'สมศักดิ์' เปิดอาคารนิทรรศการไทย ในงาน Expo 2025 Osaka สุดยิ่งใหญ่ เชื่อ จะช่วยนำเสนอความเป็นไทย-ศักยภาพ-ความพร้อมเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ปลื้ม ให้งานเกรดเอ
'สมศักดิ์' เปิดอาคารนิทรรศการไทย ในงาน Expo 2025 Osaka สุดยิ่งใหญ่ เชื่อ จะช่วยนำเสนอความเป็นไทย-ศักยภาพ-ความพร้อมเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ปลื้ม ให้งานเกรดเอ แต่ยอมรับต้องปรับให้ว้าวขึ้น ชี้ หมอส่วนใหญ่จากสายวิทย์ อาจมีมุมมองไม่เหมือนสายศิลป์ แนะ บริษัท-ผู้ตรวจรับงาน ระดมสมองปรับแก้ เพื่อให้เกิดความพึ่งพอใจ ย้ำ สามารถปรับแก้ได้ ไม่ได้สายเกินไป
เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.68) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) โดยมี นายชัย วัชรงค์ ผู้แทนการค้าไทย นายวิชชุ เวชชาชีวะ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว นายอัครพงศ์ เฉลิมนนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข น.ส.ณัฐธิดา เทพสุทิน นายวินิจ เลิศรัตนชัย นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ผู้บริหารสมาคมญี่ปุ่นสำหรับงานนิทรรศการโลกปี 2025 และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม ณ เวทีการแสดง อาคารนิทรรศการไทย ในงาน Expo 2025 Osaka Kansai นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเปิด อาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในงาน Expo 2025 ที่นครโอซากา ในวันนี้ โดยเชื่อว่า อาคารนิทรรศการแห่งนี้ จะช่วยประชาสัมพันธ์ นำเสนอความเป็นไทย แสดงให้เห็นศักยภาพ และความพร้อมของไทย ในการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ Medical and Wellness Hub สู่สายตาประชาคมโลก ผ่านจุดแข็งที่สำคัญหลายประการ เช่น มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีความพร้อมของสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานในระดับโลก มีแพทย์และบุคลากรที่มีความรู้และเชี่ยวชาญ มีอัตราค่าบริการการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม คนไทยมีเซอร์วิสมายด์ของการบริการที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบถ้วน รวมถึงมีความโดดเด่นด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เช่น ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย และการนวดแผนไทย ซึ่งได้รับการยกย่อง ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก
“ผมขอขอบคุณทุกท่าน ที่ช่วยกันขับเคลื่อนงานที่สำคัญในครั้งนี้ ผมเชื่อมั่นว่า อาคารนิทรรศการไทยพร้อมแล้ว ที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุน ทั้งชาวญี่ปุ่น และทุกประเทศทั่วโลก ให้เข้ามาเรียนรู้ สัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจ ช่วยสร้างความเชื่อมั่น และขยายโอกาสการลงทุน ทำให้ประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพของคนทั้งโลกต่อไป” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงาน ได้มีการแสดงสะท้อนความเป็นไทยอย่างยิ่งใหญ่ มีการแสดงรำวง ที่นายสมศักดิ์ ได้ร่วมรำด้วย ก่อนจะมีการแสดงเต้นจากโครงการ TO BE NUMBER ONE โดยบรรยากาศ เป็นไปด้วยความคึกคัก มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ต่างให้ความสนใจ มาร่วมดูกิจกรรมด้วย
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า วันนี้ ตนได้มาดู พาวิลเลียนไทย ในงาน Expo 2025 Osaka โดยจากคำวิพากษ์วิจารณ์ ตนก็ได้พบได้เห็นหลายๆอย่าง และพยายามทำความเข้าใจในเนื้องานทั้งหมด ซึ่งคำว่า Expo คือ งานแสดงสินค้า และการบ่งบอกถึงอัตลักษณ์ ดังนั้น ในคอนเซ็ปต์คือ การเชื่อมโยงภูมิปัญญาไทย ที่เริ่มตั้งแต่ 1 หมุดหมายสุขภาพ ไปจนถึง 1 ล้านรอยยิ้ม โดยสรุปแล้วคือ การกินดี อยู่ดี ด้วยภูมิปัญญาไทย และจากที่ตนได้เดินดูทั้งหมดแล้ว ต้องบอกว่า ในความเข้าใจ ความรู้สึกของคนมาดู มองว่า เราอาจแบ่งสายการศึกษาเป็น 2 สาย คือ สายวิทย์ และสายศิลป์ ซึ่งคนในกระทรวงสาธารณสุข ส่วนใหญ่เป็นสายวิทยาศาตร์ ก็อาจจะมองในสิ่งที่สายศิลป์มองอย่างชัดเจนและเก่งกล้า ไม่ออกทั้งหมด
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การนำเสนอที่ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะเรื่องต้นไม้ หรือ สิ่งต่างๆที่สามารถเพิ่มเติมได้ตามแนวทางของสัญญา ก็สามารถปรับแก้ได้ ตนคิดว่า ไม่ได้สายเกินไป โดยในช่วงหลังเปิด 10 วันที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็มีวิพากษ์วิจารณ์ออกมา ดังนั้น ตนคิดว่า ทางบริษัท และผู้ตรวจงาน ต้องดูคอมเมนต์ต่างๆที่ออกมาด้วย โดยเรามีความเป็นไทยที่มีภูมิปัญญาจากอดีตถึงปัจจุบัน และอนาคต ในเรื่องสุขสมบูรณ์ จึงอยากให้มองตรงนี้ ส่วนจะวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไร ก็พร้อมรับคำวิจารณ์ และแก้ไข
เมื่อถามว่า จากการดูงานแล้ว อยากให้ปรับตรงไหนเพิ่มหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีปรับในห้อง แต่ตนในฐานะสายวิทย์ มองว่า ให้เกรดเอ 80 คะแนน โดยในกระทรวงสาธารณสุข ส่วนใหญ่เป็นสายวิทยาศาสตร์ ก็มองดูแล้ว มาบ่นฉันทำไม แต่คนที่มาวิพากษ์วิจารณ์คือ สายศิลป์ โดยให้คะแนนถึงครึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ โดยบางคนให้คะแนน 2 เต็ม 10 ก็ไปว่าเขาไม่ได้ เพราะในมุมมองของคนมันต่างกัน แต่เราก็ต้องทำให้เกิดความพึ่งพอใจ เนื่องจากเม็ดเงิน 800 กว่าล้านบาท ก็ต้องทำให้เกิดความพึ่งพอใจของคนที่มองอยู่ ซึ่งมีทั้งพอใจ และไม่พอใจ ดังนั้น เราก็ต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการนำเสนอให้ว้าวขึ้น ตนจึงอยากให้บริษัท และผู้ตรวจรับงาน ได้ระดมสมองกัน ส่วนสำหรับตน ก็จะมีที่ปรึกษา ที่ขอให้ช่วยดู ทั้งในเนื้องาน และการทำงานของเม็ดเงินต่างๆ ที่ยังเหลืออยู่ประมาณ 40% ด้วย
เมื่อถามว่า ในส่วนของเนื้อหา มีความพอใจที่ตอบสนองกับธีมของงานอยู่แล้วใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ถูก เพราะธีมของงาน ตนก็พยายามดูว่า ผิดอะไรหรือไม่ แต่ของเราอยู่ในมุม ความเชื่อมโยงของวัฒธรรมสังคม ที่ต่อเนื่องสุขสมบูรณ์ โดยของที่เอามาโชว์ทั้งหมด ก็ใช้ได้ แต่ก็ต้องปรับให้ว้าวขึ้น ส่วนตัวเลขคนเข้ามาดู ก็ต้องปรับการบริหาร เพราะตามแนวทางคาดว่า 1-2 ล้านคน ซึ่งถ้าอยากได้ตัวเลขนี้ ก็ต้องมีคนชมวันละ 1 หมื่นคน โดยที่ผ่านมา นับแค่คนเข้าอาคาร แต่งานของเรามีนอกตัวอาคารด้วย ก็ต้องมีการปรับแก้ตรงนี้ด้วย
เจนกิจ นัดไธสง รายงาน