‘อนุทิน’ เห็นภาพชัดเชื่อรัฐบาลอยู่ครบเทอม พร้อมปัดข่าว ภท. เตรียมคว่ำ พ.ร.บ.งบ ฯ 69
(19 พ.ค. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว ว่าพรรคภูมิใจไทยจะคว่ำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 ว่า สถานการณ์การเมืองตอนนี้ตนมองว่าปกติ ทำไมผู้สื่อข่าวถึงได้มองว่าจะเครียด ซึ่งไม่มีอะไรเลย
ส่วนที่กรณีพรรคเพื่อไทยรวมพลังกับพรรคกล้าธรรม ขณะที่พรรคภูมิใจไทยกำลังรวมพลัง กับพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น
นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยรวมพลังกับทุกพรรค แม้กระทั่งพรรคฝ่ายค้าน หากทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมสนับสนุนหมดทุกอย่าง พร้อมชื่อว่าการเติบโตของพรรคกล้าธรรม ไม่ใช่การมาคานอำนาจกับพรรคภูมิใจไทย เพราะทุกพรรคก็ต้องการ การเติบโต และพรรคไหนที่สามารถรับใช้ประชาชนได้ พรรคนั้นก็จะเติบโต เหมือนกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งตนเองก็พูดคุยและมีการทำงานร่วมกันกับ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมอยู่ตลอด
นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่า ไม่เป็นความจริงที่พรรคภูมิใจไทยจะโหวตคว่ำร่างพ.ร.บ.งบฯ 69 เพราะรัฐบาลทำงบประมาณมาด้วยกัน และผ่านมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว อีกทั้งงบประมาณก็มีประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน ขณะที่กระทรวงในส่วนพรรคภูมิใจไทยรับผิดชอบดูอยู่อาทิ กระทรวงมหาดไทย มีงบประมาณถึง 400,000 ล้านบาท กระทรวงศึกษาธิการ ประมาณ 500,000 ล้านบาทกระทรวงอุดมศึกษาฯ ประมาณ 200,000 ล้านบาท และกระทรวงแรงงานอีกประมาณสองถึง 30,000 ล้านบาท รวมแล้วกระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยดูแลอยู่มีงบประมาณ ล้านล้านบาท หากว่าจะไม่เห็นชอบหรือไปโหวตคว่ำก็คงไม่ผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องนี้เป็นเรื่องของรัฐบาลและประชาชน ก็ต้องให้การสนับสนุน เนื่องจากเป็นงบประมาณที่รัฐบาลดำเนินการเอง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าขอถามเป็นครั้งที่10 ว่าตอนนี้มีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าตนขอยืนยันเป็นครั้งที่ 11 ว่าไม่มี และขณะนี้รัฐบาลก็มีความเข้มแข็ง มีเสียงในสภามากกว่า 320 เสียง และพรรคกล้าธรรมก็ยิ่งมีเสียงสส.เพิ่ม ก็ยิ่งทำให้รัฐบาลเข้มแข็งขึ้น ทำให้ตนเองไปผ่าตัดเลนส์ตาได้อย่างสบายใจ
ส่วนได้มองสัญญาณเชิงบวกกับสีน้ำเงินหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้มองอะไรเลย มองแต่เรื่องการทำงาน จากสายตาที่เคยขุ่นมัว พอเปลี่ยนเลนส์ตาก็ทำให้ชัดใสปิ๊ง กลับมาหล่อเหมือนเดิม และเห็นอนาคตของรัฐบาลได้ชัด ว่าจะอยู่ครบเทอม