‘มิลลิ’ สุดทนปมถูกเกรียนคีย์บอร์ดหมิ่นประมาทในโซเชียล เตือนครั้งสุดท้าย!! เตรียมจัดการชาวเน็ตเมนต์ด้วยถ้อยคำรุนแรง

มิลลิ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว กรณีถูกเกรียนคีย์บอร์ดหมิ่นประมาทในโซเชียล ท้อจนร้องไห้ วอนคิดถึงใจกันบ้าง – ต้นสังกัดเทกแอ็กชัน ปกป้องศิลปิน

จากกรณีที่ค่าย YUPP! เคยออกแถลงการณ์ไปเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งมีการเตือนผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียที่มีการแสดงความคิดเห็นในลักษณะดูหมิ่นด้วยถ้อยคำรุนแรงต่อศิลปิน มิลลิ ดนุภา คณาธีรกุล หรือ 'MILLI' โดยต้นสังกัดขอให้หยุดการกระทำเหล่านั้น แต่ยังพบว่าปัจจุบันมีผู้ที่ยังทำพฤติกรรมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดเมื่อวันที่ (5 มี.ค.68) ที่ห้อง Sukhumvit โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit ค่าย YUPP! นำโดย 3 ผู้บริหาร ต้าร์ สักกพิช มากคุณ, โจ้ ศวิชญ์ สุวรรณกุล และ ฟลุ๊ค-พลกฤต ศรีสมุทร พร้อมด้วยศิลปิน มิลลิ และ ทนายชัยณรงค์ บุญสันติ์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวความชัดเจน ส่งสัญญาณเป็นครั้งสุดท้ายถึงผู้ที่กระทำการดังกล่าว

โดย มิลลิ เผยก่อนว่า “จริงๆ หนูเห็นคอมเมนต์เหล่านั้นมาตลอด เนื่องจากเป็นคนชอบเสิร์ชแฮชแท็กชื่อตัวเอง เพื่อที่จะเข้าไปอ่านคอมเมนต์หรือฟีดแบ็กต่าง ๆ ซึ่งก็จะเห็นทั้งหมดเท่าที่เราพอจะเห็นได้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาอาจจะทำให้เราเติบโตและจิตใจแข็งแกร่งขึ้น แต่สุดท้ายเวลาเราเจอคอมเมนต์ที่แย่ ๆ มันก็กระทบกับจิตใจเราโดยตรง ตัวหนูเองก็เสียใจเหมือนกัน”

จริง ๆ หนูเป็นคนที่ชอบให้คนเข้ามาติชมผลงาน เพราะจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาให้ดีขึ้น แต่ว่าในกรณีนี้จะเป็นคำพูดที่กระทบกระเทือนจิตใจพอสมควร เลยอยากจะให้ทุกคนคิดถึงใจหนูบ้าง บางทีถ้ามันแรงเกินไปหนูก็แอบรับไม่ไหวเหมือนกันค่ะ”

“เรื่องคอมเมนต์ในทางเสียหาย จริง ๆ เกิดขึ้นมาโดยตลอด แต่ก็จะมีช่วงหนึ่งที่หายไปเพราะว่าหนูไม่ได้ปล่อยผลงานอะไรออกมา แต่พอกลับมามีกิจกรรมอีกครั้ง คอมเมนต์เหล่านั้นก็กลับมาอีก หนูยอมรับว่าคอมเมนต์แย่ ๆ ที่อ่านเจอ ทำให้รู้สึกท้อและเสียใจถึงขั้นร้องไห้ เพราะการร้องไห้มันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเบาบางลงได้ในทางด้านอารมณ์”

“แล้วที่หนูผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาได้ก็เพราะคนรอบตัว ทั้งครอบครัวและค่าย หนูมีความเชื่อว่าในขณะที่มีคนไม่ชอบเราก็ยังมีคนชอบเราอยู่ แฟนคลับของหนูก็น่ารักกับหนูมาก ๆ เป็นกำลังใจในทุก ๆ วันไม่ว่าหนูจะสุขหรือเศร้า ที่ผ่านมาได้ก็เพราะพวกเขาด้วยค่ะ”

“หนูเลยคิดว่าวิธีการจัดการในลักษณะวันนี้ที่เกิดการแถลงข่าวขึ้น หรือให้ทางค่ายมาช่วยจัดการเป็นวิธีการที่ดีที่สุดแล้ว ตัวหนูเองก็เห็นด้วย เราได้มีการประชุมและไตร่ตรองกันอย่างรอบคอบแล้ว ที่สำคัญหนูยังแฮปปี้กับการทำงานเพลงอยู่ เลยพยายามจะไม่เอาเรื่องพวกนี้มาบั่นทอนตัวเองค่ะ”

“ถามว่าพวกคอมเมนต์แรงๆ ต่าง ๆ มีผลทำให้เราไม่กล้าที่จะโพสต์ความเห็นส่วนตัวลงในโซเชียลอีกไหม จากประสบการณ์ที่ผ่านมาหนูค่อนข้างไตร่ตรองเยอะขึ้นมากๆ ในการที่จะโพสต์อะไรแต่ละครั้ง มันก็อาจจะมีผลกระทบนิดหน่อย ด้วยเพราะว่าเราคิดมากๆ ก่อนที่จะโพสต์อยู่แล้ว แน่นอนว่ามันไม่ได้ลดความเป็นตัวตนของเรา เพราะหนูเชื่อว่าการเป็นตัวตนเราสามารถเติบโตขึ้นได้ เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของเราได้ในทุก ๆ วัน หนูรู้สึกว่านอกจากตัวเองจะเติบโตทางด้านจิตใจแล้ว เราก็ควรพัฒนาตัวเองในเรื่องของการคิดก่อนพูดด้วย ซึ่งหนูก็กำลังพัฒนาให้มันดีขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ”

ทนายชัยณรงค์ กล่าวว่า “ทางค่ายเคยมีหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับข้อความที่คนแสดงความคิดเห็น ว่ามีความรุนแรงแบบไหน ลักษณะข้อความที่เกิดขึ้นถามว่ามันเข้าข่ายข้อกฎหมายไหม มันก็มีตั้งแต่เรื่องการดูหมิ่น หมิ่นประมาท การนำข้อมูลที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องเรียนว่าทางค่ายและศิลปินเองไม่มีเจตนาที่จะโต้ตอบด้วยความรุนแรง หรือให้เกิดเรื่องเกิดราวกับผู้ที่แสดงความคิดเห็น เพราะว่านโยบายของทางค่ายต้องการสร้างสรรค์เรื่องเพลง นำศิลปินไทยเข้าสู่เวทีโลก”

“แต่ในปัจจุบันเราต้องเข้าใจว่าการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ทำได้ง่ายมาก คลิกเดียวแสดงข้อความออกไปด้วยอารมณ์หรืออะไรก็ตามแต่ สิ่งนี้มันกระทบกระเทือนทั้งค่ายและศิลปิน แล้วถ้ามันไปกระทบคนอื่นจนทำให้เกิดความเสียหาย คุณเองก็ต้องรับผิดชอบข้อความที่คุณแสดงความคิดเห็นออกไปด้วย ที่ผ่านมาทางค่ายและศิลปินก็พยายามดูข้อความเหล่านั้น ส่วนว่าจะเข้ากรณีไหนตัวค่ายจะเป็นคนพิจารณาและทบทวน เพื่อไม่ให้เหตุการณ์มันเกิดซ้ำรอยอีก ส่วนมาตรการจะเป็นอย่างไรก็ต้องดูเป็นแต่ละกรณีไป เพราะทางค่ายไม่ได้มีนโยบายที่จะเล่นแบบตาต่อตาฟันต่อฟันแบบนั้น”

“สำหรับในเรื่องของการติชม ถ้าเป็นการติเพื่อก่อ ทางศิลปินและค่ายรับได้ แต่ไม่ใช่ว่าติแล้วทำให้คนอื่นดูถูกเกลียดชัง หรือไปด้อยค่าเขาไม่ว่าจะเป็นค่ายหรือศิลปินก็ตามแต่ ตรงนี้เน้นย้ำว่าต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำด้วย เพราะว่าไม่ใช่คุณเห็นคนเดียว แต่คนอื่นเห็นข้อความเหล่านั้นด้วย”

“จริงๆ เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับมิลลิหรือค่าย YUPP! แต่ศิลปินทุกคน ทุกค่าย ดารา และเกือบทุกวงการ เจอกันหมด ถึงอยากย้ำเตือนไว้เวลาคนที่จะทำแบบนี้ต้องเก็บกลับไปคิดว่าสิ่งที่คุณทำมันติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งปัจจุบันกฎหมายนี้ตามเรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าปล่อยนิ่งดูดาย แน่นอนว่าเราอาจจะห้ามคนคอมเมนต์ไม่ได้ แต่อาจจะเป็นเสียงที่เรากำลังจะบอกออกไปให้ฉุกคิด”

ด้าน ต้าร์ สักกพิช หนึ่งในผู้บริหาร เผยว่า “ถามว่าฟางเส้นสุดท้ายคืออะไรถึงต้องออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว ปัจจุบันทางค่ายโฟกัสเรื่องงานกับมิลลิมากๆ แล้วเราก็ห่างหายจากการกล่าวโทษกล่าวร้ายคนอื่นในอดีตมานานมากๆ แล้ว เรารู้สึกว่าตอนนี้อยากให้ทุกคนโฟกัสที่งานมากกว่า ส่วนคอมเมนต์ที่ไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่เราทำ มันก็อาจจะทำร้ายจิตใจมิลลิได้ ทางค่ายเลยมีความจำเป็นที่ต้องออกมาแอ็กชันในวันนี้”

“ส่วนเดดไลน์หรือมาตรการจริงจังในการจัดการกับเรื่องนี้ก็จะเริ่มพิจารณากันตั้งแต่วันนี้เลย เราอยากแสดงจุดยืนในการเข้ามาปกป้องศิลปิน เพราะที่ผ่านมาค่ายก็เคยมีการชี้แจงออกไปแล้ว แต่อย่างมิลลิบอกว่าคอมเมนต์พวกนั้นก็จะหายไปสักพัก แต่พอเรากลับมาทำงานอย่างเข้มข้นเขาก็จะกลับมาอีก ถามว่าเป็นคนเดิม ๆ ไหม อันนี้ตอบยาก แต่ว่าลักษณะการคอมเมนต์จะคล้าย ๆ เดิม คือไม่ได้เกี่ยวกับงานหรือคอนเทนต์ที่เราปล่อยออกไป แต่ก็คิดว่ามาตรการนี้ที่เป็น Final Warning ของเราก็น่าจะช่วยให้เขาได้คิดมากขึ้น ว่าเรามีแอ็กชันที่มากขึ้นแล้ว”