ลาวลดจ่ายไฟให้ท่าขี้เหล็กเหลือ 13 เมกะวัตต์ สกัดแก๊งคอลเซนเตอร์ข้ามชาติ

เมื่อวันที่ (7 ก.พ.68) รัฐบาลลาวประกาศมาตรการจำกัดการจ่ายไฟฟ้าไปยังเมืองท่าขี้เหล็กในรัฐฉาน ทางตะวันออกของเมียนมา พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นในการปราบปรามการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมข้ามชาติ

โพไซ สายะสอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ลาว กล่าวระหว่างการหารือกับฟางหง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศลาวว่า ลาวได้ดำเนินมาตรการจำกัดการจ่ายไฟฟ้าไปยังเมืองท่าขี้เหล็ก และยืนยันว่าจะไม่ยินยอมให้มีการใช้ไฟฟ้าของลาวเพื่อกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะการใช้ไฟฟ้าในการก่ออาชญากรรม เช่น การฉ้อโกง

โพไซกล่าวเพิ่มเติมว่า ลาวจะทำงานร่วมกับประเทศที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดในประเด็นนี้ และจะดำเนินการเพิ่มเติมหากจำเป็น พร้อมเน้นย้ำว่าการต่อสู้กับการทุจริตทางไซเบอร์ข้ามชาติเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศในภูมิภาค

ฟางหงได้กล่าวเสริมว่า จีนจะเสริมสร้างการบังคับใช้กฎหมายและความร่วมมือด้านความมั่นคงกับลาวและประเทศอื่น ๆ โดยใช้มาตรการที่เด็ดขาดและมีประสิทธิภาพ เพื่อร่วมกันปกป้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ รัฐบาลไทยได้ตัดการจ่ายไฟฟ้าไปยัง 5 พื้นที่ในเมียนมา รวมถึง เมียวดีและท่าขี้เหล็ก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการในการปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมที่มีการซ่องสุมในพื้นที่ดังกล่าว โดยหลังจากที่ไทยตัดไฟฟ้า เมืองท่าขี้เหล็กได้ประกาศว่าจะนำเข้าไฟฟ้าจากลาวมาแทน

ในขณะเดียวกัน สำนักข่าว Tachileik News Agency ของเมียนมา รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ที่เมืองท่าขี้เหล็ก หลังจากไทยตัดการจ่ายไฟฟ้าไปยังเมียนมา ระบุว่า ลาวได้ลดการจ่ายไฟฟ้าให้เหลือ 13 เมกะวัตต์ ส่งผลให้เมืองท่าขี้เหล็กต้องจัดลำดับความสำคัญในการจ่ายไฟฟ้าใหม่

ก่อนหน้านี้ เมืองท่าขี้เหล็กเคยตกลงซื้อไฟฟ้าจากลาวจำนวน 30 เมกะวัตต์ แต่เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ทางฝั่งลาวได้แจ้งว่าจะลดปริมาณไฟฟ้าที่จ่ายให้เหลือ 13 เมกะวัตต์ โดยไม่ได้ระบุเหตุผลที่ชัดเจน