โรงรับจำนำ กทม. คึกคักยอดจำนำทะลุ 8,700 ล้านบาท เตรียม เปิดสาขาใหม่ 'ศรีนครินทร์,ภาษีเจริญ,หนองแขม' สร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน

นายชนาธิป ล.วีระพรรค ผู้อำนวยการสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าภาพรวมของโรงรับจำนำทั่วประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา ขยายตัวพอสมควร โดยดูจากมีการเพิ่มขึ้นของโรงรับจำนำของรัฐและเอกชน ซึ่งคาดว่าในปี พ.ศ. 2568 ยอดการรับจำนำมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงอยู่ในปัจจุบัน ประชาชนยังมีรายได้ไม่สมดุลกับรายจ่าย ผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน ขณะที่ธนาคารและnonBank มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ จึงส่งผลให้ความต้องการใช้บริการโรงรับจำนำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

นายชนาธิป กล่าวว่า ในส่วนของโรงรับจำนำ กทม. ซึ่งเป็นโรงรับจำนำของกรุงเทพมหานคร ได้รับนโยบาย จากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้โรงรับจำนำ กทม. เป็นหน่วยงานที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างคุณภาพชีวิตของคนกทม. ให้ดีขึ้น โดยเป็นแหล่งเงินทุนให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำเงินไปประกอบอาชีพหรือใช้จ่ายในครัวเรือน ลดการพึ่งพาเงินกู้นอกระบบหรือสภาพคล่องทางการเงินแต่ไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคารพาณิชย์ได้ 

ปัจจุบัน โรงรับจำนำ กทม. มีอัตราดอกเบี้ยรับจำนำที่ต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบกับโรงรับจำนำเอกชน และผู้ให้บริการทางด้านการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non Bank) เนื่องจากเป็นหน่วยงานภาครัฐ จึงไม่มุ่งแสวงหากำไร แต่เน้นช่วยเหลือประชาชนให้พ้นวิกฤตทางการเงินมากกว่า ส่วนกลุ่มเป้าหมาย นอกจากจะเป็นประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs เนื่องจากในปัจจุบันธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น พร้อมกับเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ โดยเฉพาะการพิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ และใช้เวลานานในการอนุมัติจากธนาคาร มาใช้บริการที่โรงรับจำนำ จะได้รับการบริการที่สะดวกรวดเร็ว ได้เงินง่ายภายใน 5 นาที ทำให้ปัจจุบันกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs เข้ามาใช้บริการที่โรงรับจำนำ กทม. เพิ่มมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ โรงรับจำนำ กทม. ยังมีโครงการต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อแบ่งเบาภาระทางการเงินให้กับประชาชน เช่น โครงการลดดอกเบี้ยเพื่อแบ่งเบาภาระให้กับผู้ปกครอง นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในช่วงเปิดภาคเรียน หรือ โครงการของขวัญให้เพื่อน ลดดอกเบี้ยในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่ประชาชนจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ซึ่งโครงการต่างๆ เหล่านี้ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จากการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ของโรงรับจำนำ กทม. ทุกช่องทาง และมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้ข้อมูลกับประชาชนโดยตรง 

สำหรับผลการดำเนินงานปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา มีอัตราเติบโตเมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2566 ทั้งในแง่ของการรับจำนำ และจำนวนรายผู้ใช้บริการ โดยในปี พ.ศ. 2567 มีการรับจำนำ จำนวน 8,740 ล้านบาท เติบโต 24 %เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2566 ที่มีการรับจำนำจำนวน 7,095 ล้านบาท ส่วนจำนวนรายผู้ใช้บริการ ในปี พ.ศ. 2567 มีจำนวน 428,061 ราย เติบโต 13 % เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2566 มีจำนวนรายผู้ใช้บริการ จำนวน 379,421 ราย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาทรัพย์สินที่นำมาจำนำมีมูลค่าสูง โดยเฉพาะราคาทองคำซึ่งปรับตัวสูงขึ้น ส่วนในปีพ.ศ. 2568 ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 5 %

ส่วนความท้าทายต่อไปของโรงรับจำนำ กทม. นายชนาธิป กล่าวว่า เนื่องจากในปัจจุบันประชาชนมีทางเลือกในการใช้บริการสินเชื่อประเภท NonBank เพิ่มขึ้น โจทย์สำคัญคือ ทำอย่างไรให้ประชาชนเลือกใช้บริการกับเราแนวทางหนึ่งก็คือการขยายสาขาเพิ่มขึ้น เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงโรงรับจำนำ กทม. ได้สะดวกมากขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2568 จะเปิดให้บริการสาขาใหม่ จำนวน 3 สาขา ได้แก่ สาขาศรีนครินทร์ สาขาภาษีเจริญ และสาขาหนองแขม โดยการเลือกสถานที่เพื่อเปิดสาขาใหม่นั้น พิจารณาจากความหนาแน่นของประชากรในพื้นที่ และตามความต้องการของประชาชน เป็นสำคัญ 

ท้ายสุด นายชนาธิป กล่าวย้ำว่า “โรงรับจำนำ กทม. ถือเป็นแหล่งเงินทุนให้ประชาชนกู้ยืมเงินของกรุงเทพมหานคร ที่มีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทางการเงินให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก และพร้อมให้บริการด้วยความรวดเร็ว สะดวก ซึ่งเป็นจุดเด่นในการใช้บริการ เพราะไม่ต้องยื่นเอกสาร ไม่ต้องค้ำประกัน ไม่ต้องรอพิจารณาผล ไม่ตรวจเครดิตบูโร เพียงมีทรัพย์สินมีค่าและบัตรประชาชนเข้ามาใช้บริการ ภายใน 5 นาที ก็สามารถรับเงินสดได้เลย ดังสโลแกน โรงรับจำนำ กทม. ทรัพย์ปลอดภัย ได้เงินง่าย จ่ายดอกเบี้ยต่ำ”