ผู้กำกับ 2475 Dawn of Revolution แจงรอบที่ร้อยแปด แอนิเมชันนี้ไร้ทุนหนุน-ตั้งใจทำก่อนเกิดม็อบสามนิ้วเสียอีก

สื่อต่างประเทศรายหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ) ได้มาสัมภาษณ์ คุณวิวัธน์ จิโรจน์กุล ผู้กำกับ 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ โดยถามคำถามทั่วไปเกี่ยวกับ แอนิเมชัน และ ยังมีคำถามเกี่ยวกับการเมืองปัจจุบันเข้ามาด้วย

แต่เนื่องจากเวลาผ่านมากกว่า 50 วันแล้ว แต่บทสัมภาษณ์นั้นยังไม่ได้รับการเผยแพร่ ทางทีมงาน 2475 Dawn of Revolution จึงขอเรียบเรียงเนื้อหาการสัมภาษณ์ในวันนั้น มาเผยแพร่ในเพจ เพราะเป็นประเด็นที่น่าสนใจและคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อสังคมครับ

>> โดยคำถามที่เกี่ยวข้องกับแอนิเมชัน มีดังนี้

สื่อตปท. : งบประมาณที่ใช้ทำแอนิเมชันมาจากกองทัพใช่หรือไม่

ผกก.2475 ตอบ : แอนิเมชันนี้ไม่ได้งบประมาณจากกองทัพ ไม่ได้รับเงินสนับสนุนใด ๆ จากรัฐบาล แต่ไม่ปฏิเสธว่า บริษัทเรารับทำงานสารคดีให้ความรู้ และ งานสื่อการสอนให้กับกองทัพ ซึ่งเป็นงานคนละส่วนกับแอนิเมชัน ซึ่งตามที่สื่อฯบางรายได้นำมาเผยแพร่ ก็พบว่าตกปีละไม่ถึง 1 ล้านบาท และเป็นงานเล็ก ๆ TOR ละ 1 แสน - 4 แสน ไม่สามารถนำงบฯมาทำผลิตแอนิเมชันขนาดนี้ได้อยู่แล้ว และนอกจากนี้ บริษัทของเรายังรับทำเพลงโฆษณา ทำการตลาด ทำแบรนด์ดิ้ง ซึ่งเราก็เอาเงินส่วนตัว เงินระดมทุน และรายได้จากงานต่าง ๆ มาใช้ในการทำงาน แอนิเมชันเรื่องนี้ จึงมาจากเงินเอกชนคนไทยล้วน ๆ ไม่เกี่ยวกับหน่วยงานรัฐบาลใด ๆ ถ้ารัฐสนับสนุนจริง พวกผมคงไม่ต้องมาขายเสื้อ ขายหนังสือกันหรอกครับ

สื่อตปท. : การที่ม็อบเยาวชนออกมาเคลื่อนไหวเรื่องภารกิจคณะราษฎร ทำให้คุณตัดสินใจทำแอนิเมชันเรื่องนี้ใช่หรือไม่

ผกก.2475 ตอบ : เราคิดเรื่องนี้มาเป็นสิบปีแล้วครับ ตั้งแต่ผมยังไม่ได้มาทำบริษัทด้านโปรดักชันเลยด้วยซ้ำ แอนิเมชันเรื่องนี้เราเก็บข้อมูลมา 5 ปี แล้วใช้เวลาทำอีก 3 ปี มันต้องใช้เวลาไม่ใช่ว่าจู่ ๆ จะทำออกมาได้ ตอนทำเราก็ไม่รู้ด้วยว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ เราคิดว่าทำไปเรื่อย ๆ เท่าที่ไหว ทำจนเงินหมดก็ต้องทำต่อ เพราะงานมันต้องทำให้เสร็จ จะล้มกลางทางไม่ได้

นั่นคือเราคิดมาก่อนที่จะเกิดม็อบพวกนี้เสียอีก แต่สิ่งที่ม็อบเขาขับเคลื่อน เช่น คุณไปจัดงานวันเกิดให้จอมพล ป. หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เชิดชูเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย แต่อีกสักพัก คุณเพนกวินเอารูปจอมพล ป.มาเผา บอกว่าเชิญวิญญาณเผด็จการมาไล่เผด็จการ ผมก็ดูขำ ๆ นะ เด็กพวกนี้มันครีเอตดี แต่นี่แหละครับ มันยืนยันว่าการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทย

>> ต่อมาสื่อตปท.ได้ถามคำถามที่เกี่ยวกับการเมืองไทย

สื่อตปท. : ถามเรื่องกระแสความสนใจพรรคก้าวไกลของวัยรุ่น ที่ทำให้การเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

ผกก.2475 ตอบ : เปลี่ยนแปลงเหรอ ผมยังไม่เห็นว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเลย พรรคก้าวไกลเองก็ไม่ได้ทำการเมืองใหม่ ถ้าพรรคก้าวไกลบอกว่าเป็นความหวังใหม่ กล้าชนทุกอย่าง แต่ทำไมจึงไม่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างที่ควรจะเป็น แม้กระทั่งธนาธรเองก็บอกว่า ‘เพื่อไทยเป็นมิตร’ และบอกออกสื่อฯว่า จำเป็นต้องจับมือเพื่อไทยในครั้งหน้า เพราะเหตุนี้หรือเปล่า พรรคก้าวไกลจึงไม่คัดค้านเรื่องข้าว 10 ปี ยอมปล่อยผ่าน มองข้ามความเสียหายของประเทศ และผลกระทบต่อประชาชน เพื่อหวังผลประโยชน์ของในการร่วมรัฐบาลครั้งต่อไปใช่หรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้ คุณจะเรียกการเมืองใหม่ได้เหรอ ผมว่าไม่นะ

สื่อตปท. : คุณไม่อยากให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาลใช่หรือไม่

ผกก.2475 ตอบ : ส่วนตัวผมอยากให้ก้าวไกลกับเพื่อไทยรวมรัฐบาลกันได้ด้วยซ้ำ ผมไม่มีปัญหาอะไร ถ้าพรรคก้าวไกลรวมเสียงข้างมากในสภาได้ ก็ต้องได้เป็นรัฐบาล เพราะ เสียงประชาชนส่วนใหญ่เลือกมาแบบนั้น แต่ผมก็รู้ว่า ‘พรรคเพื่อไทย’ เขามีทางเลือก ถ้าเขารวมกับก้าวไกล เขาก็เป็นผู้ตาม ได้แค่กระทรวงรอง ๆ แต่ถ้าเขาตั้งรัฐบาลเอง เขาก็จะเป็นผู้นำ และได้กระทรวงหลัก ๆ จริงไหมครับ และที่สำคัญ พรรคก้าวไกลเกือบได้เป็นรัฐบาลแล้วนะ เพราะพรรคภูมิใจไทยพร้อมจะยกมือให้ ขอแค่ถอยเรื่อง แก้ไข ม.112 นั่นคือ เงื่อนไข สว.จะไม่มีผลเลย เพราะเสียงคุณมากพอที่จะชนะในสภา

แต่ พรรคก้าวไกลกลับดึงดันที่จะแก้ไข ม.112 ทั้ง ๆ ที่คนที่เลือกก้าวไกล ไม่ได้มีคนเลือกเพราะนโยบาย ม.112 เท่านั้น แต่ยังมีนโยบายเงินเดือนผู้สูงอายุ นโยบายแรงงานอื่น ๆ เมื่อพรรคก้าวไกลบอกว่าจะไม่ทรยศอุดมการณ์ ไม่ล้มเลิกแก้ ม.112 ผมว่าไม่เมกเซนส์เท่าไหร่ เพราะการแก้ ม.112 เนี่ย ได้ประโยชน์กันไม่กี่คนเองนะครับ คือถ้าผมเป็นพิธา ผมจะบอกฐานเสียงว่า ‘การแก้ ม.112 เป็นอุปสรรคในการนำพานโยบายเพื่อประชาชนอื่น ๆ ไปทำให้เกิดผล ดังนั้น ผมจะขอถอยเรื่องแก้ ม.112 ไปก่อน เพื่อให้เราได้มีโอกาสในการบริหารบ้านเมือง เพราะยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ประชาชนรอไม่ได้ ส่วนเรื่องความขัดแย้ง และนักโทษคดีการเมือง ผมขอให้คำมั่นว่า ผมจะหาทางใช้กลไกสภาในการเยียวยาแก้ไข’ เท่านี้คุณก็หล่อ ฐานเสียงเข้าใจได้ เพราะเขาต้องมองว่า อย่างน้อยได้อำนาจมาก่อน อย่างอื่นไว้ขับเคลื่อนทีหลังได้ แต่คุณเลือกที่จะไม่ยอมไง พอคุณไม่ยอม เพื่อไทยเขาก็อ้างความชอบธรรมที่จะตั้งรัฐบาลแข่งได้เลย

ทำให้ผมมองว่า จริง ๆ แล้วก้าวไกลไม่อยากเป็นรัฐบาลในตอนนี้รึเปล่า เลยออกมามุมนี้

สื่อตปท. : คุณคิดเห็นอย่างไรกับการยุบพรรคก้าวไกล

ผกก.2475 ตอบ : กฎหมายยุบพรรคมันมีอยู่มาก่อน ถ้าพรรคก้าวไกลคิดว่าไม่ผิดก็สู้คดีกันไป แต่พรรคก้าวไกลเขาบอกตลอดเวลาว่า เขาไม่กลัวโดนยุบ เพราะยิ่งยุบก็ยิ่งโต ฝ่ายพรรคเพื่อไทยเองก็เคยผ่านการโดนยุบมา 3 ครั้ง (ไทยรักไทย / พลังประชาชน / ไทยรักษาชาติ) ทุกวันนี้พรรคเพื่อไทยก็ยังอยู่ ตอนอนาคตใหม่โดนยุบ เขาก็ย้ายมาพรรคก้าวไกล ถ้าโดนยุบอีก ก็แค่ตั้งพรรคใหม่แล้วสู้กันต่อ ดังนั้นต่อให้ยุบไป ก็ทำลายอุดมการณ์ก้าวไกลไม่ได้

แต่สิ่งเดียวที่จะทำลายพรรคก้าวไกล ก็คือ การไม่รับฟังความเห็นต่าง ไม่เอาคนเห็นต่าง เพราะ ประชาธิปไตย คือพื้นที่ให้คนเห็นต่างมาหาทางออกร่วมกัน การดื้อรั้นเอาแต่ความคิดตัวเองไม่สนไม่ฟังคนอื่น แบบนั้นเป็นเผด็จการ ไม่ใช่ประชาธิปไตย

สื่อตปท. : คุณเห็นว่า มาตรา 112 มีปัญหาหรือไม่

ผกก.2475 ตอบ : คุณทราบไหมว่า เพราะเหตุการณ์ 6 ตุลา จึงจำเป็นต้องทำให้ มาตรา 112 แรงขึ้น ถ้าไม่มีกฎหมายนี้คุ้มครองไว้ ก็อาจจะทำให้คนไทยโกรธแค้นออกมาทำร้ายทำลายกันอีก และจริงๆ แล้ว มาตรา 112 ไม่ได้มีผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปเลย ไม่ได้เกี่ยวกับชีวิตประจำวันใดๆ เพราะมันคือกฎหมายที่คุ้มครองบุคคล ที่มีส่วนเชื่อมโยงกับความเป็นสถาบันหลักของชาติ ถ้าคุณวิจารณ์โดยสุจริต ไม่ได้ไปหมิ่นประมาทใส่ร้าย คุณก็ไม่มีความผิด อาจารย์มหาลัย วิจารณ์สถาบันฯ ตั้งเยอะแยะ ไม่เห็นจะโดนอะไร แต่ชอบชี้นำให้เด็ก ๆ ไปหมิ่นแทน ด้วยการให้ข้อมูลบิดเบือน ข้อมูลที่บอกไม่ครบ เพื่อให้เด็กหลงเชื่อไปในทิศทางที่ต้องการ ยืมปากเด็กให้ออกมาพูดในสาธารณะจนโดนคดี 112

คุณคิดว่าปัญหาของ ม.112 แท้จริงคืออะไรล่ะ คุณชอบบอกว่า กฎหมายมันมีปัญหา แต่ผมมองว่า ตัวปัญหาจริง ๆ คือคนที่สุมหัวกันหลอกเด็กเหล่านี้ รวมทั้งพวกที่หนีคดีอยู่เมืองนอก ที่ตั้งกลุ่มเฟซบุ๊ก กลุ่มแชท ปล่อยเฟกนิวส์สถาบันฯ พวกลี้ภัยอยู่เมืองนอกปั่นข่าวกันโดยไม่รับผิดชอบเพราะกฎหมายไทยไปไม่ถึง ส่วนเด็กที่หลงเชื่อก็นำเฟกนิวส์เหล่านี้ออกไปโพสต์ เอาไปพูดบนเวทีเพื่อโจมตีสถาบันฯ จนโดนคดีตาม ๆ กันไป ผมจึงขอถามกลับว่า คุณคิดว่าปัญหาคือ ตัวกฎหมาย หรือ คนที่เอาข้อมูลมาหลอกเด็กไปทำผิด 112 ที่ต้องรับผิดชอบ

สื่อตปท. : คุณคิดว่าบทลงโทษ 3-15 ปี ไม่รุนแรงไปหรือ?

ผกก.2475 ตอบ : ผมคิดว่ากำลังพอดี เพราะตามกฎหมายไทย ถ้าคุณผิดกระทงเดียว คุณรับสารภาพ สำนึกผิด ศาลจะลดโทษให้กึ่งหนึ่งคือ 1.5 ปี ซึ่งเมื่อโทษไม่ถึง 2 ปี ไม่เคยทำผิดมาก่อน คุณก็แค่รอลงอาญา ไม่ต้องติดคุก แต่ถ้าคุณทำผิดซ้ำ ๆ คุณก็รับโทษมากขึ้น

ตัวผมเองเห็นใจเด็ก ๆ ที่โดนคดี 112 ก็อยากจะหาหนทางเยียวยานะ แต่ กฎหมายมันมีอยู่ก่อน ถ้าคุณไม่ไปทำผิดซะเอง ม.112 ก็ทำอะไรคุณไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าเมืองไทยมีความประนีประนอมอยู่ ถ้าคุณยอมรับผิด สำนึกผิดจริง ๆ ประพฤติดี กลับตัวกลับใจ คุณก็มีโอกาสขออภัยโทษ คุณก็จะได้ออกมาเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไปทำผิดกฎหมายแต่บอกกฎหมายผิด ต้องยกเลิกกฎหมาย แบบนี้ผมไม่เห็นด้วย

สื่อตปท. : แล้วการที่แค่วิจารณ์แล้วต้องติดคุก มันเหมาะสมหรือไม่?

ผกก.2475 ตอบ : คุณเคยเห็นป้ายที่ใช้ถ้อยคำรุนแรง และปลุกระดมให้ล้มล้างสถาบันฯในม็อบหรือไม่ (สื่อตปท.ยอมรับว่ามี) นั่นคือผลของการหมิ่นประมาทใส่ร้ายสถาบันฯ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณเรียกว่า “แค่วิจารณ์” มีนักวิชาการมากมายที่วิจารณ์สถาบันตรงไปตรงมา แต่ก็ไม่โดน 112 แต่การที่เอาเรื่องเท็จไปปลุกปั่นให้เกลียดชังสถาบันฯ จนออกมาก่อม็อบชูป้ายล้มล้างสถาบันฯ คุณก็ต้องได้รับโทษ สมเหตุสมผลอยู่แล้ว

ดังนั้น เรื่องอะไรที่คุณฟังคนนั้นคนนี้มา คุณไม่มีหลักฐาน พิสูจน์ไม่ได้ ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าจริงหรือเท็จ คุณก็แค่อย่าเอาไปพูด ไปโพสต์ แต่ถ้าคุณเอาไปเผยแพร่ต่อ จนเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น คุณก็ต้องรับผลของการกระทำนั้น จะมาบอกว่าไม่ผิดไม่ได้

สื่อตปท. : แล้วคุณคิดเห็นอย่างไร? ที่หลายฝ่ายมองว่า ม.112 ละเมิดสิทธิมนุษยชน

ผกก.2475 ตอบ : สิทธิมนุษยชน ควรปกป้องผู้ถูกกระทำ ไม่ใช่ปกป้องผู้กระทำผิด พวกคุณมองสถาบันกษัตริย์ ก็เป็นปุถุชนใช่หรือไม่ ถ้าคุณมองว่า ‘ทุกคนเป็นคนเหมือนกัน’ กษัตริย์ก็ต้องมีสิทธิมนุษยชนเช่นกัน ต้องได้รับการคุ้มครองจากการหมิ่นประมาทใส่ร้าย ไม่จริงหรือ แม้แต่คนธรรมดายังมีกฎหมายหมิ่นประมาทคุ้มครอง กษัตริย์ที่เป็นสถาบันความมั่นคงของประเทศ ก็จำเป็นต้องมี ยิ่งในตอนนี้ มีผู้ไม่หวังดีจากต่างประเทศคอยเผยแพร่ข่าวปลอมให้เด็ก ๆ หลงเชื่อ เพื่อให้ออกมาก่อม็อบต่อต้านสถาบันฯ จนเกิดความวุ่นวาย ทำให้ ม.112 เป็นสิ่งจำเป็นด้วยซ้ำ
สื่อตปท. : แล้ว มุมมองประชาธิปไตยของคุณเป็นอย่างไร?

ผกก.2475 ตอบ : ประชาธิปไตยคือพื้นที่ที่คนหลากหลายความคิด เข้ามาหาทางออกด้วยกัน จะเอาแต่ใจกันอย่างเดียวไม่ได้ เหมือนบทสรุปช่วงท้ายของแอนิเมชันที่เรายกพระราชดำรัสของ ร.๗ มา ว่าทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน อย่าเอาตัวเองเป็นใหญ่ ต้องลืมความขัดแย้งเพื่อชาติ

และผมอยากให้ประชาชนทำตัวให้สมกับเป็นเจ้านายนักการเมือง เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง ต้องคอยจับตาดูนักการเมือง ไม่ว่าจะฝั่งไหน เพราะนักการเมืองคือคนที่ต้องทำงานรับใช้ประชาชน ถ้านักการเมืองที่เราเลือกมาทำไม่ดี เราก็ต้องคัดค้าน ไม่ใช่ว่าเห็นด้วยไปเสียทุกเรื่อง ทุกวันนี้ นักการเมืองที่ชอบ ทำอะไรผิด คนก็พร้อมจะแบก พร้อมจะแก้ตัวให้ แบบนี้ นักการเมืองเลยได้ใจ ไม่ต้องเกรงใจประชาชน เพราะประชาชนคอยแบกตลอดเวลา

***** หมายเหตุ *****
ขอสงวนชื่อสื่อฯ เพราะเราต้องการนำเสนอแค่ประเด็นคำถาม
ไม่ต้องการให้วิจารณ์ไปถึงสำนักข่าวนั้น

>> พื้นที่ขายของ
 เปิดพรีออเดอร์ 
หนังสือการ์ตูน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ

โอนเงินสั่งจองได้ที่
ธนาคารกสิกรไทย
ชื่อบัญชี บจก.นาคราพิวัฒน์
เลขที่บัญชี 1518061840

>> สั่งจองหนังสือ โดยส่งข้อมูลตามแบบฟอร์มได้ที่
https://forms.gle/Ls647MmQh39qmXYD8

** หากจองผ่าน Form ไม่ได้ ให้ติดต่อทาง inbox เพจนะครับ **

 การระดมทุนเพื่อการบริจาค 
*** บริจาคเป็นยอดเงิน ไม่มีขั้นต่ำ ***
เพื่อสมทบทุนในการผลิตหนังสือส่งมอบให้สถานศึกษา

โดยท่านสามารถร่วม ‘บริจาคเงิน’ ได้ที่
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ชื่อบัญชี บจก.นาคราพิวัฒน์
เลขที่บัญชี 2651412698

โดยแจ้งยอดเงิน และหลักฐานการโอนได้ที่
https://forms.gle/CHNEPq6TpJ9aLnnBA

ทีมงานจะนำยอดเงินบริจาคไปสมทบทุนในการผลิตหนังสือ เพื่อนำไปบริจาคให้สถานศึกษา และ ห้องสมุดต่าง ๆ ต่อไป

รายละเอียดเพิ่มเติม
http://2475animation.com/?p=23

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
Facebook : 2475 Dawn of Revolution
Email : [email protected]