‘นายกฯ อิ๊งค์’ พร้อมลงพื้นที่ อีสานตอนบน ริมแม่น้ำโขง จันทร์นี้ นำ!! คณะรัฐมนตรีสัญจร มั่นใจ!! แก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ทุกมิติ
(27 เม.ย. 68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ในวันอังคารที่ 29 เมษายน ที่จังหวัดนครพนม ซึ่งนายกรัฐมนตรี มีดำริให้รัฐมนตรี ทุกกระทรวง ลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามงานในทุกมิติ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัด ภาคอีสานในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน และวันจันทร์ที่ 28 เมษายน ก่อนการเข้าร่วมประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจรอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่จังหวัดสกลนครและนครพนม เพื่อตรวจราชการและติดตามผลการดำเนินงานของส่วนราชการต่าง ๆ ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร) ในวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568 และนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 ในวันอังคารที่ 29 เมษายน 2568 ที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม จังหวัดนครพนม
“นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการก่อน 1 วัน โดยในวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568 เวลา 08.45 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังสนามบินกองทัพบกค่ายกฤษณ์สีวะรา ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร และเดินทางต่อไปยังสวนสาธารณะดอนเกิน อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร เพื่อติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนแผนพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่บึงหนองหารและการบริหารจัดการน้ำ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะไปศูนย์หัตถกรรมวัดธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า จ.นครพนม เพื่อเยี่ยมชมศูนย์หัตถกรรมวัดธาตุประสิทธิ์ “นาหว้าโมเดล” ตามแนวพระดำริ “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” จากนั้นจะเป็นประธานการประชุมติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติดข้ามแดนในพื้นที่ ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม อ.เมืองนครพนม และในช่วงเย็นของวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีและคณะจะร่วมสักการะพญาศรีสัตตนาคราช พร้อมจุดเรือไฟบก ที่ลานพนมนาคา ริมแม่น้ำโขง ในอำเภอเมืองนครพนม
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ในวันอังคารที่ 29 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 ที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม หลังเสร็จสิ้นการประชุมนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปที่ด่านศุลกากรนครพนม ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำโขงตรงข้ามประเทศลาว เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนในพื้นที่ เนื่องจากด่านศุลกากรนครพนม มีจุดผ่านแดนถาวรทั้งหมด 2 แห่ง คือ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน ลาว ) ท่าเทียบเรือการท่องเที่ยวเทศบาลนครพนมรวมทั้งจุดผ่อนปรนการค้าอีก 4 แห่ง ได้แก่ จุดผ่อนปรนอำเภอท่าอุเทน จุดผ่อนปรนบ้านดอนแพง จุดผ่อนปรนอำเภอธาตุพนม และจุดผ่อนปรนบ้านหนาด
“การลงพื้นที่ภาคอีสานของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ทุกมิติ ทั้งการค้าขายระหว่างประเทศ การท่องเที่ยว การพัฒนาเมืองเนื่องจากจังหวัด นครพนม และมุกดาหาร เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงเป็นจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศลาวที่มีเส้นทางการคมนาคมหลักที่สามารถเชื่อมโยงไปยังประเทศเวียดนามตอนกลางที่เมืองดานังได้ ทั้งนี้ การลงพื้นที่ ของคณะรัฐมนตรี จะทำให้รัฐบาลสามารถเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาต่อยอดทุกมิติ และแนวทางการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้จังหวัดสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ ไม่ว่าเป็นการท่องเที่ยว การค้าการลงทุน รวมถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งนี้เมื่อปัญหายาเสพติดลดลงคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ก็จะดีขึ้น” นายจิรายุ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา : Thaipost