‘กกต.’ ลุยเอาผิดย้อนหลังเด็กก้าวไกล ‘นครชัย ขุนณรงค์’ ปมรู้ไม่มีสิทธิแต่ยังสมัคร สส. หลังเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์

(5 เม.ย. 67) เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. สั่งเอาผิดย้อนหลัง นายนครชัย ขุนณรงค์ อดีต สส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล

โดย กกต.เห็นว่า ข้อเท็จจริงเป็นยุติว่า นายนครชัย เคยต้องคำพิพากษาว่ากระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำ โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ตามคำพิพากษาศาลจังหวัดชลบุรี คดีหมายเลขดำที่ 6962/2542 คดีหมายเลขแดงที่ 6766/2542 วันที่ 24 พ.ย.42 แม้ต่อมาจะมี พ.ร.บ.ล้างมลทิน ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ. 2550 มีผลใช้บังคับ แต่การล้างมลทินคือการลบล้างโทษว่ามิเคยถูกลงโทษจำคุกในความผิดนั้น ๆ เท่านั้น

ส่วนพฤติกรรม หรือการกระทำความผิดซึ่งศาลพิพากษาว่าได้กระทำความผิดฐานใดฐานหนึ่งยังคงอยู่ ไม่มีผลเป็นการลบล้างการกระทำความผิดและลบล้างคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ามีการกระทำความผิดนั้น

ตามแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 24/2564 ข้ออ้างของนายนครชัย ที่ว่าตนได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.ล้างมลทินในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ. 2550 จึงไม่อาจรับฟังได้ นายนครชัย จึงเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561 มาตรา 42 (12)

อีกทั้ง นายนครชัย ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้งของตนเองให้เป็นไปตามที่กฎหมาย กำหนด เมื่อ นายนครชัย ได้ลงลายมือชื่อในใบสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 3 จ.ระยอง ลงวันที่ 3 เม.ย.66 รับรองว่าตนเองมีคุณสมบัติเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง สส.ระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. โดยรู้อยู่แล้วว่า ตนเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดดังกล่าวของศาลจังหวัดชลบุรี

กรณีจึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า นายนครชัย ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งแล้วปกปิด หรือไม่แจ้งข้อความจริงนั้น และให้ถือว่าการเลือกตั้ง สส.ระยอง เขต 3 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ นายนครชัย ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.2561 มาตรา 54 วรรคสอง และมาตรา 151 จึงมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ นายนครชัย สิ้นสุดลงตั้งแต่วันเลือกตั้ง และมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายนครชัย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.2561 มาตรา 54 และให้รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตามระเบียบกกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 86 เพื่อดำเนิน คดีอาญากับนายนครชัย ตามมาตรา 151 ของกฎหมายเดียวกันและกรณีการดำเนินการเรียกค่าเสียหาย ในการจัดการเลือกตั้ง สส.ระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3 ใหม่ แทนตำแหน่งที่ว่าง อันเนื่องมาจากการกระทำความผิดของนายนครชัย

ทั้งนี้ นายนครชัย ได้รับการเลือกตั้งเป็น สส. เมื่อวันที่ 24 พ.ค.66 แต่หลัง กกต.ประกาศรับรอง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยขณะนั้น ออกมาเปิดเผยว่า นายนครชัย เคยต้องโทษจำคุกถือว่าขาดคุณสมบัติในการเป็น สส. ทำให้ในวันที่ 3 ส .ค.66 นายนครชัยได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น สส. และ กกต.จัดให้มีการเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันที่ 10 ก.ย.66  โดยนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ จากพรรคก้าวไกล เป็นผู้ได้รับการเลือกตั้ง