'อัสซาด' ผู้นำซีเรียพร้อมครอบครัวลี้ภัยในมอสโก หลังกลุ่มกบฏบุกยึดกรุงดามัสกัสสำเร็จ
(9 ธ.ค. 67) ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย พร้อมครอบครัว ได้ลี้ภัยไปยังรัสเซียภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่กลุ่มกบฏสามารถยึดครองกรุงดามัสกัสได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการปิดฉากการปกครองระบอบอัสซาดที่ยาวนานกว่า 50 ปี
สำนักข่าวทาสส์ อ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า อัสซาดและครอบครัวได้รับสถานะผู้ลี้ภัยในรัสเซียด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม “ประธานาธิบดีอัสซาดและครอบครัวเดินทางถึงกรุงมอสโกแล้ว โดยรัสเซียได้ให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่พวกเขา”
เจ้าหน้าที่รัสเซียยังย้ำว่า ประเทศสนับสนุนการหาทางออกทางการเมืองต่อวิกฤตในซีเรียมาโดยตลอด พร้อมแสดงความหวังให้มีการกลับมาเจรจาภายใต้การดูแลของสหประชาชาติ
ในขณะเดียวกัน ชาวซีเรียต่างออกมาเฉลิมฉลองตามท้องถนนและจัตุรัสสำคัญในกรุงดามัสกัส พร้อมโบกธงปฏิวัติ ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงช่วงแรกของการลุกฮือในอาหรับสปริง ก่อนที่สงครามกลางเมืองจะปะทุยาวนานถึง 14 ปี
อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-โกลานี อดีตผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่มกบฏหลัก กล่าวว่าการล่มสลายของอัสซาดถือเป็น “ชัยชนะของชาติอิสลาม” และเป็นโอกาสสำคัญในการกำหนดอนาคตของซีเรียใหม่
จากเหตุการณ์นี้ ดมิทรี โพลีอันสกี รองผู้แทนถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติ เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือสถานการณ์ในซีเรีย ขณะที่รัสเซียได้เริ่มเจรจากับตัวแทนกลุ่มต่อต้านติดอาวุธในซีเรีย เพื่อรับประกันความปลอดภัยของฐานทัพและคณะผู้แทนทางการทูตรัสเซียในภูมิภาคนี้
มอสโกแสดงจุดยืนชัดเจนว่าพร้อมสนับสนุนการเจรจาทางการเมือง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาวซีเรียและฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในอนาคต