนนั่งตามราวขอบ(อย่างน่าหวาดเสียว บางคนถือธงชาติผืนใหญ่โบกไปมาด้วย) ทุกขั้นบันไดขึ้นลงก็มีลักษณะเดียวกัน แต่ยืนเป็นหลัก

ตามปกติ ลานอนุสาวรีย์และ ขอบฟุตบาท จะบรรจุคนได้ประมาณ 5 หมื่นคน (15 แถวหน้าเวทีต้องนั่ง ) แต่คราวนี้ นั่งไม่ได้ เพราะมีน้ำฝนขัง ทำให้แฉะ  ผู้ร่วมชุมนุนจึงต้องยืน และค่อนข้างแน่น (ดูภาพที่ผมถ่ายมาประกอบ) คนจึงมากขึ้นกว่าปกติ เพราะการนั่งจะเปลืองพื้นที่มากกว่ายืน นอกจากนั้น ผู้ชุมนุมยังเกินล้น กระจายเข้าไปในถนนทุกสายที่แยกจากอนุสาวรีย์ประมาณ 30 ถึง 40 เมตร และยังมี บน Skywalks ที่แน่นขนัดเพิ่มเข้าไปอีก

สรุปแล้วผู้เข้าร่วมชุมนุมก็จะได้ประมาณห้าหมื่นคน (แบบไม่ต้องใช้ AI ช่วยเสริมเติมแต่งเพิ่ม)  ก็คงมากกว่าที่กัมพูชา ซึ่งมีประมาณ 2 หมื่นคนกระมังครับ

ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการทำลายสถิติ แม้การจัดเครื่องเสียงจะไม่ค่อยสมบูรณ์นัก เพราะเป็นการชุมนุมครั้งแรก ประกอบกับฝนกระหน่ำอย่างหนัก  ซึ่งน่าจะไม่ค่อยมีคนมามากขนาดนี้ อย่างมากก็ 3-4 หมื่นคน  ยกเว้นแต่จะชุมนุมต่อเนื่องกันมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงถือว่าประสบความสำเร็จ ซึ่งจะสะท้อนไปถึงรัฐบาลหรือไม่ ก็แล้วแต่ว่าแกนนำรัฐบาล  จะใช้สมองคิดบ้างไหมเท่านั้น

เรื่องอะไรๆ ก็ผ่านมาหมดแล้ว อยากให้ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองนี้  หรือของกัมพูชาด้วยก็ได้ เข้าใจว่า “ ดวงตะวันนั้นขึ้น แล้วก็ตก แต่นรก(ในใจ) ตกแล้วขึ้นยากครับ ”


ที่มา : Thaipost