‘ทรัมป์’ ขึ้นภาษี EU 50% ทำให้ ‘เยอรมนี’ เสี่ยงทรุดหนัก คาดสูญ 7.3 ล้านล้านบาท GDP ลดลง 1.1% ต่อปี..ถึง 2028
(27 พ.ค. 68) สถาบันเศรษฐกิจเยอรมนี (IW) รายงานว่า หากสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดำเนินมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรปที่อัตรา 50% ต่อเนื่องจนสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่ง อาจส่งผลให้เศรษฐกิจเยอรมนีสูญเสียมูลค่าสูงสุดถึง 200,000 ล้านยูโร (ราว 7.39 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2028
การศึกษาของ IW ชี้ว่า ผลกระทบดังกล่าวจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเยอรมนีลดลงเฉลี่ยปีละ 1.1% ระหว่างปี 2025 ถึง 2028 และหากสหภาพยุโรปตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีในลักษณะเดียวกัน ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของเยอรมนีอาจเพิ่มขึ้นเป็น 290,000 ล้านยูโร (ราว 10.71 ล้านล้านบาท) ในช่วงเวลาเดียวกัน
ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ประกาศเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2025 ว่าจะเรียกเก็บภาษี 50% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป โดยให้เหตุผลว่าการเจรจาการค้ากับสหภาพยุโรปไม่มีความคืบหน้า และระบุว่าหากสินค้าถูกผลิตในสหรัฐฯ จะไม่ถูกเก็บภาษีดังกล่าว
ขณะที่ ลาร์ส คลิงไบล์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเยอรมนี เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขข้อพิพาททางภาษีระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปโดยเร็ว เนื่องจากการเก็บภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย
ส่วนภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี โดยเฉพาะภาคการส่งออก กำลังเผชิญกับความเสี่ยงอย่างมากจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ