ชาติ CLMV และไทย เผชิญแรงกดดันหนักสุด ท่ามกลางเจตนารมณ์ซ่อนเร้นของมหาอำนาจ

(4 เมษายน 2568) รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ วิเคราะห์ถึงหลักการคำนวณและขึ้นภาษีตอบโต้ไทย ถึง 37% ของสหรัฐฯ 

รศ.ดร.สมภพ มองว่า 10% คือภาษีนำเข้าสินค้าที่ไทยเก็บกับสหรัฐฯ แต่อีก 62% คือ 'ดุลพินิจ' ล้วน ๆ จากปัจจัย Non-Tariff หรือมาตรการที่ไม่เกี่ยวกับภาษีอากร  

“มันใช้อารมณ์ความรู้สึกเป็นตัวตั้งไม่น้อย มันนามธรรมสูงมาก จับต้องไม่ได้” แต่เขาก็ตั้งข้อสังเกตว่า ชาติ CLMV บวก ไทย โดนหนักสุด ทั้งที่ CLMV คือชาติยากจนอันดับต้น ๆ ของโลก คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา ยกเว้นเวียดนาม

“เพราะชาติเหล่านี้ใกล้ชิดกับจีนมาก นี่แหละเจตนารมย์ซ่อนเร้นจริง ๆ ที่เราต้องตีความให้ออก” รศ.ดร.สมภพ กล่าว

ท้ายสุด รศ.ดร.สมภพ ชี้ว่า ไทยมีเวลา 7 วันเพื่อเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยกับสหรัฐฯ แต่คิดว่าไม่น่าจะพอ เนื่องจากผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ที่มีเจ้าหน้าที่เพียงหลักร้อย ไม่น่าจะรับมือนานาประเทศที่จะแห่กันเข้ามาขอเจรจา 

“แต่นี่แหละคือจุดเริ่มต้นการเจรจา” ที่ผู้เป่านกหวีดก็คือทรัมป์เอง