ไทยสำเร็จชาติแรกในอาเซียน ดีเดย์ LGBTQ จดทะเบียน 22 ม.ค.นี้
ประเทศไทยก้าวสู่ความเท่าเทียมทางเพศอย่างเป็นทางการ ด้วยการประกาศใช้พระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม พ.ศ. 2567 ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 ถือเป็นชาติแรกในอาเซียนที่ออกกฎหมายรองรับสิทธิการสมรสสำหรับบุคคลทุกเพศ
กฎหมายฉบับนี้แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยเน้นการปรับถ้อยคำให้เป็นกลางและครอบคลุม เช่น การเปลี่ยนคำจาก 'สามี' และ 'ภริยา' เป็น 'คู่สมรส' และคำว่า 'ชาย' และ 'หญิง' เป็น 'บุคคล' เพื่อให้ทุกเพศสามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย 6 ประเด็นสำคัญของกฎหมายสมรสเท่าเทียม
อายุขั้นต่ำ: ปรับอายุขั้นต่ำสำหรับการหมั้นและสมรสจาก 17 ปี เป็น 18 ปี ความเท่าเทียมทางเพศ: รองรับการสมรสระหว่างบุคคลทุกเพศด้วยการปรับถ้อยคำในกฎหมายให้เป็นกลาง คำเรียกคู่สมรส: เปลี่ยนจาก 'สามี' และ 'ภริยา' เป็น 'คู่สมรส' เพื่อความเป็นธรรมทางเพศ การสมรสกับชาวต่างชาติ: เปิดโอกาสให้คนไทยสมรสกับชาวต่างชาติภายใต้กฎหมายไทย สิทธิในการรับบุตรบุญธรรม: คู่สมรสเพศเดียวกันสามารถรับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้เช่นเดียวกับคู่สมรสชายหญิง สิทธิและหน้าที่คู่สมรส: มอบสิทธิเท่าเทียมในด้านมรดก การตัดสินใจทางการแพทย์แทนคู่สมรส และสิทธิในสวัสดิการจากรัฐ เหตุการณ์สำคัญสู่กฎหมายสมรสเท่าเทียม การออกกฎหมายนี้สะท้อนถึงความพยายามยาวนานของกลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิความหลากหลายทางเพศในไทย กฎหมายความยาว 21 หน้า 69 มาตรา ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมไทยเพื่อความเท่าเทียม
เมื่อกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ในปีหน้า ทุกคนในสังคมจะสามารถก้าวสู่ชีวิตสมรสได้อย่างเท่าเทียม ไร้การแบ่งแยกด้วยเพศ พร้อมรับสิทธิและความคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเต็มที่