ยอดขายรถยนต์แบรนด์จีนทั่วโลก มากกว่าแบรนด์สหรัฐฯ แล้ว แม้ตลาดภายในประเทศจีน จะลดความร้อนแรงลงไปบ้างก็ตาม
(21 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนขายรถยนต์ทั่วโลกได้มากกว่าบรรดาผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อ้างอิงจากรายงานที่เผยแพร่โดยบริษัทวิจัยตลาด JATO Dynamics
จากข้อมูลพบว่า แบรนด์ต่าง ๆ ของจีน ที่นำโดยบีวายดี ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเซินเจิ้น ขายรถยนต์ใหม่ได้ 13.43 ล้านคันในปีที่แล้ว ส่วนแบรนด์ต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ขายรถยนต์ได้รวมกันราว 11.93 ล้านคัน อย่างไรก็ตามแบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นยังคงอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่ง รักษาความเป็นผู้นำได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยยอดขายทั่วโลก 23.59 ล้านคัน
ทั้งนี้ รายงานยังพบด้วยว่ายอดขายรถยนต์ของบรรดาบริษัทจีนมีอัตราการเติบโตมากกว่าแบรนด์สัญชาติสหรัฐฯ โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 23% จากหนึ่งปีก่อนหน้า ส่วนเหล่าบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ มียอดขายเติบโตเพียง 9%
เฟลิเป มูนอซ นักวิเคราะห์อาวุโสของ JATO กล่าวว่า “ความประมาทเลินเล่อของค่ายรถยนต์เก่าแก่ ผลก็คือราคารถยนต์ยังอยู่ในระดับสูงมาอย่างต่อเนื่อง ได้ผลักพวกผู้บริโภคหันเข้าหารถยนต์ทางเลือกค่ายจีนที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า โดยไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่ราคารถยนต์ยังคงเพิ่มขึ้นในทุก ๆ แห่ง แบรนด์รถยนต์จีนใช้ประโยชน์จากแนวโน้มนี้ในการเข้าถึงเสียงตอบรับของตลาดในอัตราที่รวดเร็วอย่างมาก”
รายงานของ JATO พบว่าแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเกือบทั่วทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นตะวันออกกลาง ยูเรเชีย และแอฟริกา และมีทีท่าเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในลาตินอเมริกา
และเอเชีย นอกจากนี้ แบรนด์รถยนต์จีนยังมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว อย่างยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอิสราเอล
อ้างอิงรายงานของ JATO พบว่า Qin รถคอมแพกต์ซีดานของบีวายดี เป็นรถจีนรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แม้ตลาดภายในจีน ยอดขายรถยนต์จะส่งสัญญาณลดความร้อนแรงลงไป แต่บรรดาผู้ผลิตของประเทศแห่งนี้กำลังค้นหาแหล่งบ่อเกิดแห่งการเติบโตในต่างแดนมาทดแทน
รายงานยังระบุอีกว่า สาเหตุที่แบรนด์รถยนต์จีนประสบความสำเร็จในด้านยอดขายในบรรดาชาติเศรษฐกิจเกิดใหม่ สืบเนื่องจากนโยบายที่เข้าถึงได้ง่าย การปรับลดอุปสรรคทางการค้า และความอ่อนไหวต่อราคาของบรรดาผู้บริโภค
ที่มา : MGROnline