ศาลอาญายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ ’ทักษิณ’ เดินทางไปดูไบ หลังขอไปรักษาตัว ชี้มีแพทย์ในประเทศ ตรวจรักษาอยู่แล้ว

(31 ก.ค. 67) เมื่อไม่นานมานี้ ณ ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ศาลจึงมีคำสั่งให้นัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 30 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมาและมีคำสั่งในวันเดียวกัน

วันนัดฟังคำสั่งโจทก์ นายทักษิณ ผู้เป็นจำเลย และทนายได้เดินทางมาที่ศาล ภายหลังศาลได้ไต่สวนพยานแล้วมีคำสั่งในทางไต่สวนสรุปว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาและห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร 

แต่จำเลยมีความประสงค์เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ไปพำนักอยู่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ดูไบ) ระหว่างวันที่ 1-16 ส.ค.2567 เพื่อพบแพทย์ซึ่งเคยตรวจรักษาอาการป่วยของจำเลยเกี่ยวกับปอดอักเสบเรื้อรัง ระบบหายใจและหลอดเลือดหัวใจ เอ็นไหล่ขวาฉีกขาด และหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน ในสถานพยาบาล ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันที่ 2 และ 8 ส.ค.2567 

โดยช่วงเวลาที่จำเลยพำนักอยู่ ณ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จำเลยยังมีนัดหมายกับบุคคลสำคัญหลายคน เกี่ยวด้วยภารกิจส่วนตัวของจำเลยหลายเรื่อง จำเลยจะเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรก่อนวันนัดตรวจพยานหลักฐานซึ่งศาลนัดไว้ในวันที่ 19 ส.ค.2567

ศาลเห็นว่า แม้จำเลยอ้างตนเองเป็นพยานเบิกความยืนยันถึงความจำเป็นที่ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยมีเอกสารหลักฐานจากแพทย์สนับสนุน และนัดพบบุคคลสำคัญหลายคน โดยช่วงเวลาที่จำเลยพำนักอยู่ ณ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นช่วงเวลาก่อนกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานก็ตาม 

แต่อาการป่วยของจำเลยเป็นโรคที่เกิดแก่บุคคลทั่วไป และแพทย์ในประเทศไทยตรวจรักษาเป็นประจำอยู่แล้ว การเดินทางไปพบบุคคลสำคัญของจำเลยเป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลยทั้งไม่มีพยานหลักฐานยืนยันชัดแจ้งถึงความจำเป็นดังกล่าว ประกอบกับช่วงระยะเวลาที่เดินทางใกล้กับวันนัดตรวจพยานหลักฐานในชั้นนี้ไม่สมควรอนุญาตให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ให้ยกคำร้อง


ที่มา: MGROnline